ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ในปี 2024:
- 🥇 ExpressVPN: มันไม่แพลนระดับฟรี แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็น VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ในปี 2024 และคุณก็สามารถทดลองใช้งานมันได้อย่างไม่มีความเสี่ยง ผ่านการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันของพวกเขา ExpressVPN นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง มีความเร็วในการเชื่อมต่อสูงที่สุด รองรับการสตรีมมิ่งได้เป็นอย่างดี และก็มีแอปที่ใช้งานง่าย สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกัน 8 การเชื่อมต่อ
เราใช้เวลาอยู่หลายสัปดาห์ไปกับการทดสอบ VPN ฟรี ทั้งหมดเท่าที่เราจะหาได้สำหรับ iOS และก็น่าเสียดาย แต่ข้อสรุปของเราก็คือส่วนใหญ่แล้วมันแย่มาก ๆ เลย มันมักจะขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยจำเป็น ควบคุมความเร็วของคุณ มีข้อจำกัดเรื่องข้อมูลที่คุณจะใช้ได้ในแต่ละวันหรือเดือน และบางรายถึงขั้นเอาข้อมูลของคุณไปขายให้ผู้โฆษณาบุคคลที่สามเลยก็มี
ถึงจะเป็นเช่นนั้นแล้ว แต่เราก็ไปเจอ VPN ฟรีสำหรับ iOS บางตัว ที่ยังพอน่าไปลองอยู่ VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นมีความปลอดภัย มีความเร็วใช้ได้ และก็มีแอป iOS ที่ใช้งานง่าย หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ExpressVPN และเว็บไซต์นี้อยู่ในกลุ่มบริษัทที่มีเจ้าของเดียวกัน
สรุปโดยย่อเกี่ยวกับ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ใน 2024:
- 1. 🥇ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับ iOS ในปี 2024
- 2. 🥈Proton VPN — VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ที่ใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด
- 3. 🥉>Windscribe — VPN ฟรีคุณภาพดีสำหรับใช้สตรีมมิ่งได้ไม่จำกัดการเชื่อมต่อ
- 4. hide.me — VPN ดีและฟรีที่เหมาะสำหรับมือใหม่
- 5. Hotspot Shield — VPN ฟรีและดีพอใช้สำหรับใช้ท่องเว็บ
- ตารางเปรียบเทียบ VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ในปี 2024
🥇1. ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ในปี 2024
ExpressVPN เป็น VPN ที่เราชื่นชอบที่สุดในปี 2024 — มันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับชั้นนำของโลก มีความเร็วสูงที่สุด มีแอป iOS ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ซึ่งรองรับภาษาไทย และรองรับการสตรีมมิ่งได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ VPN รายอื่น ๆ มันไม่มีแพลนระดับฟรี แต่การสั่งซื้อทั้งหมดนั้นจะมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นคุณสามารถลองใช้งานมันได้แล้วค่อยขอคืนเงินเต็มจำนวน ถ้าคุณรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับความต้องการของคุณ
ExpressVPN นั้นมีฟีเจอร์ความปลอดภัยอันน่าประทับใจ ประกอบไปด้วย:
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอันเข้มงวด ExpressVPN ไม่เก็บบันทึกข้อมูลผู้ใช้งานใด ๆ ทั้งสิ้น และนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลนี้ก็ได้ผ่านการตรวจสอบยืนยันจากองค์กรอิสระมาแล้วหลายครั้ง
- การป้องกันการรั่วไหลแบบเต็มรูปแบบ ป้องกันการรั่วไหลของ DNS, WebRTC และที่อยู่ IP IPv6
- Kill switch ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณทันทีที่ VPN ของคุณขาดการเชื่อมต่อ นี่ก็เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณนั้นจะไม่มีทางรั่วไหลออกไป มี VPN น้อยรายมากที่มี kill switch ให้ใช้งานบนระบบ iOS
- เทคโนโลยี TrustedServer พวกเขาใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only ดังนั้นจะไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานไว้บนฮาร์ดไดรฟ์เลย และเซิร์ฟเวอร์ก็จะถูกล้างทุกครั้งที่มีการปิดเปิดใหม่
- Perfect forward secrecy คีย์การเข้ารหัสของคุณจะถูกเปลี่ยนเป็นประจำ เพื่อให้ถึงแม้จะมีคีย์ที่รั่วไหลออกไปนั้น ก็ไม่สามารถส่งผลใด ๆ ถึงคีย์ในอดีตและในอนาคตได้
- ตัวจัดการภัยอันตราย บล็อกตัวติดตามโฆษณาและปกป้องคุณจากเว็บไซต์ที่อาจจะทำฟิชชิงหรือเต็มไปด้วยมัลแวร์
