มีเวลาไม่พออ่านรีวิวทั้งหมดใช่ไหมล่ะ นี่คือรายการเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ2021:
- 🥇 Dashlane — แอพพลิเคชั่นสำหรับ Windows ที่มีความปลอดภัยขั้นสูงสุด ส่วนขยายบราวเซอร์ที่ใช้งานได้ง่ายสำหรับ Chrome, Firefox, Edge, IE, Opera, Brave และ Safari และ ฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมายอย่างเช่น ความสามารถในการใช้งานร่วมกับ Windows Hello compatibility, VPN, เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านภายในคลิกเดียว, การควบคุมดาร์กเว็บและพื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านขนาด 1 GB
ฉันได้ทดสอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในตลาด เพื่อดูว่าบริการไหนเหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ Windows ในปี 2021 — เครื่องมือนี้มีการเข้ารหัสระดับสูง ใช้งานร่วมกับ Windows ได้อย่างง่ายดายและสามารถซิงค์ข้อมูลบนอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถใช้งานได้กับฟังชั่นไบโอเมตริกอย่างเช่น Windows Hello และทำหน้าที่สามารถสร้าง บันทึกและกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่น่าเสียดายที่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านจากบุคคลที่สามนั้นไม่มีประสิทธิภาพ มีบัคและขาดฟีเจอร์ที่สำคัญไป — และหลายเครื่องมือไม่มีการปรับปรุงฟังก์ชั่นการใช้งานบนบราวเซอร์ (ซึ่งมันแย่มาก)
แต่หลังจากทดลองมาเป็นเวลาหลายอาทิตย์และทำการเปรียบเทียบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านต่าง ๆ ที่ยอดเยี่ยมในตลาด ฉันได้เจอผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในด้านความปลอดภัย ความง่ายในการใช้งานและความคุ้มค่าโดยรวม
นี่คือรายการเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ใน2021:
- 1.🥇 Dashlane — เครื่องมือจัดการรหัสผ่านสำหรับ Windows ที่ดีที่สุดโดยรวมใน 2021
- 2.🥈 1Password — ใช้งานได้ง่ายมาก (และเหมาะกับการใช้งานในครอบครัว)
- 3.🥉 RoboForm — มีความสามารถในการกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติที่ยอดเยี่ยม
- 4. Keeper — มีส่วนเสริมด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ (มีพื้นที่เก็บข้อมูล 10 GB และเข้ารหัสแชท)
- 5. LastPass — มีแผนการใช้งานฟรีที่ดีและแผนพรีเมี่ยมที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง
- โบนัส: NordPass — อินเทอร์เฟสที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับการเข้ารหัสระดับสูง
- การเปรียบเทียบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Windows
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านสำหรับ Windows
ฉันให้คะแนนเครื่องมือจัดการรหัสผ่านสำหรับ Windows อย่างไร 2021
- ความปลอดภัย ฉันทดสอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละอันเพื่อดูความสามารถในการรักษาความปลอดภัยด้วยการยืนยัน 2 ขั้นตอน (2FA) การตรวจสอบรหัสผ่านรายการเข้ารหัสระดับธนาคาร ฉันยังให้คะแนนพิเศษสำหรับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ใช้โปรโตคอล zero-knowledge และตัวเลือกการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอย่างเช่นการสแกนไบโอเมตริก
- ฟีเจอร์ ฉันทดสอบแต่ละฟีเจอร์และตรวจสอบให้มั่นใจว่ามันสามารถใช้งานได้จริง ๆ ฉันมองหาฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่นการสแกนดาร์กเว็บ การเข้ารหัสการแบ่งปันรหัสผ่านและการจัดเก็บข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละฟีเจอร์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องมือ
