รีวิวจากผู้เชี่ยวชาญ
ความเป็นเจ้าของ
ค่าคอมมิชชั่นพันธมิตร
แนวปฏิบัติการรีวิว

10 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 & 11 [2023]

อัพเดท: 1 พฤษภาคม 2023
Fact Checked by เคท เดวิดสัน
คาทาริน่า กลาโมสลิยา คาทาริน่า กลาโมสลิยา
อัพเดท: 1 พฤษภาคม 2023
10 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 & 11 [2023]
บทความนี้ประกอบไปด้วย

มีเวลาไม่พอใช่ไหม นี่แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 & 11:

ฉันทดสอบแอนตี้ไวรัสหลายสิบบริการบน Windows PC และแท็บเล็ต Surface โดยใช้เครื่องมือทดสอบความมั่นคงของระบบล่าสุดเพื่อทดสอบเครื่องมือสแกนมัลแวร์, เครื่องมือป้องกันเว็บ, ไฟร์วอลล์และฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ ของแอนตี้ไวรัส แอนตี้ไวรัส 10 บริการในรายการของฉันเป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 และ 11 ที่ฉันสามารถหาได้ใน 2023

แต่การค้นหาแอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือสำหรับ Windows นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีซอฟต์แวร์ที่ไม่ดีอยู่มากมาย แม้แต่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงบางแบรนด์ก็ไม่มีระดับการป้องกันที่ฉันคาดหวังไว้ บริการเหล่านั้นปล่อยให้แรนซัมแวร์และสปายแวร์ทำงานบนระบบของฉัน ส่วนโปรแกรมอื่น ๆ ก็มีปัญหาและทำให้ระบบของฉันทำงานช้าลง ในขณะที่บางโปรแกรมมีการป้องกันที่ดี แต่ก็มีราคาที่สูงเกินไป

ไม่ว่าคุณจะใช้ Windows เพื่อทำงาน เล่นเกม สร้างสรรค์งานหรือเพียงแค่ใช้งานทั่ว ๆ ไป แอนตี้ไวรัสในรายการของฉันล้วนมีชุดฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Windows ทุกรุ่น (รวมถึง Windows 11) ในราคาที่ไม่แพง

นี่คือโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 & 11 ในปี 2023:

🥇1. Norton 360 — ชุดความปลอดภัยสำหรับ PC ที่ดีที่สุดใน2023

🥇1. Norton 360 — ชุดความปลอดภัยสำหรับ PC ที่ดีที่สุดใน2023

Norton 360 นั้นเป็นแอนตี้ไวรัสมาตรฐานอุตสาหกรรมในปี 2023 ที่ให้การป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยม รวมถึงฟีเจอร์เพิ่มเติมที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

ในการทดสอบมัลแวร์ Norton ได้คะแนนการตรวจจับ 100% ในอุปกรณ์ Windows 8, 10 และ 11 ระบบ SONAR ใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อตรวจจับมัลแวร์ตามพฤติกรรม จึงสามารถตรวจจับภัยคุกคามใหม่ที่ไม่มีบันทึกในฐานข้อมูลมัลแวร์ใด ๆ และการป้องกันแบบเรียลไทม์ของ Norton จะสแกนการดาวน์โหลดและกระบวนการทำงานทั้งหมด โดยจะบล็อกไฟล์มัลแวร์ก่อนที่จะแพร่ไวรัสในอุปกรณ์ Windows

แพ็คเกจ Norton 360 มี:

  • การป้องกันการฟิชชิ่ง
  • ไฟร์วอลล์ในตัว
  • VPN ที่ปลอดภัย
  • เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
  • การควบคุมโดยผู้ปกครอง
  • การตรวจสอบดาร์กเว็บ
  • การป้องการการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว (ในอเมริกาเท่านั้น)
  • การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ (มากถึง 500 GB)

ฟีเจอร์เพิ่มเติมของ Norton นั้นดีมาก ในการทดสอบของฉัน การป้องกันฟิชชิ่งสามารถบล็อกเว็บฟิชชิ่งและเว็บที่ไม่ปลอดภัยได้แม่นยำกว่าการป้องกันบนเบราว์เซอร์จาก Chrome, Edge หรือ Firefox และไฟร์วอลล์ตรวจพบกิจกรรมบนเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย ที่ไฟร์วอลล์ในตัวของ Windows PC ของฉันไม่สามารถตรวจจับได้

Norton ยังนำเสนอหนึ่งในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดคู่กับแอนตี้ไวรัสอีกด้วย ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มีฟีเจอร์ครบถ้วนเหมือนบริการสแตนอโลนด์อย่าง 1Password และ Dashlane แต่มันก็ยังมีฟีเจอร์ที่ดีกว่าฟีเจอร์พื้นฐานของแอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่มาก เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Norton ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัด ซิงค์ในอุปกรณ์ไม่จำกัด สร้างรหัสผ่านและตรวจสอบความปลอดภัยรหัสผ่านของคุณได้ ฉันพบว่ามันสามารถการตั้งค่าและใช้งานได้ง่ายมากและฉันชอบที่การเข้ารหัส AES 256-bit ทำให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยอย่างสมบูรณ์

ฉันยังชอบแอปการควบคุมของผู้ปกครอง Safe Family ของ Norton อีกด้วย ฟีเจอร์การกรองเนื้อหา การติดตามอุปกรณ์มือถือ การใช้งานตามกำหนดเวลาและอื่น ๆ คือฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุด ในการทดสอบของฉัน Safe Family สามารถบล็อกเว้บที่ไม่เหมาะสมหลายสิบรายการในหลากหลายหมวดหมู่ต่าง ๆ และสามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ทดสอบของฉันได้อย่างแม่นยำ

ราคาเริ่มต้นที่ US$54.99 / ปีแพ็คเกจทั้งหมดของ Norton 360 นั้นให้ความคุ้มค่าอย่างมาก ฉันคิดว่าNorton 360 Deluxe นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แผนนี้นำเสนอฟีเจอร์เพิ่มเติมของ Norton และยังสามารถใช้งานได้บน 5 อุปกรณ์ในราคาเพียง US$49.99 / ปีและยังมีการรับประกันคืนเงิน 60 วันในทุกแผนของ Norton อีกด้วย

รับส่วนลด 56% จาก Norton 360 Deluxe ตอนนี้เลย!
รับ Norton 360 Deluxe ในราคาเพียง US$49.99!

สรุป:

ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่หลากหลายของ Norton ทำงานได้ดีกว่าโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ เกือบทั้งหมด ซอฟต์แวร์นี้รวดเร็วและใช้งานง่ายและการป้องกันมัลแวร์ขั้นสูงของ Norton ได้คะแนนการตรวจจับ 100% ในการทดสอบของเรา หากคุณต้องการแอนตี้ไวรัส Windows ประสิทธิภาพสูง Norton คือตัวเลือกที่ดีที่สุด บริการมีการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วันสำหรับทุกแพ็คเกจของ Norton

ดาวน์โหลด Norton เลยตอนนี้

อ่านรีวิวตัวเต็มของ Norton >

🥈2. Bitdefender Total Security — ดีที่สุดสำหรับการป้องกันมัลแวร์ขั้นสูง

🥈2. Bitdefender Total Security — ดีที่สุดสำหรับการป้องกันมัลแวร์ขั้นสูง

Bitdefender ใช้เครื่องมือป้องกันมัลแวร์บนคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows ของคุณช้าลงฉันประทับใจมากที่ Bitdefender ทำงานบน PC ของฉันได้อย่างราบรื่นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อ CPU หรือ RAM ของฉัน แม้ในระหว่างการสแกนเต็มรูปแบบ

เครื่องมือป้องกันมัลแวร์ของ Bitdefender ใช้การเรียนรู้ของเครื่อง การวิเคราะห์พฤติกรรมขั้นสูงและฐานข้อมูลมัลแวร์ขนาดใหญ่เพื่อตรวจจับไฟล์ที่ไม่ปลอดภัย ในการทดสอบของฉัน Bitdefender ได้คะแนนการตรวจจับ 100% และสามารถบล็อกโทรจัน รูทคิต แรนซัมแวร์ สปายแวร์และไวรัสอื่น ๆ ได้อีกด้วย Bitdefender ยังมีเครื่องมือกำจัดแรนซัมแวร์ ซึ่งจะสำรองข้อมูลสำคัญหากตรวจพบกิจกรรมที่น่าสงสัยและกู้คืนข้อมูลหลังจากกำจัดภัยคุกคาม