ถ้าความเร็วคือสิ่งที่คุณกำลังตามหาสำหรับ iPhone และ iPad ของคุณ ExpressVPN คือคำตอบของคุณ เพราะมันเป็น VPN ที่มีความเร็วสูงที่สุด ระหว่างการทดสอบของเรา หน้าเว็บและวิดีโอก็โหลดในทันที เราสามารถเล่นเกมมือถือได้อย่างไม่มีอาการแลค และเราก็สามารถสตรีมมิ่งในความชัดระดับ HD ได้อย่างไม่มีการบัฟเฟอร์ ด้วย 3,000+ เซิร์ฟเวอร์ใน 90+ ประเทศรวมถึงประเทศไทย รับรองว่ายังไงคุณก็หาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไม่ไกลเพื่อเชื่อมต่อได้อย่างแน่นอน ซึ่งก็จะทำให้คุณได้ความเร็วสูงที่สุด
ExpressVPN ใช้งานได้กับแอปสตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหมดเท่าที่คุณจะนึกออก อาทิเช่น Netflix สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ, Amazon Prime, Disney+, ONE 31, Channel 7, และอีกกว่า 65+ บริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ มันจะต่างจาก VPN ฟรีตรงที่มันไม่มีการจำกัดข้อมูลที่คุณจะใช้งานได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถดูได้นานเท่าที่คุณต้องการ การโหลด torrent บน iOS นั้นไม่ใช่เรื่องที่สะดวกนัก แต่ ExpressVPN นั้นเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้ดาวน์โหลดไฟล์ — มันเปิดให้คุณโหลด torrent ได้บนทุกเซิร์ฟเวอร์
ExpressVPN นั้นมีความเร็วสูงและติดตั้งง่าย เราใช้เวลาเพียง 1-2 นาทีในการดาวน์โหลด และก็ติดตั้งบน iPhone และ iPad และหน้าตาของมันนั้นก็ดูเข้าใจง่าย จนถึงแม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดใช้ VPN ก็ไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน เราชอบเป็นพิเศษตรงที่หน้าโฮมของมันนั้นออกแบบมาให้สามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เคยเชื่อมต่อไม่นานมานี้ได้อย่างรวดเร็ว และก็ยังมีเครื่องมือ ตำแหน่งอัจฉริยะ ช่วยบ่งชี้เซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดให้คุณได้
การสมัครใช้บริการจาก ExpressVPN ทั้งหมดนั้นจะมาพร้อมกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านให้ใช้ฟรี (ExpressVPN Keys) มันมีความปลอดภัยเป็นที่สุด เปิดให้คุณสามารถเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัดจำนวน มีระบบกรอกอัตโนมัติ และบันทึกอัตโนมัติ อันไร้ที่ติ และก็มีตัวสร้างรหัสผ่านที่ดีมากด้วย มันยังขาดฟีเจอร์บางประการอย่างเช่นการตรวจสอบรหัสผ่าน และการแชร์รหัสผ่านที่ เครื่องมือจัดการรหัสผ่านชั้นนำรายอื่น ๆ สำหรับ iOS นั้นมีให้ใช้งาน แต่ก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับส่วนเสริมที่แถมมาให้ใช้ฟรี และเราก็ชอบที่ยังสามารถใช้งานมันได้ฟรีต่อไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าการสมัครใช้งาน ExpressVPN จะหมดอายุแล้วก็ตาม
แพลนรายเดือนและรายปีของ ExpressVPN เริ่มต้นที่ US$4.99 / เดือน มันมีราคาสูงเล็กน้อย แต่ไม่มี VPN ไหนอีกแล้วที่คุ้มค่าไปกว่านี้ แพลนทั้งหมดของมันเชื่อมต่อได้ 8 อุปกรณ์และมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
สรุป:
ExpressVPN นั้นไม่ฟรี แต่มันมีความคุ้มค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับ VPN ทั้งหมด 2024 มันมีความเร็วสูงที่สุด และก็เป็น VPN ที่มีความปลอดภัยที่สุดสำหรับ iOS มันยังใช้งานกับเว็บไซต์สตรีมมิ่งชั้นนำได้ทั้งหมด รองรับการโหลด torrent บนทุกเซิร์ฟเวอร์ และก็ยังมีแอปที่ใช้งานง่าย การสั่งซื้อทั้งหมดนั้นมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ ExpressVPN
🥈2. Proton VPN — แพลนระดับฟรีที่ดีที่สุด ใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด
Proton VPN เป็น VPN ฟรีตัวเดียวในรายการนี้ที่เปิดให้ใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด และถ้าคุณแค่ต้องการ VPN ฟรีเท่านั้น นี่แหละคือตัวเลือกที่ดีที่สุด การใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด หมายความว่าคุณสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้นานตราบเท่าที่คุณต้องการโดยที่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องข้อมูลจะหมด ในขณะที่ VPN ฟรีรายอื่น ๆ ต่างก็จะมีข้อจำกัดด้านข้อมูลที่เปิดให้ใช้งานได้รายวันหรือรายเดือน