- การสนับสนุนลูกค้า ฉันทดสอบการเข้าถึงบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างเช่นไลฟ์แชท โทรศัพท์และอีเมล์เพื่อตรวจสอบว่าทีมงานสนับสนุนลูกค้านั้นจะสามารถให้การสนับสนุนพวกเขาได้ตลอดเวลาที่ลูกค้าต้องการ ฉันยังเข้าไปที่ส่วนคำถามที่พบบ่อย ส่วนข้อมูลคำแนะนำและฟอรั่ม เพื่อดูว่าพวกเขานำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์เอาไว้ที่นั่นหรือเปล่า
- ความง่ายในการใช้งานรายการของฉันรวบรวมผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอเครื่องมือที่ใช้งานได้ง่าย มีการสนับสนุนในหลายแพลตฟอร์ม อินเตอร์เฟซที่ไม่ซับซ้อนและนำเสนอส่วนเสริมบราวเซอร์ที่ปลอดภัย
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไม่ติดโผของฉัน
- Sticky Password Sticky Password เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ใช้งานได้ง่าย ที่สามารถให้บริการพื้นฐานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตาม Sticky Password มันมาพร้อมกับส่วนเสริมเบราเซอร์ที่ดูล้าสมัยและขาดฟีเจอร์ที่จำเป็นอย่างเช่น การกู้คืนบัญชี การตรวจสอบดาร์กเว็บและพื้นที่จัดเก็บไฟล์ที่ปลอดภัย
- Bitwarden Bitwarden เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านโอเพนซอร์สที่ดี — ที่มาพร้อมกับแผนการใช้งานฟรีที่ยอดเยี่ยมและแผนพรีเมี่ยมที่มีราคาถูก แต่ Bitwarden นำใช้งานได้ยากกว่าผลิตภัณฑ์อื่นในรายการนี้และฟีเจอร์การกรอกข้อมูลอัตโนมัตินั้นไม่สามารถกรอกเนื้อหาทั้งหมดได้ในการทดสอบของฉัน
- Zoho Vault Zoho Vault นั้นเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดี แต่มันถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับการใช้งานแบบทีมหรือการใช้งานในธุรกิจ ดังนั้นมันจะมีฟีเจอร์ที่ไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับการใช้งานส่วนบุคคลหรือการใช้งานในครอบครัว
🥇1. Dashlane — เครื่องมือจัดการรหัสผ่านสำหรับ Windows ที่ดีที่สุดโดยรวมใน 2021

Dashlane นั้นเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ฉันชอบมากที่สุดใน 2021 — มันมาพร้อมกับการเข้ารหัสขั้นสูงทำให้การกรอกข้อมูลอัตโนมัติใน Windows นั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายและมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างเช่น การเปลี่ยนรหัสผ่านภายในคลิกเดียวและ VPN
แอพพลิเคชั่น Dashlane Windows นั้นสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ฉันใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการตั้งค่าและใช้งานที่เก็บรหัสผ่าน — ฟีเจอร์ทั้งหมดของ Dashlane นั้นใช้งานได้ง่าย ตั้งแต่การนำรหัสผ่านเข้าไปยังที่เก็บรหัสผ่านของ Dashlane ไปจนถึงการติดตั้งส่วนเสริมบราวเซอร์และการตั้งค่าการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ
Dashlane มี:
- พื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านไม่จำกัด
- การซิงค์ในหลายอุปกรณ์
- การแบ่งปันรหัสผ่าน
- เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านภายในคลิกเดียว
- เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN)
- การตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน
- การควบคุมดาร์กเว็บ
- การเข้าถึงอัตโนมัติ
- พื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านที่ปลอดภัย (1 GB)
ฟีเจอร์ที่ฉันชอบที่สุดของ Dashlane ก็คือ เครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านภายในคลิกเดียว หลังจากที่ Dashlane ตรวจสอบที่เก็บรหัสผ่านของฉันแล้ว ฉันก็สามารถทำการเปลี่ยนรหัสผ่านที่อ่อนแอด้วยรหัสผ่านใหม่ที่เข้มแข็งกว่าบนหลายเว็บไซต์ในคราวเดียวกัน บนเครื่องมือจัดการรหัสผ่านส่วนใหญ่คุณจะต้องทำการเปลี่ยนรหัสผ่านที่อ่อนแอนั้นด้วยตัวคุณเองทีละเว็บ แต่บน Dashlane คุณสามารถทำการเปลี่ยนรหัสผ่านได้ในกว่า 300 ในครั้งเดียว — มันช่วยฉันประหยัดเวลาได้อย่างมาก!