Bitdefender นำเสนอฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ได้แก่:

  • การป้องกันการฟิชชิ่ง
  • VPN
  • ผู้จัดการรหัสผ่าน
  • การควบคุมโดยผู้ปกครอง
  • เบราเซอร์ที่ปลอดภัย
  • การเพิ่มประสิทธิภาพระบบ

Web Shield ของ Bitdefender ตรวจพบเว็บฟิชชิ่งและเว็บที่ไม่ปลอดภัยทั้งหมดในการทดสอบของฉันและฉันชอบ Safepay ที่เป็นเบราว์เซอร์ที่เข้ารหัสที่ปลอดภัย ซึ่งช่วยนำเสนอวิธีที่ปลอดภัยในการเข้าถึงช่องทางการเงินทางออนไลน์ของคุณ ฉันชอบ VPN ของ Bitdefender อย่างมาก บริการใช้โปรโตคอล VPN ที่เร็วสุดของ Hotspot Shield ดังนั้นฉันจึงสามารถสตรีมวิดีโอ HD, ดาวน์โหลดไฟล์และใช้งานได้โดยไม่ทำให้ Windows PC ของฉันช้าลง

Bitdefender ยังมีฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครองที่ครอบคลุม มีตัวเลือกการกรองเนื้อหา, การตรวจสอบการใช้งานและจำกัดพื้นที่ใช้งาน เพื่อให้คุณสามารถรับการแจ้งเตือนได้หากบุตรหลานของคุณออกจากพื้นที่ปลอดภัย

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพระบบที่สามารถช่วยให้คุณเพิ่มพื้นที่ในคอมพิวเตอร์ของคุณได้ ในการทดสอบของฉัน ฟีเจอร์การปรับแต่งระบบสามารถเพิ่มพื้นที่ในคอมพิวเตอร์ของฉันได้เกือบ 1 GB และฉันยังพบว่าฟีเจอร์ โปรไฟล์ นั้นยังใช้งานได้สะดวกมาก เนื่องจากแอปจะปรับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ของคุณให้เหมาะสมสำหรับงานต่าง ๆ โดยอัตโนมัติรวมถึงการทำงาน การสตรีม การเล่นเกมและอื่น ๆ

บริการมีราคาเริ่มต้นที่ US$32.99 / ปี Bitdefender Internet Security มีฟีเจอร์อย่างการสแกนไวรัสแบบเรียลไทม์, การป้องการเว็บฟิชชิ่งและการควบคุมโดยผู้ปกครอง (แต่ใช้ได้บนอุปกรณ์ Windows เพียง 3 เครื่องเท่านั้น) ในขณะที่แผนTotal Security เพิ่มการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบและใช้งานได้บนอุปกรณ์ Windows, Android, Mac หรือ iOS ได้ 5 เครื่อง ในราคาเพียง US$35.99 / ปี ในขณะที่แผนทั้งสองนั้นถือว่าค่อนข้างดี แต่ VPN มีการจำกัดการใช้งาน (เพียง 200 MB ต่อวัน) เมื่ออัพเกรดเป็นแผน Bitdefender Premium Security คุณจะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดของ Bitdefender และยังสามารถใช้งาน VPN ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ในราคาเพียง US$49.99 / ปี

Bitdefender Total Security - ส่วนลด 64%
Get Bitdefender Total Security for up to 5 devices for only US$35.99!

สรุป:

Bitdefender นำเสนอแอนตี้ไวรัสที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Windows ด้วยแอนตี้ไวรัสบนคลาวด์ที่มีการเรียนรู้ของเครื่อง บริการนำเสนอฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่ล้ำสมัย รวมถึงการป้องกันฟิชชิ่งที่ทรงพลัง, VPN ที่รวดเร็วและการควบคุมโดยผู้ปกครองที่ดี คุณสามารถทดลองใช้ Bitdefender โดยปราศจากความเสี่ยงด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

ดาวน์โหลด Bitdefender เลยตอนนี้

อ่านรีวิวตัวเต็มของ Bitdefender >

🥉3. TotalAV — แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุด + VPN สำหรับ Windows

🥉3. TotalAV — แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุด + VPN สำหรับ Windows

TotalAV เป็นตัวเลือกที่ทรงพลัง แต่ใช้งานได้ง่ายสำหรับปกป้องอุปกรณ์ Windows ใน 2023 ด้วยเครื่องมือสแกนแอนตี้ไวรัสที่ดี, VPN ที่ยอดเยี่ยม, เครื่องมือป้องกันข้อมูลส่วนตัวที่ครอบคลุมและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC ที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทดสอบมา

ในการทดสอบของฉันเครื่องมือสแกนไวรัสขั้นสูงของ TotalAV สามารถตรวจพบและบล็อกไฟล์มัลแวร์ได้ 99% (จากเกือบ 1,000 ไฟล์) บน Windows PC ของฉัน

ผู้ใช้ Windows ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมในขณะใช้งาน, สตรีมและทอร์เรนต์จะต้องชอบ VPN ของ TotalAV นี่เป็นตัวเลือกแอนตี้ไวรัส + VPN ที่ดีที่สุดใน 2023 VPN มี:

  • การเข้ารหัส AES-256 bit ที่ปลอดภัย การเข้ารหัสระดับการทหารที่ช่วยให้ข้อมูลของคุณไม่สามารถถูกเข้าถึงได้จากบุคคลที่สาม
  • Kill switch ยุติการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณโดยอัตโนมัติหากการเชื่อมต่อกับ VPN หลุดไป ดังนั้นคุณจะได้รับการป้องกันอยู่ตลอดเวลา
  • นโยบายการไม่บันทึกข้อมูล TotalAV จะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ รวมถึงเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมและไฟล์ที่คุณดาวน์โหลด
  • เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 30 ประเทศ เซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ในทั่วโลกช่วยให้คุณค้นหาตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียงเพื่อเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา (เพื่อให้ได้ความเร็วที่ดีที่สุด)
  • โปรโตคอล IKEv2 และ OpenVPN สองโปรโตคอล VPN ที่เร็วและปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน

ด้วยโปรโตคอลที่รวดเร็วและปลอดภัยของ TotalAV ฉันสามารถทอร์เรนต์และสตรีมเนื้อหาแบบ HD ได้โดยไม่มีการสะดุด (แต่ VPN ของ TotalAV สามารถเข้าถึงเว็บสตรีมมิ่งอย่าง Netflix, Disney+ และ Hulu ได้ไม่เหมือนกับ Bitdefender)

เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพระบบของ TotalAV นั้นยอดเยี่ยมเช่นกัน ฉันสามารถลบไฟล์ขยะ, ล้างลำดับการบูต PC ของฉัน, ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันเก่าและลบคุกกี้เบราว์เซอร์ที่ทำให้ Windows PC ของฉันทำงานช้าลง

แต่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ TotalAV นั้นใช้งานได้ไม่ค่อยดีนัก มันไม่มีการซิงค์ระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ เหมือนเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Norton และไม่มีเครื่องมือตรวจสอบที่เก็บรหัสผ่านเหมือนเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ดีอื่น ๆ

TotalAV มี 3 แผนบริการ Antivirus Pro (US$19.00 / ปี) มาพร้อมกับเครื่องมือจำกัดมัลแวร์, การเพิ่มประสิทธิภาพระบบและยังสามารถใช้งานได้บน 3 อุปกรณ์ Internet Security (US$39.00 / ปี) เป็นแผนที่ฉันชอบที่สุด ในแผนนี้มี VPN ที่ยอดเยี่ยมของ TotalAV และใช้งานได้บน 5 อุปกรณ์ Total Security (US$49.00 / ปี) เพิ่มเครื่องมือบล็อกโฆษณา, เครื่องมือจัดการรหัสผ่านและใช้งานได้บน 6 อุปกรณ์ แผนบริการทั้งหมดของ TotalAV มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 30 วัน

ส่วนลด 84% สำหรับ TotalAV Antivirus Pro (3 อุปกรณ์)
รับ TotalAV ในราคาเพียง US$19.00!