อย่างไรก็ตาม แพลนระดับฟรีของ Proton VPN นั้นก็มีข้อจำกัดในด้านอื่น ๆ (เหมือนกับ VPN ฟรีทั่ว ๆ ไป) ยกตัวอย่างเช่นคุณจะสามารถเข้าถึงได้แค่เซิร์ฟเวอร์ (100+) ในสหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น มันจะรองรับแค่ 1 อุปกรณ์ และก็ไม่รองรับการสตรีมมิ่งและการโหลด torrent และก็จะขาดฟีเจอร์ที่มีในแพลนระดับพรีเมียมอย่างเช่นตัวบล็อก โฆษณา ตัวติดตาม และมัลแวร์ และเซิร์ฟเวอร์แบบ Secure Core
ถึงจะทราบเป็นเช่นนั้นแล้ว แต่เรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ Proton VPN นั้นก็เป็นจุดแข็งมาก แอป iOS นั้นมี perfect forward secrecy, การป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ, kill switch และการเข้ารหัสแบบ full-disk (หมายความว่าถึงแม้เซิร์ฟเวอร์ของ Proton VPN จะเกิดการรั่วไหล แต่ผู้ที่พยายามแฮ็กก็จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลใด ๆ ได้อยู่ดี) นอกจากนี้แล้ว Proton VPN ก็มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบจากองค์กรอิสระมาแล้ว และพวกเขาก็ยังมีการเผยแพร่รายงานความโปร่งใสที่พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้แบ่งปันข้อมูลผู้ใช้งานให้กับใคร อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใครก็คือ แอปทั้งหมดของพวกเขานั้นเป็นโอเพนซอร์ซ ดังนั้นใครก็สามารถตรวจสอบโค้ดของพวกเขาเพื่อดูเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยได้ (และแอปแต่ละตัวของ Proton VPN ก็ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว)
Proton VPN รองรับแค่ความเร็วระดับ “กลาง” ในแพลนระดับฟรี แต่เรื่องนี้ก็อาจจะเห็นได้ไม่ชัดเนื่องจากมันมีฟีเจอร์ VPN Accelerator ซึ่งเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อบนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล (สูงสุด 400% ตามที่เว็บไซต์ของ Proton VPN กล่าวอ้าง) เราอาศัยอยู่ที่ไต้หวัน และถึงแม้ว่าเราจะได้ความเร็วสูงสุดตอนที่เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ญี่ปุ่น แต่ความเร็วของเราก็ยังถือว่าเร็วใช้ได้ตอนที่เราเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์เนเธอร์แลนด์และสหรัฐอเมริกา นั่นก็เพราะว่ามี VPN Accelerator (เว็บไซต์ส่วนใหญ่ใช้เวลาโหลดนานขึ้นกว่าเดิม 3-4 วินาที ถ้าไม่มีฟีเจอร์นี้) แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความเร็วของ Proton VPN ก็ยังคงห่างชั้นกับ ExpressVPN อยู่มาก
ถ้าอัปเกรดไปใช้หนึ่งใน แพลนพรีเมียมรายเดือนหรือรายปีของ Proton VPN (ราคาเริ่มต้นที่ US$2.99 / เดือน) จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด 6,305 เซิร์ฟเวอร์ใน 60+ ประเทศ (รวมถึง ประเทศไทย) 10 การเชื่อมต่อ รวมถึงความเร็วที่สูงที่สุด พร้อมตัวบล็อก โฆษณา ตัวติดตาม และมัลแวร์ (NetShield) และก็รองรับการสตรีมมิ่งและการโหลด torrent เต็มรูปแบบด้วย แพลนจ่ายเงินทั้งหมดของพวกเขานั้นมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินตามสัดส่วนภายใน 30 วัน
สรุป:
Proton VPN นั้นเป็น VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iOS มันเปิดให้คุณใช้งานได้ไม่จำกัดด้านข้อมูล มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ครบคัน มีความเร็วดีใช้ได้ และสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้จาก 3 ประเทศที่แตกต่าง แต่มันไม่รองรับการสตรีมมิ่ง และคุณก็สามารถเชื่อมต่อได้แค่ 1 การเชื่อมต่อ แพลนระดับพรีเมียมจะเพิ่มการรองรับการสตรีมมิ่งและการโหลด torrent และสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ใน 60+ ประเทศ และอื่น ๆ อีกมากมาย
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Proton VPN
🥉3. Windscribe — ดีมากสำหรับใช้สตรีมมิ่ง + เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวน
Windscribe มีแพลนระดับฟรีสำหรับ iOS ที่เปิดให้เชื่อมต่อได้พร้อมกันไม่จำกัดจำนวน ดังนั้นคุณจึงสามารถปกป้อง iPhone และ iPad ของคุณได้ทั้งครอบครัว มันมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ใน 10 ที่ตั้ง ประกอบไปด้วย สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร และฮ่องกง ซึ่งก็ถือว่าเยอะดีมากเมื่อเทียบกับ VPN ฟรีรายอื่น ๆ ในรายการนี้ และคุณก็สามารถโหลด torrent ได้จากทุกเซิร์ฟเวอร์