Dashlane เป็นบริการเดียวในรายการนี้ที่นำเสนอ VPN เมื่อฉันทดสอบ VPN ของ Dashlane มันก็สามารถให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีการเข้ารหัสให้กับฉันได้โดยที่ไม่ทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อลดลงเลย ฉันสามารถใช้ VPN ของ Dashlane เข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นในแต่ละภูมิภาคได้และสามารถสตรีวีดีโอได้ในความคมชัดแบบ HD โดยไม่มีการล้าช้าใด ๆ แม้ว่าฉันจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ไกลออกไปจากฉันมากก็ตาม — มันยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการรับชมเนื้อหาที่ไม่สามารถดูได้ในประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่
Dashlane Free ให้คุณสามารถบันทึกรหัสผ่านได้ถึง 50 รหัสผ่านใน 1 อุปกรณ์ Dashlane Premiumมีพื้นที่การจัดเก็บรหัสผ่านที่ไม่จำกัด, ไม่จำกัดอุปกรณ์, ไม่จำกัดการแบ่งปันรหัสผ่าน, VPN, การยืนยันด้วย 2FA และการตรวจสอบดาร์กเว็บ Dashlane ยังนำเสนอ แผนครอบครัว ที่คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้งานได้มากถึง 5 คนและจัดการแดชบอร์ดของครอบครัวได้
สรุป:
Dashlane เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านสำหรับ Windows ที่ฉันชอบมากที่สุด Dashlane นั้นนำเสนอบริการความปลอดภัยขั้นสูง (มีการเข้ารหัสข้อมูลที่แข็งแกร่ง, 2FA, การตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่านและการตรวจสอบดาร์กเว็บ) มันสามารถใช้งานได้ง่ายและมีอินเตอร์เฟซที่ไม่ซับซ้อนมาพร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย — รวมถึงเครื่องมือเปลี่ยนรหัสผ่านภายในคลิกเดียว, a VPN, ความสามารถในการใช้งานร่วมกับ Hello compatibility, พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มีการเข้ารหัสขนาด 1 GB และอื่น ๆ อีกมากมาย Dashlane Free นั้นมีบริการทดลองใช้งานฟรีจากแผน Premium และทุกการซื้อบริการของ Dashlane มาพร้อมกับการการันตีกลางคืนเงิน 30 วัน
อ่านรีวิวตัวเต็มของ Dashlane >
🥈2. 1Password — เครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด

1Password นั้นปลอดภัยใช้งานได้ง่ายและมีเครื่องมือเสริมต่าง ๆ มากมาย — ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้งาน Windows ที่มองหาเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ใช้งานได้ง่าย แต่มีฟีเจอร์นำเสนอครบครัน
ในระหว่างการทดสอบของฉันแอพพลิเคชั่นเดกส์ทอปของ 1Password สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นบน Windows และให้ฉันสามารถสร้าง จัดการและแบ่งปันรหัสผ่านได้อย่างง่ายดาย ฉันดีใจมากที่พบว่า 1Password สามารถใช้งานได้กับ Windows Hello ดังนั้นฉันสามารถใช้ลายนิ้วมือและ Face ID เพื่อเข้าถึงเก็บรหัสผ่านของฉันได้อย่างรวดเร็ว (1Password ยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่สามารถใช้งาน Windows Hello อย่างเช่นอุปกรณ์ที่มีฟีเจอร์การอ่านลายนิ้วมือหรือรหัส USB keys บนอุปกรณ์ที่ยังไม่มีเทคโนโลยีการปลดล็อคด้วยใบหน้า)
1Password มาพร้อมกับฟีเจอร์:
- พื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านไม่จำกัด
- การซิงค์ในหลายอุปกรณ์
- 2FA
- การแบ่งปันรหัสผ่าน
- การตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน
- การควบคุมดาร์กเว็บ
- การกู้คืนบัญชี
- พื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านที่ปลอดภัย (1 GB)
ฉันชอบฟีเจอร์การตรวจสอบความแข็งแกร่งรหัสผ่านของ 1Password มาก — ในขณะที่ฟีเจอร์นี้มันไม่ได้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ 1Password แต่ฉันก็ยังรู้สึกประทับใจที่มันสามารถตรวจสอบรหัสผ่านที่อ่อนแอ ทำซ้ำหรือรหัสผ่านที่ถูกละเมิดของฉันได้อย่างง่ายดาย ฉันคิดว่ามันยอดเยี่ยมที่ฟีเจอร์การตรวจสอบความแข็งแกร่งรหัสผ่านของ 1Password นั้นตรวจสอบวันหมดอายุของบัตรเครดิตและแจ้งเตือนให้คุณทราบว่ามีบัตรใดบ้างที่กำลังจะหมดอายุในเร็ว ๆ นี้