สรุป:

TotalAV เป็นแอนตี้ไวรัสที่พร้อมกับ VPN สำหรับ Windows 10 และ 11 ที่ฉันชอบมากที่สุดใน 2023 เครื่องสแกนไวรัสนั้นทรงพลัง แต่มีขนาดเล็กและ VPN ก็นำเสนอการเข้ารหัสที่รวดเร็ว นอกจากนี้การเพิ่มประสิทธิภาพระบบของ TotalAV ยังทำความสะอาดและเร่งความเร็ว PC ของฉันได้อย่างง่ายดาย แต่ฉันไม่ค่อยชอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ TotalAV ซักเท่าไหร่ แต่บริการก็มีฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ควรค่าแก่การใช้งาน บริการทั้งหมดของ TotalAV มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

ดาวน์โหลด TotalAV เลยตอนนี้

อ่านรีวิวตัวเต็มของ TotalAV >

4. McAfee Total Protection — ดีที่สุดสำหรับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม

4. McAfee Total Protection — ดีที่สุดสำหรับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม

McAfee เป็นเครื่องมือสแกนไวรัสที่ยอดเยี่ยม และมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยสำหรับ Windows ที่หลากหลาย McAfee ตรวจจับมัลแวร์ได้มากกว่า 99.7% ในการทดสอบของฉัน เครื่องมือสแกนนั้นใช้เทคโนโลยีฮิวริสติกและการเรียนรู้ของเครื่องล่าสุดเพื่อตรวจจับไฟล์มัลแวร์ น่าเสียดายที่การสแกนดิสก์เต็มรูปแบบของ McAfee ทำให้อุปกรณ์ของฉันช้าลงอย่างมากในระหว่างการทดสอบ (Bitdefender และ TotalAV ไม่ทำให้ระบบของฉันช้าลงเมื่อสแกนเต็มรูปแบบ)

McAfee มีฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่าง:

  • เครื่องมือการป้องกันเว็บ มาพร้อมกับการสแกน Wi-Fi, ไฟร์วอลล์อัจฉริยะและการป้องกันฟิชชิ่ง
  • การเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ นำเสนอตัวเลือกเพื่อลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่บนแล็ปท็อป
  • การปรับแต่งระบบ ปรับปรุงประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์โดยการลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น ซึ่งอาจทำให้การทำงานของ PC ช้าลง
  • เครื่องทำลายไฟล์และการเข้ารหัสไฟล์ ลบไฟล์อย่างปลอดภัยหรือทำให้ไม่สามารถอ่านได้ในกรณีที่ถูกขโมย
  • เครื่องมือสแกนหาช่องโหว่ สแกนและติดตั้งการอัปเดต Windows และแอพพลิเคชันที่สำคัญ
  • VPN ที่ปลอดภัย เข้ารหัสข้อมูลอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วแบนด์วิดท์ที่เหมาะสมและข้อมูลการท่องเว็บที่ไม่จำกัด
  • การป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว (มีให้บริการในอังกฤษ, อเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศในยุโรป) ตรวจสอบรายงานเครดิตสำหรับกิจกรรมที่ผิดปกติและรวมถึงการจ่ายเงินประกันจำนวนมาก

ฉันชอบการป้องกันเว็บของ McAfee มาก — McAfee ตรวจพบเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ Chrome และ Edge ไม่สามารถตรวจได้และเครื่องสแกนเครือข่าย Wi-Fi ก็แจ้งเตือนฉันทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้นในเครือข่ายของฉัน นอกจากนี้ไฟร์วอลล์ยังนำเสนอการป้องกันภัยคุกคามจากการแฮ็กในเครือข่าย

ฉันไม่ค่อยพอใจกับ VPN ของ McAfee ซักเท่าไหร่ มันมีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 40 ประเทศ ซึ่งใกล้เคียงกับ TotalAV แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับ TotalAV ตรงที่มันไม่สามารถเข้าถึงเว็บสตรีมมิ่งหลัก ๆ ได้ (ฉันไม่สามารถเข้าถึง Disney+ และ Hulu ได้) และไม่อนุญาตให้ทอร์เรนต์

McAfee Total Protection Basic (US$84.99 / ปี) เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการปกป้อง Windows PC เพียง 1 เครื่อง แต่บริการมีราคาค่อนข้างแพง อย่างไรก็ตามผู้ใช้ที่มี PC (และอุปกรณ์พกพา) หลายเครื่อง ควรตรวจสอบแผน Plus (US$49.99 / ปี) ที่เพิ่งจำนวนผู้ใช้สูงสุด 5 คนหรือแพ็คเกจ Premium (US$64.99 / ปี) ที่เพิ่มการควบคุมโดยผู้ปกครองและความครอบคลุมอุปกรณ์สูงสุด 10 เครื่อง นอกจากนี้แผน Plus และ Premium ยังมีส่วนลดจำนวนมากอีกด้วย แผนบริการ 2 ปีของ McAfee นั้นเป็นหนึ่งบริการรักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับ Windows ในปี 2023

สรุป:

McAfee นำเสนอการป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมอีกมากมาย ฉันประทับใจกับการป้องกันเว็บของ McAfee เช่นการป้องกันฟิชชิ่ง การสแกน Wi-Fi และ VPN ที่ปลอดภัยvpjk’มาก นอกจากนี้ McAfee ยังมาพร้อมกับตัวเลือกพิเศษที่เป็นประโยชน์ เช่น เครื่องมือปรับแต่งระบบ เครื่องทำลายไฟล์และการป้องกันการโจรกรรมข้อมูล (เฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) และยังมีแผน 2 ปีราคาถูกที่สุดในรายการนี้ แถมยังมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 30 วันโดยปราศจากความเสี่ยงอีกด้วย

ดาวน์โหลด  McAfee เลยตอนนี้

อ่านรีวิวตัวเต็มของ McAfee >

5. Avira Prime — ดีที่สุดสำหรับการสแกนอย่างรวดเร็ว & การอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ

5. Avira Prime — ดีที่สุดสำหรับการสแกนอย่างรวดเร็ว & การอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ

แพ็คเกจ Avira Prime มีเครื่องมือสแกนมัลแวร์อันทรงพลังและฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย รวมถึงเครื่องมืออัพเดทซอปท์แวร์ Windows เช่นเดียวกับ Avira มีเครื่องสแกนบนคลาวด์เพื่อลดการชะลอตัวของระบบแบบเดียวกับ Bitdefender และยังสามารถตรวจจับมัลแวร์ได้ 100% ไม่ว่าจะมัลแวร์แบบเก่าและแบบใหม่ เครื่องสแกนของ Avira ยังสแกนได้เร็วที่สุดในการทดสอบของฉันอีกด้วย ฉันสามารถสแกนเต็มรูปแบบบนเกมมิ่ง PC ขนาด 500 TB ได้ใน 20 นาที

นอกเหนือจากโปรแกรมสแกนไวรัสที่ทันสมัยแล้ว Avira ยังเสนอ:

  • การป้องกันแอปพลิเคชันที่อาจไม่ต้องการ (PUA) ป้องกันแอปพลิเคชันที่อาจไม่ต้องการ (Potentially Unwanted Applications: PUAs) ที่สามารถซ่อนอยู่ภายในซอฟต์แวร์ที่ดูไร้พิษภัย
  • เครื่องมือจัดการไฟร์วอลล์ ปรับการตั้งค่าไฟร์วอลล์ให้เหมาะสมตามระดับความปลอดภัยที่ต้องการ
  • การป้องกันเว็บ ป้องกันเนื้อหาเว็บที่เป็นอันตรายและเว็บไซต์ฟิชชิ่งทุกประเภท
  • VPN ซ่อนหมายเลข IP ของคุณด้วยการเข้ารหัสเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว
  • เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน สร้าง จัดเก็บและกรอกอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกที่มากขึ้น
  • เครื่องมืออัปเดตซอฟต์แวร์ อัปเดตโปรแกรมยอดนิยมจำนวนมากโดยอัตโนมัติ
  • การปรับแต่งระบบขั้นสูง บันทึกข้อมูลประสิทธิภาพที่ครอบคลุม กำจัดไฟล์ขยะ เพิ่มเวลาเริ่มต้นและเพิ่มประสิทธิภาพ PC ขณะเล่นเกม