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้รับข้อมูลไม่จำกัด (เหมือนอย่าง Proton VPN) แต่มันก็เปิดให้ใช้งานได้ถึง 10 GB ต่อเดือน ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการสตรีมมิ่งภาพยนตร์หรือซีรี่ส์สักหนึ่งภาคในความชัดระดับ HD อย่างไรก็ตาม ขอให้ทราบไว้ว่าคุณจะต้องกรอกที่อยู่อีเมลถึงจะได้ใช้ข้อมูล 10 GB ต่อเดือน (ไม่อย่างนั้นคุณจะได้แค่ 2 GB ต่อเดือน) — เราชอบมากที่คุณจะได้ข้อมูลแถมเพิ่มอีก 5 GB ด้วยถ้าคุณทวีตไปหา Windscribe
Windscribe นั้นเป็นหนึ่งใน VPN ฟรีตัวเดียวที่เราแนะนำไว้ให้ใช้สำหรับสตรีมมิ่ง และมันก็ยังเอาไว้ใช้โหลด torrent ได้ดีอีกด้วย มันอนุญาตให้คุณสตรีมมิ่งได้บนทุกเซิร์ฟเวอร์ฟรี และมันก็สามารถใช้งานกับบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมต่าง ๆ ได้อย่างมีความเสถียร ยกตัวอย่างเช่น Netflix, Amazon Prime, Disney+ และ Hulu มันยังรองรับทราฟฟิค P2P บนเซิร์ฟเวอร์ฟรีทั้งหมด และก็ใช้งานกับ torrent client ชั้นนำได้ทั้งหมดด้วย
Windscribe นั้นมีความเร็วที่ดีใช้ได้ เว็บไซต์โหลดเสร็จได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าเราจะเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล เราสามารถวิดีโอระดับ HD ได้อย่างไม่มีอาการบัฟเฟอร์เลย ในขณะที่ไฟล์ขนาดเล็กถึงกลางนั้นก็ดาวน์โหลดเสร็จอย่างรวดเร็ว (คุณไม่สามารถโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากการจำกัดข้อมูล)
Windscribe นั้นมีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ประกอบไปด้วย perfect forward secrecy, การป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ, เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only และนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล (ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ) นอกจากนี้ฟีเจอร์ไฟร์วอลล์ (ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือน kill switch) ก็ยังไม่เปิดใช้งานสำหรับแอป iOS — การที่ไม่มีฟีเจอร์ kill switch สำหรับ iOS VPN นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ ExpressVPN และ Proton VPN ต่างก็มีฟีเจอร์นี้สำหรับ iOS
Windscribe มีแพลนระดับพรีเมียมรายเดือนและรายปี ราคาเริ่มต้นที่ US$3.00 / เดือน มันจะทำให้คุณสามารถใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้มากขึ้น (60+ ประเทศ) และเข้าถึงฟีเจอร์ได้มากยิ่งขึ้น แพลนของ Windscribe ทั้งหมดนั้นได้รับการรับประกันคืนเงินภายใน 3 วัน
สรุป:
แพลนระดับฟรีของ Windscribe นั้นเหมาะมากสำหรับใช้สตรีมมิ่ง คุณจะสามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันไม่จำกัดจำนวนการเชื่อมต่อ มีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ใน 10 ประเทศ แต่คุณจะใช้ข้อมูลได้แค่ 15 GB ต่อเดือน โดยที่แพลนระดับพรีเมียมจะปลดล็อกข้อจำกัดด้านข้อมูล และคุณจะเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ใน 60+ ประเทศ
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Windscribe
4. hide.me — VPN ฟรีและดีสำหรับมือใหม่
hide.me นั้นมีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมากซึ่ง ทำให้มันใช้งานง่าย ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยใช้ VPN มาก่อนเลยก็ตาม มันมีปุ่มเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วสำหรับการเชื่อมต่อได้ในทันที การออกแบบนั้นดูเรียบง่าย ไม่เลอะเทอะ และมันก็มีแพลตฟอร์มบริการลูกค้าที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์แชท 24/7 เป็นภาษาไทย การสนับสนุนทางอีเมล และคู่มือสำหรับแก้ปัญหา — ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีคำถามอะไร ก็มีคำตอบให้คุณอย่างแน่นอน