1Password นำเสนอแผนการใช้งาน 2 แบบ — 1Password Personal ที่มีการจัดเก็บรหัสผ่านไม่จำกัดจำนวนบนอุปกรณ์ไม่จำกัด, 2FA, การแบ่งปันรหัสผ่าน, การตรวจสอบรหัสผ่าน, การตรวจสอบดาร์กเว็บและพื้นที่การจัดเก็บรหัสผ่านที่มีการเข้ารหัสจำนวน 1 GB 1Password Families เพิ่มพื้นที่จัดเก็บที่สามารถแบ่งปันได้, ครอบคลุมสำหรับผู้ใช้สูงสุด 5 คนและการกู้คืนบัญชี 1Password เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านเพียงบริการเดียวในรายการนี้ที่ให้คุณเพิ่มผู้ใช้ได้มากเท่าที่คุณต้องการภายใต้แผน 1 แผน — ซึ่งทำให้ 1Password เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวหรือครัวเรือนที่มีผู้ใช้จำนวนมาก
สรุป:
1Password เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Windows ที่ใช้งานง่ายที่มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย — ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิคตลอดจนครอบครัวขนาดใหญ่ (1Password ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้ได้มากเท่าที่คุณต้องการในแผนครอบครัว) 1Password มีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงเช่น การเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง, 2FA (รวมถึงความเข้ากันได้กับ Windows Hello), การตรวจสอบความปลอดภัยของรหัสผ่าน, การตรวจสอบดาร์กเว็บ, การแบ่งปันรหัสผ่านที่ปลอดภัย, การกู้คืนบัญชีและอื่น ๆ คุณสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์พรีเมียมทั้งหมดของ 1Password พร้อมรับประกันคืนเงินภายใน 14 วัน
อ่านรีวิวตัวเต็มของ 1Password >
🥉3. RoboForm — ดีที่สุดสำหรับการกรอกแบบฟอร์มขั้นสูง

RoboForm มีเครื่องมือการกรอกแบบฟอร์มที่ดีมาก – มีความแม่นยำมากในการกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติในเว็บทุกประเภท ตั้งแต่แบบง่าย ๆ เช่นการเข้าสู่ระบบของ Facebook และ Instagram ไปจนถึงแบบที่ซับซ้อนมาก เช่น การซื้อของออนไลน์ ธนาคารและแบบฟอร์มบัญชี
แอพพลิเคชั่น RoboForm Windows และส่วนขยายเบราว์เซอร์ RoboForm นั้นทั้งใช้งานและติดตั้งได้ง่าย — อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ RoboForm และตัวเลือกการปรับแต่งที่ใช้งานง่ายทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิคมาก
มีเทมเพลตที่แตกต่างกัน 8 แบบที่ RoboForm สามารถกรอกแบบฟอร์มได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงแบบฟอร์มสำหรับที่อยู่ ธนาคาร รถยนต์และหนังสือเดินทาง ในการทดสอบของฉัน RoboForm สามารถกรอกแบบฟอร์มทดสอบเว็บแต่ละแบบได้ในคลิกเดียว มันสามารถกรอกข้อมูลทั้งหมดของฉันในช่องที่เหมาะสมได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด
RoboForm มีฟีเจอร์:
- ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่านและจำนวนอุปกรณ์
- การเข้าสู่ระบบแอพพลิเคชัน Windows
- 2FA
- การตรวจสอบรหัสผ่าน
- การเข้าถึงอัตโนมัติ
- โฟลเดอร์จัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยสำหรับการแบ่งปันรหัสผ่าน
- การบันทึกบุ๊คมาร์คที่ปลอดภัย
- พื้นที่จัดเก็บบันทึกที่ปลอดภัย
RoboForm เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่หาได้ยากที่นำเสนอการเข้าสู่ระบบแอพพลิเคชัน — ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถบันทึกและกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบอัตโนมัติสำหรับแอพพลิเคชัน Windows ของคุณเช่น Skype และ iTunes
ฉันยังชอบพื้นที่เก็บข้อมูลที่ปลอดภัยของ RoboForm ซึ่งทำให้ฉันสามารถบันทึกและแบ่งปันข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชุดความปลอดภัย, รหัสผ่านอินเทอร์เน็ต, ข้อมูลหนังสือเดินทางและแม้แต่สูตรลับของครอบครัว!