โปรแกรมที่ล้าสมัยอาจทำให้ระบบเสี่ยงต่อการคุกคาม เช่น การโจมตีจากช่องโหว่ ดังนั้นฉันจึงชอบมากที่ได้พบว่า Software Updater สามารถระบุโปรแกรมที่ล้าสมัยและอัปเดตโดยอัตโนมัติ ฉันยังชอบฟีเจอร์การปรับแต่งระบบของ Avira มาก มันสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานบน PC เครื่องเก่าของฉันได้ (ซึ่งยังคงใช้ Windows 8) และฉันคิดว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่นำเสนอนั้นยังใช้งานได้ง่ายมากด้วย

เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Avira เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้งานง่ายที่สุดและฟีเจอร์ส่วนใหญ่มีให้ใช้บริการฟรี รวมถึงการจัดเก็บรหัสผ่านไม่จำกัด การซิงค์หลายอุปกรณ์ การบันทึกและป้อนอัตโนมัติและการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน

ปัญหาอย่างเดียวของฉันกับ Avira ก็คือ VPN ของบริการนั้นมีความเร็วไม่มากเท่า Bitdefender และไม่สามารถเข้าถึงเว็บสตรีมยอดนิยมอย่าง Netflix, Amazon Prime และ Disney+ ได้และไม่มีการตรวจสอบดาร์กเว็บและการควบคุมของผู้ปกครองเหมือน Norton 360

Avira มีแผนบริการมากมายให้เลือกใช้งาน แต่แผนที่ฉันชอบมากที่สุดคือ Avira Prime (US$59.99 / ปี) ซึ่งมี Phantom VPN (จำกัดข้อมูลการใช้งาน) และสามารถใช้งานได้บน 5 อุปกรณ์ รวมถึง Mac, Android และ iPhones นอกจากนี้ Avira ยังมีแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดอีกด้วย แต่บริการนี้ขาดฟีเจอร์สำคัญในแผน Avira Primeไปหลายอย่าง

สรุป:

Avira สามารถตรวจจับมัลแวร์ได้ 100% มีเครื่องมือสแกนขขนาดเล็กและชุดเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการปกป้อง Windows PC เครื่องมืออัปเดตซอฟต์แวร์จะคอยอัปเดตแอปพลิเคชันและไดรเวอร์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับความปลอดภัยของอุปกรณ์ เครื่องมือจัดการรหัสผ่านและฟีเจอร์การปรับแต่งระบบของ Avira นั้นเป็นบริการที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม Avira Prime มีราคาแพงเล็กน้อย แต่มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน

ดาวน์โหลด Avira เลยตอนนี้

อ่านรีวิว Avira Prime ตัวเต็มของเรา >

6. Panda Dome — ดีที่สุดสำหรับการเข้ารหัสไฟล์และกู้คืน PC ที่ติดไวรัส

6. Panda Dome — ดีที่สุดสำหรับการเข้ารหัสไฟล์และกู้คืน PC ที่ติดไวรัส

Panda Dome มีเครื่องสแกนไวรัสที่ดีและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่เป็นประโยชน์อย่างมาก บริการนี้สามารถตรวจจับมัลแวร์ได้ถึง 95% ในการทดสอบของฉัน ซึ่งถือว่าดีมาก แต่ก็ไม่น่าประทับใจเท่ากับ Norton ที่ตรวจจับได้ 100%) อย่างไรก็ตาม Panda สามารถตรวจจับลิงค์ฟิชชิ่งได้เพียง 50% ในการทดสอบของฉัน ซึ่งไม่เป็นที่พอใจเท่าไหร่นัก

นี่คือการป้องกันที่ทำให้ Panda โดดเด่นในการทดสอบของฉัน:

  • การเข้ารหัสไฟล์
  • เครื่องทำลายไฟล์
  • PC Rescue Kit

Rescue Kit ของ Panda Dome นั้นทำให้การเข้ารหัสเอกสารที่มีความสำคัญนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพื่อไม่ให้มัลแวร์สามารถเข้ามาทำอันตรายหรือใช้เอกสารพวกนี้เพื่อเรียกค่าไถ่จากฉันได้

Rescue Kit ช่วยล้าง PC ที่ถูกยึดครองด้วยมัลแวร์ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อุปกรณ์ไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแค่โหลด Rescue Kit ลงในไดรฟ์ USB เสียบไดรฟ์ USB เข้ากับอุปกรณ์ที่ติดไวรัสบูตเครื่อง Panda จะลบมัลแวร์โดยอัตโนมัติและทำให้อุปกรณ์ใช้งานได้อีกครั้ง

แพ็คเกจของ Pandas นำเสนอฟีเจอร์อย่างการป้องกันเว็บ, VPN, เครื่องมือจัดการรหัสผ่านและเบราเซอร์ที่ปลอดภัย แต่ฟีเจอร์เพิ่มเติมเหล่านี้ให้บริการได้ไม่ดีเท่ากับบริการของ Norton และ Bitdefender

ตัวอย่างเช่นแผนทั้งหมดยกเว้นแผนที่แพงที่สุดของ Panda จำกัดการใช้ข้อมูล VPN ของคุณไว้ที่ 150 MB/วัน และไม่ให้คุณสามารถเลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ของคุณเองได้ นอกจากนี้การควบคุมโดยผู้ปกครองยังขาดฟีเจอร์ที่มีประโยชน์เหมือนที่ Norton นำเสนอ เช่น การเปิดใช้การจำกัดเวลาเรียนและการตรวจสอบวิดีโอที่ลูก ๆ ของคุณดูล่าสุดบน YouTube ได้อย่างง่ายดาย

แผนพรีเมี่ยมของ Panda นั้นมีราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ที่นำเสนอฟีเจอร์คล้ายกัน (และใช้งานได้บนอุปกรณ์จำนวนมากกว่า) ในราคาน้อยกว่า แต่แผน Panda Dome Essential นั้นมีราคาไม่แพงและเป็นตัวเลือกที่ดี แผนนี้นำเสนอการสแกนมัลแวร์แบบเรียลไทม์, การสแกน Wi-Fi และ VPN (จำกัดข้อมูลที่ 150 MB ต่อวัน) ในราคาเพียง US$23.99 / ปี

สรุป:

เครื่องมือสแกนของ Panda ทำงานได้ดีในระหว่างการทดสอบของฉันและฉันชอบฟีเจอร์เพิ่มเติมบางอย่างของบริการมาก — โดยเฉพาะ Rescue Kit ฉันจะไม่ประทับใจกับฟีเจอร์อื่น ๆ และฉันก็คิดว่าแพ็คเกจของ Panda นั้นแพงเกินไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามพวกเขามีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นจึงไม่เสียหายอะไรที่จะลองใช้งาน Panda เพื่อดูว่ามันเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ PC ของคุณหรือไม่ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดอินเตอร์เฟสของพวกกเขานั้น supports/ไม่สนับสนุนภาษาไทย

ดาวน์โหลด  Panda Dome เลยตอนนี้

อ่านรีวิวตัวเต็มของ Panda Dome >

7. Kaspersky Total Security — ใช้งานได้ง่ายมาก

7. Kaspersky Total Security — ใช้งานได้ง่ายมาก

Kaspersky มีเครื่องสแกนมัลแวร์ที่ปลอดภัยสำหรับ Windows พร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ยอดเยี่ยมและแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย เครื่องมือสแกนมัลแวร์แบบเรียลไทม์ของ Kaspersky ตรวจพบไวรัส สปายแวร์และแรนซัมแวร์จำนวนมากในการทดสอบของฉัน

Kaspersky ยังมี:

  • การป้องกันการฟิชชิ่ง บล็อกเว็บไซต์ที่หลอกลวงไม่ให้ขโมยข้อมูลของคุณ
  • การป้องกันเงินของคุณ รักษาความปลอดภัยเมื่อซื้อของและทำธุรกรรมในเบราว์เซอร์พิเศษที่ปลอดภัย
  • การปกป้องความเป็นส่วนตัว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรแกรมภายนอกไม่สามารถเข้าถึงเว็บแคมหรือไมโครโฟนโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • การควบคุมของผู้ปกครอง บล็อกเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัยและมีเครื่องมือติดตามตำแหน่งอุปกรณ์
  • Rescue Disk สแกนไวรัสที่อาจติดหรือฝังตัวอยู่ในระบบปฏิบัติการ
  • เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน จัดเก็บและป้อนรหัสผ่านอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยและความเร็ว
  • การเพิ่มประสิทธิภาพระบบ ลบแอปที่ติดตั้งมากับอุปกรณ์ (Bloatware) ข้อมูลที่ไม่ได้ใช้ ประวัติเบราว์เซอร์ คุกกี้และอื่น ๆ

ฟีเจอร์พิเศษหลายอย่างของ Kaspersky นั้นน่าประทับใจน้อยกว่าคู่แข่ง เช่น เครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ขาดการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) และการตรวจสอบดาร์กเว็บซึ่ง Norton นำเสนอทั้งคู่และเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพระบบทำมากกว่าการลบไฟล์ที่ไม่ต้องการ ในขณะที่ Avira มีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC ขั้นสูงและ Bitdefender สามารถเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ของคุณในระหว่างกิจกรรมเฉพาะได้

แผน Kaspersky Antivirus มีราคาอยู่ที่ US$27.99 / ปี มันเป็นแผนที่ดีหากคุณมองหาตัวเลือกการปกป้องสำหรับ Windows แต่แผน multi-device ให้การปกป้องมากถึง 10 อุปกรณ์ (รวมถึง Mac, Android และ iOS) แผน US$48.99 / ปี, Kaspersky Total Security นั้นมีราคาใกล้เคียงกับแพ็คเกจ Norton 360 Deluxe แผนนี้นำเสนอการควบคุมของผู้ปกครองที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม แต่ฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่น ๆ นั้นไม่ดีเท่า Norton

สรุป:

Kaspersky Total Security เป็นโปรแกรมรักษาความปลอดภัยระดับชั้นนำที่ใช้งานและนำทางได้ง่ายมาก หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ใช้งานง่ายสำหรับ PC Windows ของคุณ Kaspersky เป็นตัวเลือกที่ดีและมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันโดยไม่มีข้อผูกมัด

ดาวน์โหลด Kaspersky เลยตอนนี้

อ่านรีวิวตัวเต็มของ Kaspersky >

8. Malwarebytes — เหมาะสำหรับการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นพื้นฐาน

8. Malwarebytes — เหมาะสำหรับการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นพื้นฐาน

Malwarebytes เป็นโปรแกรมสแกนไวรัสอย่างง่ายที่มีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่ดี — ในการทดสอบของฉันเครื่องสแกนตามคำสั่งของ Malwarebytes สามารถตรวจพบมัลแวร์ที่ทดสอบได้ประมาณ 90% แต่การป้องกันแบบเรียลไทม์สามารถบล็อกเกือบ 99% ของไฟล์เดียวกันได้ — ซึ่งให้บริการได้เทียบเท่ากับบริการชื่อที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอุตสาหกรรม เช่น TotalAV

Malwarebytes ยังมีส่วนขยายเว็บเบราเซอร์ชื่อว่า Browser Guard ซึ่งช่วยปิดกั้นเครื่องมือติดตาม โฆษณาป๊อปอัพ การโจมตีและเว็บฟิชชิ่ง แต่เครื่องมือปิดกั้นโฆษณาในใช้งานได้ไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ Avira ฉันยังคงพบโฆษณาในหลาย ๆ เว็บที่ฉันเข้าใช้ในระหว่างการทดสอบ

Malwarebytes มี VPN ให้ใช้ด้วย แต่มันไม่มีฟีเจอร์มากเท่ากับ บริการ VPN สแตนอโลนด์ ฟีเจอร์หนึ่งที่ขาดหายไปคือ Kill switch นอกจากนี้ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับการเข้าถึงเว็บสตรีมมิ่งยอดนิยม เช่น Netflix และไม่รองรับการแบ่งปันไฟล์แบบ P2P แต่ถ้าคุณกำลังมองหา VPN ที่ใช้งานง่าย มีความเร็วที่รวดเร็ว มันก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือกหนึ่ง

น่าเสียดายที่ Malwarebytes ไม่มีฟีเจอร์อื่นใดอีก แต่ดีไซน์ที่เรียบง่ายและการตัดฟีเจอร์เพิ่มเติมออกอาจดึงดูดผู้ใช้ที่กำลังมองหาโปรแกรมแอนตี้ไวรัสพื้นฐานอยู่

แต่ Malwarebytes มีราคาเริ่มต้นที่ US$37.49 / ปี เท่ากันกับ Norton และ Bitdefender ซึ่งทั้งคู่มอบความปลอดภัยสำหรับอินเตอร์เน็ตที่เหนือกว่ามาก แต่ถ้าคุณสนใจ Malwarebytes มีการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้งานได้โดยไม่มีความเสี่ยง

สรุป:

Malwarebytes เป็นเครื่องสแกนมัลแวร์ที่ดีที่มีการป้องกันฟิชชิ่ง — คุณสามารถอัปเกรดเป็นแผนบริการที่มีราคาแพงที่สุดของ Malwarebytes เพื่อรับ VPN ได้ แต่มันไม่มีอะไรเพิ่มเติมอีก หากคุณกำลังมองหาฟังก์ชันการทำงานเพิ่มเติม ลองดูแบรนด์อื่น ๆ ในรายการนี้ แต่ถ้าคุณพอใจกับแอนตี้ไวรัสที่เรียบง่าย Malwarebytes ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แผนบริการทั้งหมดของ Malwarebytes มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน

ดาวน์โหลด Malwarebytes เลยตอนนี้

อ่านรีวิว Malwarebytes ตัวเต็ม >

9. Trend Micro — ดีที่สุดสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ต & ธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย

9. Trend Micro — ดีที่สุดสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ต & ธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย

Trend Micro มีเครื่องสแกนมัลแวร์ที่ดีและเครื่องมือรักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตที่ดีสำหรับผู้ใช้ Windows ฉันคิดว่ามันเจ๋งมากที่ Trend Micro แสดงให้ผู้ใช้เห็นว่าเว็บไซต์ใดปลอดภัย — มีการใช้ระบบสีที่เรียบง่ายเพื่อจัดอันดับผลการค้นหาของ Google จากสีเขียว (ปลอดภัย) เป็นสีเหลือง (ไม่ปลอดภัย) เป็นสีแดง (อันตราย)

Trend Micro ยังมี:

  • การสแกนหาการละเมิดรหัสผ่าน
  • VPN
  • เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
  • เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัย
  • เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพระบบที่ยอดเยี่ยม
  • การตรวจสอบดาร์กเว็บ
  • การควบคุมของผู้ปกครอง

ฉันชอบการตรวจสอบการละเมิดข้อมูลของ Trend Micro ซึ่งใช้การเข้ารหัสเพื่อค้นหาฐานข้อมูลออนไลน์สำหรับรหัสผ่าน ชื่อผู้ใช้และแม้แต่ข้อมูลบัตรเครดิตที่อาจเสี่ยงต่อการถูกแฮค และเครื่องมือความเป็นส่วนตัวบนโซเชียลมีเดียของ Trend Micro ช่วยให้ฉันเข้าถึงและเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวทั้งหมดในบัญชีโซเชียลมีเดียของฉันได้อย่างง่ายดาย

VPN ที่พึ่งได้รับการอัปเดตมาใหม่ของ Trend Micro นั้นถือว่าใช้ได้ (ในอดีตนั้นเรียกได้ว่าแย่มาก ๆ) มันมาพร้อมกับข้อมูลไม่จำกัด มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกหลายแห่ง ความเร็วที่ใช้ได้ แต่คุณกำลังมองหาอะไรที่เร็วเป็นที่สุดและมีความปลอดภัยขั้นสูงอยู่ คุณควรจะเลือกใช้ VPN แบบ standalone อย่าง ExpressVPN หรือ ProtonVPN จะดีกว่า