เราชอบฟีเจอร์ความปลอดภัยของ hide.me เช่นกัน มันมาพร้อมกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบจากองค์กรอิสระแล้ว, kill switch ที่คุณสามารถปรับแต่งเพื่อป้องกันไม่ให้บางแอปเชื่อมต่อออนไลน์ได้ถ้าคุณไม่ได้เชื่อมต่อ VPN, การป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ และมันก็ยังใช้ perfect forward secrecy และเซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only เช่นเดียวกันกับ Proton VPN มันมีการเผยแพร่รายงานความโปร่งใสทุกปี อย่างไรก็ตาม เราอยากเห็นการตรวจสอบจากองค์กรอิสระเกี่ยวกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่อัปเดตกว่านี้ เพราะการตรวจสอบครั้งล่าสุดมันตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 มาแล้ว
แพลนระดับฟรีของ hide.me นั้นมีข้อเสียบางประการ มันจำกัดข้อมูลที่ใช้งานได้อยู่ที่ 10GB ต่อเดือน มันช้ากว่า ExpressVPN มาก ๆ (WireGuard โปรโตคอลที่เร็วที่สุดของมันนั้นไม่ได้เปิดให้ผู้ใช้งานฟรีใช้ได้) มันเข้าถึงแอปสตรีมมิ่งได้อย่างไม่เสถียร เช่น Netflix, Amazon Prime, และ Disney+ โดยที่คุณจะสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์แค่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมัน และเนเธอร์แลนด์ และก็เชื่อมต่อได้แค่ 1 การเชื่อมต่อเท่านั้น
แพลนแบบจ่ายเงินของ Hide.me ราคาเริ่มต้นที่ US$2.29 / เดือน และมันก็มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใน 45+ ประเทศ เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 10 การเชื่อมต่อ รองรับสตรีมมิ่งได้ดี และแพลนทั้งหมดของ hide.me ก็มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
สรุป:
แอป iOS ของ hide.me นั้นดีมากสำหรับมือใหม่เพราะการออกแบบที่ดูเข้าใจง่าย แพลนระดับฟรีนั้นมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ดี แต่จำกัดการใช้ข้อมูลแค่ 10 GB คุณสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้จากสี่ที่ตั้ง คุณจะไม่สามารถใช้ WireGuard และมันก็ไม่เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง การอัปเกรดไปเลือกใช้แพลนระดับพรีเมียมจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ไม่จำกัด มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกเพิ่มในหลายประเทศ มีความเร็วสูงขึ้น และก็รองรับการสตรีมมิ่งได้เป็นอย่างดี
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ hide.me
5. Hotspot Shield — ดีสำหรับใช้ท่องเว็บ
Hotspot Shield มีแพลนระดับฟรีที่เปิดให้ใช้ข้อมูลได้ 500 MB ต่อวัน แต่รวมแล้วก็จะได้ 15 GB ต่อเดือน ซึ่งมากกว่า VPN ฟรีรายอื่น ๆ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่ข้อมูลที่ใช้ได้ต่อวันนั้นจะไม่รวมไปวันถัดไป การจำกัดข้อมูลรายวันในปริมาณน้อย หมายความว่าคุณอาจจะไม่สะดวกในการใช้งานอื่น ๆ นอกจากการท่องเว็บโดยทั่วไปผ่าน iPhone หรือ iPad ของคุณ
Hotspot Shield นั้นมีความปลอดภัยที่ดีและก็ใช้งานง่าย มันมี perfect forward secrecy และแอป iOS ที่มีอินเทอร์เฟซเข้าใจง่าย ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์หรือเปลี่ยนการตั้งค่าแอปได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียหลายเรื่องที่คุณควรจะทราบไว้ก่อนที่จะเลือกใช้แพลนฟรีของ Hotspot Shield สำหรับ iOS มันจำกัดผู้ใช้งานฟรีไว้บนเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาเท่านั้น มันจำกัดความเร็วอยู่ที่ 2Mbps (แต่ก็เร็วพอสำหรับการท่องเว็บทั่วไป) และแอป iOS ของมันก็ป้องกันการรั่วไหลแค่ DNS (ไม่กันการรั่วไหล IPv6 หรือ WebRTC) อีกเรื่องที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับแพลนฟรีของ Hotspot Shield ก็คือมันแชร์ที่ตั้งของคุณให้กับผู้โฆษณา ไม่รองรับการสตรีมมิ่ง และคุณก็สามารถเชื่อมต่อได้แค่การเชื่อมต่อเดียว
แพลนของ Hotspot Shield ราคาเริ่มต้นที่US$2.99 / เดือน และก็สามารถใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด มีความเร็วสูงมาก รองรับการสตรีมมิ่ง และสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ ได้ใน 80+ ประเทศ แพลนระดับพรีเมียมทั้งหมดของพวกเขานั้นมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินยาวถึง 45 วัน
สรุป:
Hotspot Shield นั้นเป็น VPN ฟรีที่ถือว่าใช้ได้สำหรับการท่องเว็บบนอุปกรณ์ iOS แต่คุณจะใช้ข้อมูลได้แค่ 500 MB ต่อวัน มันมีความปลอดภัยดีและก็มีแอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน แต่ Hotspot Shield จะจำกัดความเร็วของคุณ จำกัดคุณให้ใช้ได้แค่เซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา และก็ไม่มีการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ แพลนระดับพรีเมียมจะปลดการจำกัดเหล่านั้นและเปิดให้คุณเชื่อมต่อได้ 10 การเชื่อมต่อ
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Hotspot Shield
การเปรียบเทียบระหว่าง VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ในปี 2024
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: ExpressVPN และเว็บไซต์นี้อยู่ในกลุ่มบริษัทที่มีเจ้าของเดียวกัน
วิธีการเลือก VPN ฟรีและดีที่สุดสำหรับ iOS ในปี 2024
- ข้อมูลที่ให้ใช้งาน VPN ฟรีส่วนใหญ่จะจำกัดข้อมูลที่คุณใช้ได้ในแต่ละเดือน Proton VPN นั้นแตกต่างจากรายอื่นตรงที่มันไม่จำกัดข้อมูลที่คุณใช้งานได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็น VPN ฟรีที่เราชื่นชอบสำหรับ iOS แต่ VPN ฟรีทั้งหมดที่เราแนะนำนั้นต่างก็เปิดให้ใช้งานข้อมูลในแต่ละวันหรือเดือนได้อย่างดีพอสมควร
- ความเร็ว VPN ทุกตัวต่างก็จะทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อลดลงไม่มากก็น้อย เนื่องจากการเข้ารหัส VPN ฟรีบางรายทำให้ปัญหาเรื่องนี้แย่ลงไปอีกด้วยการจำกัดความเร็วและจำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเลือกใช้ได้ให้เหลือแค่ไม่กี่แห่ง ซึ่งทำให้คนแย่งกันใช้ VPN ฟรีที่เราแนะนำทั้งหมด ต่างก็มีความเร็วที่ดีใช้ได้ แต่ไม่มีตัวไหนเลยที่เร็วเท่ากับ ExpressVPN
- ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง VPN ฟรีบางรายนั้นจะขาดฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่สำคัญ VPN ทั้งหมดในรายการนี้ ต่างก็มีฟีเจอร์ความปลอดภัยของ VPN ระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม อย่างเช่น การเข้ารหัส 256-bit AES (การเข้ารหัสระดับทหาร) และนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล (พวกเขาจะไม่บันทึกข้อมูลส่วนตัวหรือกิจกรรมออนไลน์ของคุณ) ExpressVPN, Proton VPN และ hide.me ยังมี kill switch ซึ่งเป็นของที่หายากสำหรับแอป iOS ด้วย
- ใช้งานง่าย VPN ทั้งหมดในรายการของเรานี้มีแอป iOS ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะไม่ถนัดเรื่องเทคโนโลยี แต่คุณก็สามารถใช้งานมันได้อย่างง่ายดาย
- ฟีเจอร์เสริมพิเศษ แอป iOS สำหรับ VPN ส่วนใหญ่นั้นมักจะขาดฟีเจอร์ต่าง ๆ เพราะข้อจำกัดของ Apple อย่างไรก็ตาม VPN ที่ฟรีและดีจะต้องมีฟีเจอร์เสริมอย่างเช่น split tunneling, port forwarding และ kill switch
- แพลนพรีเมียมที่ราคาไม่แพง ผู้ใช้งานบางรายอาจจะอยากอัปเกรดไปใช้แพลนจ่ายเงินของ VPN เพื่อที่จะเข้าถึงฟีเจอร์ได้อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น เราเลยเลือกเฉพาะ VPN ที่มีแพลนจ่ายเงินที่ราคาแข่งขันได้
ความเสี่ยงและข้อเสียของการใช้ VPN ฟรีสำหรับ iOS
- ความปลอดภัยที่อ่อนแอ VPN ฟรีส่วนใหญ่จะขาดฟีเจอร์สำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณ ยกตัวอย่างเช่น บางรายนั้นก็ไม่มีการเข้ารหัสและการป้องกันการรั่วไหล (ทำให้ที่อยู่ IP ของคุณนั้นอาจถูกจู่โจมได้)
- ความเร็วต่ำ ถึงแม้ว่า VPN ทั้งหมดจะทำให้ความเร็วของคุณตกลงเล็กน้อย แต่ VPN ฟรีหลายรายแย่ยิ่งกว่านั้นอีก ซึ่งก็เพราะว่า VPN ฟรีอาจจะจำกัดความเร็วของคุณหรือเปิดให้คุณเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้น้อย ทำให้เกิดการแย่งกันใช้และก็ช้าลงไปอีก
- ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่มีจำกัด VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะมีข้อจำกัดด้านเซิร์ฟเวอร์ที่เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรี นี่อาจจะทำให้ผู้ใช้งานหลายรายไม่สามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ที่ตั้งของพวกเขา ทำให้ได้ความเร็วที่ต่ำ คุณอาจจะไม่สามารถขอที่อยู่ IP จากประเทศที่คุณต้องการสำหรับการสตรีมมิ่งหรือเล่นเกมได้ด้วย