ฉันยังชอบเครื่องมือตรวจสอบรหัสผ่านของ RoboForm ด้วย — ซึ่งมันจะตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่านโดยใช้อัลกอริทึม “zxcvbn” ซึ่งเป็นอัลกอริทึมโอเพนซอร์สที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์หลายคนเชื่อว่าเป็นเครื่องมือตรวจสอบรหัสผ่านที่แม่นยำที่สุดในปัจจุบัน
RoboForm Free นำเสนอจำนวนรหัสผ่านไม่จำกัด, การตรวจสอบรหัสผ่าน, การแบ่งปันรหัสผ่านที่ปลอดภัย, การเข้าสู่ระบบแอพพลิเคชันและการจัดเก็บบุ๊กมาร์ก ด้วย RoboForm Everywhere, คุณยังมีการซิงค์ได้ในหลายอุปกรณ์, 2FA, การเข้าถึงฉุกเฉินและการการสำรองข้อมูลบน cloud RoboForm Everywhere Family นำเสนอแบบเดียวกัน แต่ครอบคลุมผู้ใช้สูงสุด 5 คน
สรุป:
RoboForm มีความสามารถในการกรอกแบบฟอร์มที่ยอดเยี่ยม — มันสามารถกรอกแบบฟอร์มได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งเว็บฟอร์มขั้นสูงได้ในคลิกเดียว RoboForm ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมายเช่น 2FA, การเข้าสู่ระบบแอพพลิเคชัน, ที่เก็บบุ๊กมาร์กและอื่น ๆ คุณสามารถทดลองใช้ RoboForm ด้วยการทดลองใช้ฟรี 30 วันและการซื้อ RoboForm ทั้งหมดมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
อ่านรีวิวตัวเต็มของ RoboForm >
4. Keeper — ดีที่สุดสำหรับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม

Keeper มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยนั้นสูงมากมาย — มันใช้การเข้ารหัส AES 256-bit มีตัวเลือกการรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยและเป็นไปตามมาตรฐาน Service Organization Controls (SOC 2) ซึ่งหมายความว่า Keeper ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดปลอดภัย 100%
แอพพลิเคชั่น Keeper Windows นั้นดีมาก – มีอินเทอร์เฟซที่สะอาด ทันสมัยและมีการจัดระเบียบอย่างดี ฟีเจอร์ทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้ง่ายและทุกอย่างทำงานได้ดีตามที่โฆษณาไว้ แต่ว่าฉันก็ไม่ค่อยประทับใจกับส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ Keeper ซักเท่าไหร่ — ซึ่งมันดีสำหรับการบันทึกและการกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติ แต่ไม่มีฟังก์ชันขั้นสูงบางอย่างในส่วนขยายเบราว์เซอร์อื่น ๆ เช่น Dashlane หรือ 1Password
Keeper มี:
- การควบคุมดาร์กเว็บ (BreachWatch)
- แชทเข้ารหัส (KeeperChat)
- การตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน
- พื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านที่ปลอดภัย (10 GB)
- การเข้าถึงอัตโนมัติ
- เข้าสู่ระบบไบโอเมตริกซ์ด้วย Windows Hello
ฉันชอบฟีเจอร์การตรวจสอบดาร์กเว็บของ Keeper มาก ซึ่งมันจะทำการตรวจสอบดาร์กเว็บเพื่อหารหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้ใช้หากข้อมูลของคุณถูกละเมิดการเข้าถึง ในขณะที่คู่แข่งชั้นนำบางรายตรวจสอบดาร์กเว็บเพื่อหาข้อมูลที่ถูกละเมิด แต่ฉันคิดว่า Keeper ทำงานได้ดีเป็นพิเศษในการตรวจจับการละเมิดความปลอดภัย – ในระหว่างการทดสอบ Keeper แจ้งเตือนฉันว่าอีเมลของฉันถูกละเมิด ซึ่งเครื่องมือจัดการรหัสผ่านคู่แข่งส่วนใหญ่ไม่สามารถตรวจจับได้!