Trend Micro มาพร้อมกับชุดเครื่องมือปรับแต่งระบบที่สามารถช่วยคุณแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ลดเวลาบูสติ้งระบบ เพิ่มพื้นที่ดิสก์โดยลบไฟล์ที่ไม่ได้ใช้และไฟล์ที่ซ้ำกันและล้างข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ไม่สามารถทำอะไรที่แตกต่างจากที่ระบบ Windows สามารถทำได้อยู่แล้ว มันแค่ทำให้สะดวกมากขึ้นเพราะรวมเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพทั้งหมดไว้ในที่เดียว

หากคุณกำลังมองหาการป้องกันเว็บที่ใช้งานง่ายและเครื่องมือสแกนมัลแวร์ที่ดี Trend Micro (US$19.95 / ปี) เป็นตัวเลือกที่ดี — แต่ฉันคิดว่ามันจำเป็นต้องมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกันเช่น Norton และ Bitdefender

สรุป:

Trend Micro มีเครื่องสแกนมัลแวร์บนคลาวด์ที่ดีรวมถึงบริการเสริมที่เหมาะสมเช่นการตรวจสอบการละเมิดข้อมูลและการป้องกันฟิชชิ่งอีเมลฉันคิดว่ามันมีราคาแพงไปหน่อย แต่เป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก ที่มีการป้องกันความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตที่ดีและอินเทอร์เฟซสามารถแสดงเป็นภาษา ไทยและอีก 19 ภาษา Trend Micro นำเสนอการทดลองใช้ฟรี 30 วันและรับประกันคืนเงิน 30 วันในทุกแผน

ดาวน์โหลด Trend Micro เลยตอนนี้

อ่านรีวิวตัวเต็มของ Trend Micro >

10. ESET Smart Security Premium — เครื่องมือสแกนมัลแวร์และการวินิจฉัยขั้นสูงที่ดี

10. ESET Smart Security Premium — เครื่องมือสแกนมัลแวร์และการวินิจฉัยขั้นสูงที่ดี

ESET มีเครื่องมือป้องกันมัลแวร์ขั้นสูงและเครื่องมือวินิจฉัยสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของ Windows ในขณะที่ ESET เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเทคโนโลยีขั้นสูง มันไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่แค่ต้องการการปกป้องธรรมดา เครื่องสแกนมัลแวร์ของ ESET ใช้การวิเคราะห์พฤติกรรมขั้นสูงเพื่อตรวจจับภัยคุกคามมัลแวร์แบบ zero-day ซึ่งได้คะแนนอัตราการตรวจจับที่เกือบสมบูรณ์แบบในการทดสอบ

ESET ยังมี:

  • การวินิจฉัยขั้นสูง
  • การป้องกันการฟิชชิ่ง
  • การเข้ารหัสข้อมูลและอุปกรณ์
  • การป้องกันการขโมย
  • การตรวจสอบเครือข่าย
  • เครื่องมือเพิ่มพื้นที่ระบบ
  • การควบคุมของผู้ปกครอง
  • เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
  • โหมดเล่นเกม

เครื่องมือวินิจฉัยขั้นสูงของ ESET เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในรายการของฉัน โดยมีรายการไฟล์ ไดรเวอร์และรายการรีจิสทรีทั้งหมดในอุปกรณ์ของฉัน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในระบบของฉันได้ในกรณีฉุกเฉิน

แต่ฉันคงไม่ซื้อฟีเจอร์พิเศษของ ESET ฟีเจอร์การควบคุมโดยผู้ปกครองขาดฟีเจอร์ที่จำเป็นหลายอย่างและทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกรองเนื้อหาเท่านั้นและไม่สามารถบล็อกเนื้อหาที่ถูกตั้งค่าสถานะก่อนหน้านี้ทั้งหมดได้ ในระหว่างการทดสอบของฉันเครื่องมือจัดการรหัสผ่านขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การละเมิดข้อมูลและการตรวจสอบดาร์กเว็บและโหมดเกมนั้นให้บริการไม่ดีเท่า Norton ในแง่ของการปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์ของคุณในขณะเล่นเกม

ESET เป็นเครื่องมือป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยที่เป็นเอกลักษณ์ แต่แผน ESET Internet Security (US$43.22 / ปี) ที่คุ้มค่าที่สุดนั้นครอบคลุมเพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้นและคุณจะต้องจ่ายเพิ่มหากต้องการเพิ่มอุปกรณ์ ซึ่งอาจมีราคาแพงมาก หากคุณมีอุปกรณ์เยอะ ESET ยังมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 30 วันอีกด้วย

สรุป:

ESET มีการป้องกันไวรัสที่ปลอดภัยพร้อมกับฟีเจอร์เฉพาะสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง หากรายงานการใช้งานระบบที่ครอบคลุมและเครื่องมือเข้ารหัสอุปกรณ์ฟังดูเป็นส่วนเสริมที่น่าสนใจ ถ้าอย่างนั้น ESET เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม หากคุณไม่รู้ว่าฟีเจอร์เหล่านั้นคืออะไรลองดูโปรแกรมอื่น ๆ ในรายการของฉัน โปรดทราบว่าอินเตอร์เฟสผู้ใช้นั้นได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ และมีอินเตอร์เฟสในภาษาไทยด้วยเช่นกัน

ดาวน์โหลด ESET เลยตอนนี้

อ่านรีวิวตัวเต็มของ ESET >


นี่คือรายการแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows ใน 2023

แอนตี้ไวรัส ราคาเริ่มต้น อัตราการตรวจจับมัลแวร์ ไฟร์วอลล์ การป้องกันการฟิชชิ่ง VPN เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน การรับประกันคืนเงิน อินเตอร์เฟสในภาษาไทย
1.🥇Norton US$54.99 / ปี 100% ไม่จำกัดการใช้ข้อมูล 60 วัน ✅ (Android)
2.🥈Bitdefender US$19.99 / ปี 100% ไม่จำกัดการใช้ข้อมูล (ในแผน Bitdefender Premium Security) 30 วัน ✅(Windows และ iOS)
3.🥉TotalAV US$19.00 / ปี 99% ไม่จำกัดการใช้งาน (ในแผน TotalAV Internet Security) 30 วัน
4. McAfee US$39.99 / ปี 100% ไม่จำกัดการใช้งาน (พร้อมต่ออายุสมาชิกอัตโนมัติ) 30 วัน
5. Avira US$45.99 / ปี 100% ไม่จำกัดการใช้งาน (ในแผน Avira Prime) 60 วัน
6. Panda Dome US$23.99 / ปี 95% มี (แต่ตรวจจับได้แค่ 50% เท่านั้น) ไม่จำกัดการใช้งาน (ในแผน Panda Dome Premium) 30 วัน
7. Kaspersky US$27.99 / ปี 100% 300 MB/วัน 30 วัน
8. Malwarebytes US$37.49 / ปี 95% ไม่จำกัด (ในแผน Malwarebytes Premium + Privacy) 60 วัน
9. Trend Micro US$19.95 / ปี 97% ไม่จำกัด (ในแผน Premium Security Suite) 30 วัน ✅(Windows)
10. ESET US$11.11 / ปี 98% 30 วัน