- การจำกัดข้อมูล VPN ฟรีเกือบทั้งหมดนั้นจะจำกัดปริมาณข้อมูลที่คุณจะใช้ได้ในแต่ละเดือน (หรือแต่ละวัน) ยิ่งถ้าจำกัดหนัก ๆ คุณก็จะใช้มันหมดอย่างรวดเร็ว ไปกับการเพียงแค่ท่องอินเทอร์เน็ตไม่ถึงชั่วโมง และถึงแม้ว่าจะเปิดให้ใช้ข้อมูลได้สูงมาก ๆ แต่มันก็ยังไม่เพียงพออยู่ดีถ้าคุณจะใช้ VPN สำหรับสตรีมมิ่งหรือดาวน์โหลดเนื้อหาเป็นหลัก VPN ฟรีที่เราชื่นชอบที่สุดคือ Proton VPN มันเป็น VPN ฟรีตัวเดียวที่เปิดให้ใช้งานข้อมูลได้ไม่จำกัด
- ไม่รองรับการสตรีมมิ่งและการโหลด torrent VPN ฟรีส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้ทำการสตรีมมิ่ง หรือไม่ก็ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมได้อย่างมีความเสถียร และส่วนใหญ่ก็ไม่อนุญาตให้ใช้การแชร์ไฟล์แบบ P2P บนเซิร์ฟเวอร์ฟรีด้วย ถึงแม้ว่าคุณจะใช้ VPN ที่รองรับการสตรีมมิ่งและการโหลด torrent คุณก็อาจจะเจอปัญหาเรื่องข้อมูลที่จำกัดอยู่ดี เราอยากจะแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้เลือกใช้ VPN จ่ายเงินที่ราคาไม่แพงอย่างเช่น ExpressVPN ซึ่งเป็น VPN ที่ดีที่สุดสำหรับสตรีมมิ่ง และ โหลด torrent
- การบันทึกข้อมูลทราฟฟิคของคุณ VPN ฟรีบางรายนั้นมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่อ่อน หรือไม่ก็ไม่มีเลย นี่หมายความว่าพวกเขาจะเก็บข้อมูลกิจกรรมออนไลน์ของคุณ และนำไปขายให้ผู้โฆษณาบุคคลที่สามเพื่อทำกำไรจากแพลนระดับฟรีของพวกเขา VPN ชั้นนำระดับพรีเมียมทั้งหมดต่างก็มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลอันเข้มงวด ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว
VPN iOS ราคาถูกในปี 2024
- Private Internet Access: Private Internet Access นั้นเป็นหนึ่งใน VPN ที่เราชื่นชอบสำหรับ iOS มันมีความเร็วสูง ความปลอดภัยสูง ปรับแต่งได้เยอะ และก็รองรับการสตรีมมิ่งได้ดี (ใช้งานได้กับ Netflix, Amazon Prime, Disney+ และอื่น ๆ) และก็เป็นหนึ่งใน VPN น้อยรายที่มี kill switch สำหรับ iOS ราคาถูกมากเริ่มต้นที่ US$2.03 / เดือน พร้อมรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Private Internet Access ของพวกเรา
- CyberGhost VPN: CyberGhost VPN นั้นเป็น VPN ที่ดีมากสำหรับใช้สตรีมมิ่งบน iOS เนื่องจากมันมีความเร็วสูง และก็มีเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่งที่ปรับแต่งมาพิเศษสำหรับบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ และใช้งานได้หลายประเทศ มันใช้งานง่ายมากและก็มี kill switch ราคาเพียง US$2.03 / เดือน และก็มาพร้อมการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วันสำหรับแพลนรายปีทั้งหมด อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ CyberGhost VPN ของพวกเรา
- PrivateVPN: PrivateVPN นั้นเป็น VPN ที่ใช้งานและเข้าใจได้ง่ายสำหรับ iOS ซึ่งสามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งได้เป็นอย่างดี ด้วยราคาเพียงแค่ US$2.00 / เดือน มันยังเป็น VPN iOS ที่ถูกที่สุดอีกด้วย และแพลนทั้งหมดก็ได้รับการประกันคืนเงินภายใน 30 วัน อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ PrivateVPN ของพวกเรา
แบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ที่ไม่ติดอันดับ
- Avira Phantom VPN แพลนระดับฟรีของ Avira Phantom VPN นั้นมีความเร็วสูง และก็สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ใน 35+ ประเทศ อย่างไรก็ตาม มันจำกัดปริมาณข้อมูลที่ใช้ได้อยู่เพียงแค่ 500 MB ต่อเดือน (1 GB ต่อเดือนถ้าคุณลงทะเบียนบัญชี) และแพลนระดับฟรีก็ไม่มี kill switch ด้วย
- TunnelBear แพลนระดับฟรีของ TunnelBear นั้นเปิดให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ใน 45+ ประเทศ และ ฟีเจอร์ทั้งหมดของแพลนแบบจ่ายเงิน แต่เราไม่ค่อยอยากจะแนะนำมันสักเท่าไร เพราะว่ามันเปิดให้ใช้ข้อมูลแค่เดือนละ 500 MB ซึ่งก็ดีพอสำหรับแค่ทดลอง VPN เท่านั้น
- ZoogVPN ZoogVPN นั้นเปิดให้ใช้ข้อมูลได้ถึง 10 GB ต่อเดือนแต่ว่าคุณจะเข้าถึงได้เพียงแค่เซิร์ฟเวอร์ใน 3 ประเทศเท่านั้น (สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์) และมันก็ใช้การเข้ารหัส การเข้ารหัส 128-bit AES ที่ปลอดภัยน้อยกว่า (แทนที่จะเป็นการเข้ารหัส 256-bit AES เหมือน VPN ทั้งหมดในรายการของเรา)
คำถามพบบ่อย
มี VPN ที่ฟรี 100% สำหรับ iOS หรือไม่?