Keeperแผนฟรีมาพร้อมกับการบันทึกรหัสผ่านไม่จำกัดจำนวน แต่ใช้ได้บนอุปกรณ์เดียวเท่านั้นKeeper Unlimited นำเสนอการบันทึกรหัสผ่านไม่จำกัด, บนอุปกรณ์ไม่จำกัด, 2FA, การเข้าถึงกรณีฉุกเฉิน, การตรวจสอบความปลอดภัยของรหัสผ่านและอื่น ๆ คุณสามารถอัพเกรดเป็นKeeper Plus Bundle เพื่อเพิ่มการตรวจสอบดาร์กเว็บและการจัดเก็บไฟล์ที่ปลอดภัย และ Keeper Max Bundle จะนำเสนอแอพพลิเคชั่นเข้ารหัสข้อความ Keeper ยังมีตัวเลือกสำหรับครอบครัวมากมาย
สรุป:
Keeper เป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยสูงที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย— เช่นการตรวจสอบดาร์กเว็บ, พื้นที่เก็บข้อมูลที่ปลอดภัย 10 GB, การรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัย, แชทที่เข้ารหัสและการตรวจสอบความปลอดภัยด้วยรหัสผ่าน Keeper มีแผนให้เลือกมากมายทั้งสำหรับบุคคลและครอบครัวและคุณสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมทั้งหมดของ Keeper ด้วยการทดลองใช้ฟรี 30 วัน
5. LastPass — เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน Windows ฟรีที่ดีที่สุด

LastPass มีแผนฟรีที่ดีสำหรับผู้ใช้ Windows ที่นำเสนอพื้นที่เก็บรหัสผ่านไม่จำกัด บนอุปกรณ์ไม่จำกัดจำนวนสำหรับผู้ใช้คนเดียว LastPass เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีเพียงหนึ่งเดียวที่มีการแบ่งปันรหัสผ่าน — คุณสามารถแบ่งปันรหัสผ่านได้ไม่จำกัด แต่แบ่งปันกับผู้ใช้รายอื่นเพียง 1 คนเท่านั้น
ทั้งแอพพลิเคชั่น Windows และส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ LastPass ทำงานได้ดีในระหว่างการทดสอบ — ฉันไม่มีปัญหาในการใช้งานฟีเจอร์ที่นำเสนอให้ทั้งหมดและฉันพบว่าการสร้างบันทึก การกรอกข้อมูลและการแบ่งปันรหัสผ่านสามารถทำได้อย่างง่ายดาย (แต่ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของ LastPass บางส่วนมีข้อจำกัดด้านฟังก์ชันการทำงาน)
LastPass Free มี:
- ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่านและจำนวนอุปกรณ์
- การแบ่งปันรหัสผ่านให้ผู้ใช้รายเดียว
- การกู้คืนบัญชี
- การตรวจสอบรหัสผ่าน
- การเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ
สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดเกี่ยวกับ LastPass คือมีตัวเลือกมากมายในการกู้คืนบัญชีของคุณ ในกรณีที่คุณลืมรหัสผ่านหลัก — เช่น LastPass สามารถส่งรหัสกู้คืนไปยังโทรศัพท์มือถือของคุณหรือคุณสามารถกู้คืนรหัสผ่านหลักก่อนหน้านี้ได้ถึง 30 วันหลังจากตั้งรหัสผ่านหลักใหม่
ในขณะที่LastPass Free นั้นใช้งานได้ดี แต่ LastPass Premium นั้นดีมากขึ้นไปอีก การเพิ่มคุณสมบัติต่าง ๆ เช่นการแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้หลายคน การตรวจสอบดาร์กเว็บ การเข้าถึงกรณีฉุกเฉินและพื้นที่เก็บข้อมูล 1 GB LastPass Families นั้นมีฟีเจอร์เหมือนกับPremiumแต่สามารถใช้งานได้ 6 คน
สรุป:
LastPass มีแผนฟรีที่ดีสำหรับผู้ใช้ Windows LastPass Free มาพร้อมกับการจัดเก็บรหัสผ่านไม่จำกัด บนอุปกรณ์ไม่จำกัดสำหรับผู้ใช้หนึ่งคน รวมถึงการแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้หนึ่งราย, 2FA, การกู้คืนบัญชีและการตรวจสอบรหัสผ่าน LastPass เวอร์ชันพรีเมี่ยมเพิ่มฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การแบ่งปันรหัสผ่านกับผู้ใช้หลายราย การตรวจสอบดาร์กเว็บ การเข้าถึงกรณีฉุกเฉินและที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ คุณสามารถทดลองใช้งาน LastPass ได้โดยใช้บัญชีทดลองใช้งานฟรี 30 วัน
อ่านรีวิวตัวเต็มของ LastPass >
โบนัส: NordPass — อินเทอร์เฟสที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับการเข้ารหัสระดับสูง

NordPassเป็นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่เรียบง่ายที่มาพร้อมการเข้ารหัส XChaCha20 — ซึ่งเป็นการเข้ารหัสแบบเดียวกับที่ Google ใช้ในปัจจุบันเป็นทางเลือกแทนการเข้ารหัส AES 256-bit แบบเดิม
นอกจากนี้ NordPass ยังใช้งานง่ายมาก ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านเทคนิค เมื่อฉันทดสอบแอพพลิเคชั่น Windows ของ NordPass ฉันพบว่าการสร้างรหัสผ่านใหม่ การกรอกข้อมูลรหัสผ่านอัตโนมัติ การจัดระเบียบข้อมูลและแบ่งปันรหัสผ่านและบันทึกย่อนั้นทำได้ง่ายมาก
NordPass ไม่ได้มาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษมากมาย แต่มีฟีเจอร์พื้นฐานทั้งหมด ได้แก่:
- การซิงค์ในหลายอุปกรณ์
- 2FA
- การแบ่งปันรหัสผ่าน
- การสแกนหาการละเมิดรหัสผ่าน
แม้ว่า NordPass จะไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในรายการนี้ แต่ก็มีบริการการจัดการรหัสผ่านที่จำเป็นในราคาที่คุ้มค่า คุณสามารถใช้NordPass Free ได้ใน 1 อุปกรณ์ในแต่ละครั้งNordPass Premium ให้คุณใช้งานได้ครอบคลุมสูงสุด 6 อุปกรณ์NordPass Family นำเสนอบริการแบบเดียวกันกัน แต่จะเพิ่มใบอนุญาตสำหรับผู้ใช้สูงสุด 6 คน
สรุป:
NordPass มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและความปลอดภัยระดับสูง — มีการป้องกันรหัสผ่าน Windows คุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัส XChaCha20 ที่ทันสมัย NordPass ยังมีโปรโตคอล zero-knowledge, 2FA และการแบ่งปันรหัสผ่าน การสมัครรับข้อมูลแบบพรีเมี่ยมทั้งหมดมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 30 วัน
อ่านรีวิวตัวเต็มของ NordPass >
ตารางเปรียบเทียบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Windows
เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน | ความสามารถในการใช้งานร่วมกับ Windows Hello | การตรวจสอบการละเมิดรหัสผ่าน | มี VPN รวมอยู่ด้วย | เข้ารหัสพื้นที่จัดเก็บ | เวอร์ชั่นฟรี |
1.🥇Dashlane | มี | มี | มี | 1 GB | 50 รหัสผ่านใน 1 อุปกรณ์ |
2.🥈1Password | มี | มี | ไม่มี | 1 GB | ไม่มี |
3.🥉RoboForm | มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่จำกัดรหัสผ่าน บน 1 อุปกรณ์ |
4. Keeper | มี | มี | ไม่มี | 10 GB | ไม่จำกัดรหัสผ่าน บน 1 อุปกรณ์ |
5. LastPass | มี | มี | ไม่มี | 1 GB | ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่านและจำนวนอุปกรณ์ |
6. NordPass | ไม่มี | มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่จำกัดรหัสผ่าน บน 1 อุปกรณ์ |
เครื่องมือจัดการรหัสผ่านสำหรับ Windows — คำถามที่พบบ่อย:
🤔 ทำไมฉันจึงใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Chrome / Firefox / Edge ไม่ได้
แม้ว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านในตัวของเบราว์เซอร์ของคุณอาจจะใช้งานได้สะดวก แต่มันก็ใช้งานได้ไม่ดีเท่าไหร่ — มันใช้งานได้เฉพาะบนเบราว์เซอร์ ไม่ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ ไม่สามารถแบ่งปันรหัสผ่านได้ ฟังก์ชันการกรอกอัตโนมัติก็ไม่ดีพอและจะไม่ตรวจสอบที่เก็บรหัสผ่านของคุณ
ซึ่งแตกต่างจากเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบนเบราว์เซอร์ที่ฉันแนะนำในที่นี้ มันจะสร้างรหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่สามารถเจาะเข้าถึงได้ การกรอกรหัสผ่านและกรอกข้อมูลอัตโนมัติที่แม่นยำในเว็บต่าง ๆ ที่หลากหลาย มีฟีเจอร์เพิ่มเติมเช่นการแบ่งปันรหัสผ่าน การตรวจสอบรหัสผ่านและการตรวจสอบเว็บดาร์กเว็บ อุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ
🤔 ฉันสามารถซิงค์รหัสผ่าน Windows กับอุปกรณ์ Android / iOS / Mac ได้หรือไม่
แน่นอน! สิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของบุคคลที่สามคือ พวกเขามีฟังก์ชันการทำงานบนอุปกรณ์ เบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการเกือบทุกประเภท
ตัวอย่างเช่น ด้วยเครื่องมือจัดการรหัสผ่านทั้งหมดในรายการนี้คุณสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นมือถือบน iPhone, แอพพลิเคชั่นเดสก์ท็อปบน PC และแอพพลิเคชั่น Android บนแท็บเล็ตได้ — และข้อมูลรหัสผ่านและไฟล์ที่เข้ารหัสทั้งหมดของคุณจะซิงค์ กับอุปกรณ์แต่ละเครื่องของคุณ
🤔 เครื่องมือจัดการรหัสผ่านเหล่านี้ปลอดภัยหรือไม่
แน่นอน! ฉันแนะนำเฉพาะเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ใช้โปรโตคอล zero-knowledge เท่านั้น — ซึ่งทั้งหมดได้รับการเข้ารหัสก่อนที่จะไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้จัดการรหัสผ่าน การเข้ารหัสทางเดียวนี้ทำให้บริษัท ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ใด ๆ ได้
นอกจากนี้วิธีการเข้ารหัสที่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านเหล่านี้ใช้นั้นแทบจะไม่สามารถเจาะเข้าถึงได้ เป็นวิธีการเข้ารหัสแบบเดียวกับที่ธนาคาร บริษัท เทคโนโลยีรายใหญ่และแม้แต่ทางทหารใช้
แม้ว่าจะมีคนแฮ็กคอมพิวเตอร์ของคุณและพบรหัสผ่านหลักของคุณ แต่พวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงรหัสผ่านของคุณได้ เนื่องจากต้องได้รับรองความถูกต้องแบบสองปัจจัยที่ผู้จัดการรหัสผ่านเหล่านี้นำเสนอ
พูดง่าย ๆ ก็คือ เครื่องมือจัดการรหัสผ่านเหล่านี้ทั้งหมดมีความปลอดภัยอย่างมาก
🤔 ฉันสามารถใช้ตัวจัดการรหัสผ่านเหล่านี้กับ Windows Hello ได้หรือไม่
Dashlane, 1Password, LastPass, Keeper, and RoboForm สามารถใช้งานได้กับ Windows Hello เครื่องมือจัดการรหัสผ่านเดียวในรายการนี้ที่ไม่สามารถใช้งานได้กับ Windows Hello ได้คือ NordPass
Dashlaneเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดสำหรับฉันในการตั้งค่า Windows Hello หลังจากสลับการตั้งค่าสองสามอย่าง ฉันก็สามารถเข้าถึงที่เก็บหัสผ่านได้ด้วยลายนิ้วมือ — ไม่ต้องใช้รหัสผ่านหลัก!