วิธีให้คะแนนแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 & 11

ตอนที่คุณเลือกซื้อแอนตี้ไวรัส คุณควรจะตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับระบบที่บิ้วท์อินมาแล้วใน Windows 10 กับ 11 — นี่คือสิ่งที่คุณต้องมองหาในแอนตี้ไวรัสที่ดีสำหรับปี 2023:
  • มองหาแอนตี้ไวรัสที่มีอัตราการตรวจจับมัลแวร์สูง มองหาบริการที่ได้คะแนนใกล้เคียง 100% และแอนตี้ไวรัสที่ใช้เครื่องมือขั้นสูง เช่น การเรียนรู้ของเครื่องและการวิเคราะห์พฤติกรรมขั้นสูง (เช่น Norton) เครื่องมือเหล่านี้สามารถตรวจจับมัลแวร์ที่ใช้วิธีการสแกนลายเซ็นแบบเดิมที่ไม่สามารถตรวจจับได้
  • เลือกแอนตี้ไวรัสที่มีการป้องกันทางเว็บไซต์ซึ่งมีประสิทธิภาพ คุณต้องการฟีเจอร์ที่สามารถปกป้องกิจกรรมที่คุณทำได้ อย่างเช่น การป้องกันการฟิชชิ่ง เบราเซอร์ที่ปลอดภัยและเครื่องมือป้องกันการติดตามที่สามารถใช้งานได้จริง
  • ประเมินผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ แอนตี้ไวรัสที่ดีจะทำงานได้อย่างราบรื่นในพื้นหลังโดยไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณช้าลง แม้ว่ากระบวนการบางอย่าง เช่น การสแกนเต็มรูปแบบอาจทำให้ระบบของคุณช้าลงบ้าง คุณควรมองหาโปรแกรมป้องกันไวรัสที่กินพื้นที่ทรัพยากรของคุณหรือทำให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพ Norton และ Bitdefender มีประสิทธิภาพดีที่สุดจากแอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการของฉัน
  • เลือกแอนตี้ไวรัสที่มีฟีเจอร์ทันสมัย เครื่องมือรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต เช่น การตรวจสอบการละเมิดข้อมูล, เครื่องมืออัปเดตซอฟต์แวร์, การเข้ารหัสไฟล์, เกมบูสเตอร์และการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลอาจจะไม่มีให้ในทุกบริการ หากคุณต้องการการป้องกันที่เฉพาะเจาะจง ให้พิจารณาฟีเจอร์ของแต่ละบริการอย่างละเอียด (และตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟีเจอร์เหล่านั้นใช้งานได้จริง)
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพคเกจที่คุณเลือกนั้นมีความคุ้มค่าโดยรวมดี แอนตี้ไวรัสบางบริการมีราคาถูกมากแต่ให้การป้องกันขั้นพื้นฐานเท่านั้น ในขณะที่บางโปรแกรมมีค่าบริการมากกว่า แต่นำเสนอฟังก์ชันการทำงานที่มากกว่า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการรับประกันคืนเงิน เพื่อให้คุณสามารถรับเงินคืนได้ในกรณีที่คุณไม่พอใจบริการ

แบรนด์ใหญ่ไม่ได้ถูกเลือก

แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows 10 จากแบรนด์ใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในรายการบริการที่ดีที่สุดของฉัน :

  • Heimdal. นำเสนอฉันความปลอดภัยขั้นสูง — บล็อกมัลแวร์ก่อนที่จะถูกลงมายังอุปกรณ์ของคุณ แต่ซอฟต์แวร์ของพวกเขานั้นมีความซับซ้อนมากเกินไปสำหรับผู้ใช้ขั้นต้นและขาดฟีเจอร์เพิ่มเติมที่บริการแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ นำเสนอในราคาที่เท่ากัน
  • Webroot. มีขนาดเล็กรวดเร็วและใช้งานได้ง่ายมีฟีเจอร์มากมาย แต่อัตราการตรวจจับของพวกเขานั้นดีไม่พอเมื่อฉันทดสอบ ดังนั้นฉันไม่สามารถใส่มันเอาไว้ในรายการได้
  • Intego สำหรับ Windows. แอนตี้ไวรัสที่ใช้ทรัพยากรน้อย ทรงพลัง ใช้งานง่าย และมีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม มันยังตรวจจับเว็บไซต์ฟิชชิ่งได้ไม่ดีนัก และมันก็ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่แอนตี้ไวรัสตัวอื่น ๆ ในรายการนี้มีให้ใช้งาน

คำถามที่พบบ่อย

Windows ไม่ได้มีแอนตี้ไวรัสในตัวอยู่แล้วหรอ

ใช่ คอมพิวเตอร์ Windows ส่วนใหญ่มี Windows Defender ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว ซึ่งโปรแกรมนี้ใช้งานได้ดีกว่าเมื่อก่อนมาก อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถให้การป้องกันมัลแวร์ได้มากเท่ากับบริการอื่น ๆในรายการนี้

Windows Defender นั้นไม่ได้ช่วยป้องกันมัลแวร์เรียกค่าไถ่ สปายแวร์ โฆษณาและภัยคุกคามอื่น ๆ อย่างเช่น ฟิชชิ่งและการขโมยข้อมูลส่วนตัว ในขณะที่ Windows Defender งั้นให้การปกป้องที่พอใช้ได้ แต่มันไม่ได้ปกป้องคุณจากภัยคุกคามจากมัลแวร์ขั้นสูงประเภทอื่น ๆ

หากคุณระมัดระวังเป็นประจำอยู่แล้วและไม่มีข้อมูลที่สำคัญจัดเก็บเอาไว้ใน PC ของคุณ แค่มี Windows Defender ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่หากคุณจัดเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ — ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน รายละเอียดธนาคาร รูปภาพและอื่น ๆ — คุณควรมองหาการป้องกันเพิ่มเติมอย่างเช่น Norton 360.

แอนตี้ไวรัสฟรีดีพอหรือเปล่า

ในขณะที่มีบริการแอนตี้ไวรัสฟรีสำหรับ Windows ให้เลือกใช้ มันทำหน้าที่ในการปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ดี แต่มันไม่ได้ให้การป้องกันที่ครบถ้วนกับข้อมูลของคุณ บริการฟรีเหล่านี้มักจะขาดฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับการปกป้องคุณจากภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ อย่างเช่น:

  • การป้องกันเว็บแคม
  • การป้องกันมัลแวร์เรียกค่าไถ่
  • การป้องกันการฟิชชิ่ง
  • การป้องกันการขโมย
  • VPN
  • เข้ารหัสการจัดเก็บไฟล์
  • การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
  • และอื่น ๆ อีกมากมาย…

แอนตี้ไวรัสอย่าง Norton และ McAfee มีตัวเลือกฟีเจอร์เพิ่มเติมที่สำคัญมากมายที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณและข้อมูลที่สำคัญนั้นได้รับการปกป้องอย่างเต็มรูปแบบจากภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ขั้นสูง

แอนตี้ไวรัสจากทำให้คอมพิวเตอร์ของฉันช้าลงไหม

ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้คอมพิวเตอร์ของคุณอย่างไร

โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานจะเป็นปัญหาหาก:

  • คุณใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกม
  • คุณต้องการพื้นที่ CPU แอพพลิเคชั่นที่มีพื้นที่มาก
  • คุณมีคอมพิวเตอร์ที่มีอายุเยอะ
  • คุณทำการสตรีมออนไลน์เป็นประจำ

แอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการ สามารถให้บริการได้อย่างลื่นไหล รวดเร็ว โดยที่ไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพใด ๆ เลย แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 & 11 ในปี 2023 คือ — Norton 360 — โปรแกรมจะไม่ทำให้ระบบช้าลง ไม่ว่าคุณจะใช้ฟีเจอร์ไหนก็ตาม

แอนตี้ไวรัสไหนที่ดีที่สุดสำหรับทั้ง Windows และ Android/iOS/Mac

แอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่มีระบบปฏิบัติการในหลายแพลตฟอร์ม รวมทั้ง Windows Android iOS และ Mac รวมถึงบริการ ในรายการนี้ด้วย.