มี iOS VPN สี่ตัวในรายการของเรา มีแพลนที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี 100% ExpressVPN ไม่มีแพลนระดับฟรี แต่มีความคุ้มค่าสูงที่สุด และก็มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
อย่างไรก็ตาม VPN ฟรีส่วนใหญ่จะบล็อกฟีเจอร์ทั้งหลายไว้ให้คนที่จ่ายเงิน ยกตัวอย่างเช่น Proton VPN ไม่อนุญาตให้ทำการสตรีมมิ่งหรือโหลด torrent ในแพลนระดับฟรี Windscribe, hide.me และ Hotspot Shield ต่างก็มีข้อมูลให้ใช้ได้อย่างจำกัด ด้วยสาเหตุนี้ เราถึงแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ลองอัปเกรดไปใช้ ExpressVPN หรือ VPN อื่น ๆ ที่ราคาไม่แพง ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานที่คิดจะใช้มันบ่อยครั้ง
VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iOS คือ?
ตัวเลือกอันดับท็อปของเราคือ Proton VPN มันเป็นหนึ่งใน VPN ฟรีตัวเดียวที่เปิดให้ใช้แบนด์วิดท์และข้อมูลได้ไม่จำกัด และก็มีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยขั้นสูง ประกอบไปด้วยการเข้ารหัส 256-bit AES และนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบจากองค์กรอิสระแล้ว
VPN อื่น ๆ ในรายการของเรา นั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดี ExpressVPN อาจจะไม่ฟรี แต่แพลนของมันมีราคาไม่แพง และมันก็เป็น VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ในปี 2024 Windscribe นั้นเหมาะสำหรับใช้สตรีมมิ่ง และสามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันไม่จำกัดจำนวนการเชื่อมต่อ แต่จำกัดข้อมูลการใช้งานไว้ที่ 10 GB ต่อเดือน hide.me นั้นใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ (แต่จำกัดข้อมูลการใช้งานไว้ที่ 10 GB ต่อเดือน) ในขณะที่ Hotspot Shield นั้นเหมาะสำหรับใช้ท่องเว็บและก็เปิดให้ใช้งานได้ 500 MB ต่อวัน
VPN ฟรีสำหรับ iOS ปลอดภัยหรือไม่?
ไม่ VPN ฟรีส่วนใหญ่สำหรับ iOS นั้นไม่ปลอดภัย เพราะพวกมันจะขาดฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสำคัญ ๆ อย่างเช่น การเข้ารหัส 256-bit AES และพวกเขาอาจจะบันทึก (และขาย) ข้อมูลของคุณ
VPN ฟรีที่เราแนะนำ นั้นมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ พวกมันต่างก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม และยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงอย่างเช่นการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only และ perfect forward secrecy ด้วย
ฉันจะหา VPN ฟรีมาใช้บน iOS ได้อย่างไร?
คุณสามารถหา VPN ฟรีใช้บน iPhone หรือ iPad ได้ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ:
- ขั้นตอนที่ 1 เลือก VPN สำหรับ iOS ที่คุณภาพดีและมีแพลนระดับฟรี เราแนะนำ Proton VPN — มันมีความเร็วสูง มีความปลอดภัย และไม่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลหรือแบนด์วิดท์
- ขั้นตอนที่ 2 ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป VPN คุณสามารถค้นหาแอปได้จาก Apple App Store และก็สามารถติดตั้งตามขั้นตอนได้อย่างง่ายดาย
- ขั้นตอนที่ 3 เปิดแอป VPN เท่านั้นเอง คุณก็สามารถใช้งาน VPN ฟรีบนอุปกรณ์ iOS ของคุณได้แล้ว
ฉันสามารถสตรีม Netflix ด้วยการใช้ VPN ฟรีบน iOS ได้หรือไม่?
มี VPN ฟรีบางรายที่ใช้งานกับ Netflix ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมทั้งหลายได้ VPN บางราย (อย่างเช่น Proton VPN และ Hotspot Shield) ไม่รองรับการสตรีมมิ่งในแพลนระดับฟรีของพวกเขา ในขณะที่บางรายที่ใช้งานกับ Netflix ได้ ก็มีข้อมูลให้ใช้ไม่เพียงพอในแต่ละเดือนที่จะสตรีมรายการทีวีได้เกินหนึ่งตอน
หากคุณกำลังมองหา VPN ฟรีและดีสำหรับ iOS เพื่อใช้สตรีมมิ่ง Netflix ลองดู Windscribe เนื่องจากมันมีความเร็วดี และคุณก็จะสามารถใช้งานข้อมูลได้ 10 GB ต่อเดือน (คุณสามารถทวีตไปหา VPN นี้เพื่อขอเพิ่มได้อีก 5 GB) แต่เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณเลือกใช้ VPN ชั้นนำแบบจ่ายเงินดีกว่า เพื่อที่จะดู Netflix ได้ราบรื่นที่สุด VPN ที่เราชื่นชอบสำหรับใช้สตรีมมิ่ง Netflix คือ ExpressVPN ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด มีความเร็วสูงสุด มีแอปที่ใช้งานง่ายสำหรับอุปกรณ์ยอดนิยมทั้งหมด และมันก็ใช้งานได้กับเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ ทั่วโลกกว่า 65+ เว็บไซต์