แอนตี้ไวรัสเหล่านี้ได้ถูกจัดอันดับและให้คะแนนในการเป็นบริการสำหรับ Windows แต่พวกเขาก็มีระบบปฏิบัติการสำหรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ซึ่งมันน่าประทับใจมาก ยกตัวอย่างแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่ฉันชอบที่สุดอย่าง — Norton 360 Deluxe — ที่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ Windows Android iOS และ Mac

ทำไมต้องใช้แอนตี้ไวรัสบน Windows

พื่ออธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ Windows เป็นระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งทำให้มันเป็นเป้าหมายยอดนิยมสำหรับอาชญากรไซเบอร์ มัลแวร์และภัยคุกคามที่เป็นอันตรายบนอินเตอร์เน็ตก็มุ่งเป้าการโจมตีมาที่ระบบปฏิบัติการ Windows ด้วย

Windows มาพร้อมกับโปรแกรมป้องกันไวรัสในตัวที่มีชื่อว่า Windows Defender ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมมาก มันสามารถปกป้องคุณจากภัยคุกคามมัลแวร์ที่หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามมันยังขาดฟีเจอร์ ความปลอดภัยหลาย ๆ อย่างที่นำเสนอโดยแอนตี้ไวรัสพรีเมี่ยมในรายการนี้

อินเทอร์เน็ตมีบทบาทอย่างมากในชีวิตเราในปัจจุบัน การที่เราไม่สามารถป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามออนไลน์ได้อย่างเต็มที่ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย ฉันแนะนำให้คุณเลือกใช้แอนตี้ไวรัสที่มีฟีเจอร์ระดับพรีเมียมครบถ้วน เช่น Norton 360 ซึ่งไม่เพียงแต่ป้องกันมัลแวร์ เว็บฟิชชิงและภัยคุกคามจากอินเตอร์เน็ตอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตที่มีประโยชน์มาก เช่น เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน VPN และการควบคุมโดยผู้ปกครอง

หากคุณไม่ต้องการจ่ายเงินเพิ่ม เราขอแนะนำให้คุณปกป้องตัวเองด้วยมากกว่าแค่ Windows Defender เรามีแอนตี้ไวรัสราคาถูกและฟรีมากมายนำเสนออยู่ แต่ส่วนใหญ่แล้วมันให้บริการได้ไม่ดีเท่ากับบริการพรีเมี่ยม ดังนั้นอย่าลืมเลือกแอนตี้ไวรัสฟรีที่มีคุณภาพ ที่จะช่วยปกป้องคุณจากมัลแวร์อันตราย Avira Free Security เป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่ฉันชอบมากที่สุดใน 2023

แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 7 คืออะไร

แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 7 ที่ฉันแนะนำคือ Norton 360 มีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบและยังมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญ ครบถ้วนและมีประโยชน์อื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่มีวัน “สิ้นสุดอายุการใช้งาน” สำหรับ Windows 7 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่ในรายการนี้ยังสามารถใช้งานได้กับ Windows 7 และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมทั้งหมด แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่า Windows 7 ยังคงใช้งานได้กับแอนตี้ไวรัสที่คุณเลือกอย่างสมบูรณ์หรือไม่และอีกนานแค่ไหน ตัวอย่างเช่น Bitdefender นั้นไม่รองรับการใช้งานบน Windows 7 ตั้งแต่ต้นปี 2023 และ McAfee หยุดให้บริการบน Windows 7 แล้ว

โปรดจำไว้ว่า Microsoft ได้ยุติการสนับสนุนสำหรับ Windows 7 แล้ว ดังนั้นคุณจะไม่ได้รับการอัปเดตความปลอดภัยใด ๆ อีกต่อไป ซึ่งหมายความว่า PC ของคุณมีความเสี่ยงต่อมัลแวร์มากกว่าระบบปฏิบัติการที่ใหม่กว่า หากคุณไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows เวอร์ชันล่าสุดได้ คุณก็จำเป็นต้องใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีคุณภาพ เช่น Norton เพื่อช่วยให้ PC ของคุณได้รับการปกป้อง

แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 8 คืออะไร

Norton 360 เป็นตัวเลือกแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 8 มันมีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญอื่น ๆ เช่น ไฟร์วอลล์ การป้องกันเว็บฟิชชิ่ง การป้องกัน Wi-Fi การควบคุมโดยผู้ปกครอง VPN และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่แอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่ในรายการนี้สามารถใช้งานกับ Windows 8 PC ได้, แม้ว่า Norton จะเป็นตัวเลือกที่ฉันชอบมากที่สุด บริการอื่น ๆ เช่น Avira และ TotalAV ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน

โปรดจำไว้ว่า Windows 8 เป็นระบบปฏิบัติการที่ค่อนข้างเก่า และ Microsoft ก็ใกล้จะยกเลิกการใช้งานเวอร์ชันนี้แล้ว ซึ่งหมายความว่าแอนตี้ไวรัสนั้นมีความสำคัญในการปกป้องคุณจากภัยคุกคามใหม่ ๆ อย่างมาก แอนตี้ไวรัสบางบริการ เช่น McAfee และ Bitdefender รองรับเฉพาะเวอร์ชั่น Windows 8.1 ขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นจึงควรตรวจสอบว่าโปรแกรมป้องกันไวรัสที่คุณเลือกมีวันที่สิ้นสุดการใช้งานสำหรับ Windows รุ่นของคุณหรือไม่ก่อนที่จะซื้อบริการระยะยาว

แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 คืออะไร

ในความคิดของฉัน Norton 360 เป็นแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 มันไม่เพียงมีคะแนนการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษที่ยอดเยี่ยมมากมาย เช่น การป้องกันเว็บฟิชชิ่ง การป้องกัน Wi-Fi ไฟร์วอลล์ VPN การควบคุมโดยผู้ปกครอง เครื่องมือจัดการรหัสผ่านและอื่น ๆ อีกมากมาย

อย่างไรก็ตามแอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการนี้สามารถใช้งานได้กับ Windows 10 และล้วนเป็นบริการที่มีคุณภาพ คุณอาจพบว่าตัวเลือกอื่นเหมาะกับคุณมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณด้วย ตัวอย่างเช่น: Bitdefender นั้นเป็นโปรแกรมขนาดเล็ก ดังนั้นมันจะไม่ทำให้อุปกรณ์ของคุณช้าลงเลย VPN ของ TotalAV นั้นเป็นบริการที่ดีที่สุดหรือถ้าคุณมองหาบริการฟรี Avira Free Security for Windows ก็เป็นตัวเลือกแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุดใน 2023เช่นกัน

ฉันสามารถใช้แอนตี้ไวรัส Windows บน Android, iOS หรือ Mac ได้หรือไม่

บางแอนตี้ไวรัสและแพ็คเกจความปลอดภัยครอบคลุมระบบปฏิบัติการหลายระบบและบางแพ็คเกจไม่ครอบคลุม ดังนั้นหากคุณวางแผนที่จะใช้แอนตี้ไวรัสตัวใดตัวหนึ่งในรายการนี้สำหรับระบบปฏิบัติการอื่น คุณควรตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจก่อนว่ามีการรับรองระบบปฏิบัติการนั้นหรือไม่

แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows คือ Norton ยังเป็นแอนตี้ไวรัสที่ที่ดีสุดสำหรับ Android และ iOS และยังเป็นหนึ่งในแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Mac อีกด้วย ดังนั้นนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ทุกประเภท แผนบริการ 360 Deluxe อนุญาตให้คุณสามารถเชื่อมต่อสูงสุด 5 อุปกรณ์และยังสามารถใช้ได้กับ Windows, Android, iOS และ Mac เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการ

แอนตี้ไวรัส Windows 11 สามารถใช้กับ Windows 7 และ 8 ได้หรือไม่

แอนตี้ไวรัสหลายบริการในรายการนี้สามารถใช้งานได้กับ Windows ทุกเวอร์ชั่น รวมถึง 7, 8, 10 และ 11 ดังนั้นคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าแอนตี้ไวรัสมีบริการสำหรับระบบปฏิบัติการที่คุณต้องการก่อนที่จะซื้อบริการนั้น ยกตัวอย่าง McAfee ที่มีบริการสำหรับ Windows 11 และ Windows 8 แต่ไม่มีบริการสำหรับ Windows 7

ถ้าคุณมองหาแอนตี้ไวรัสที่ดีสำหรับ Windows 7-11 ฉันขอแนะนำให้เลือก Norton เพราะมันเป็นแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่ดีที่สุด

อันดับ
คะแนนทั้งหมด
ข้อเสนอที่ดีที่สุด
เกี่ยวกับผู้เขียน
คาทาริน่า กลาโมสลิยา
คาทาริน่า กลาโมสลิยา
หัวหน้าผู้จัดการเนื้อหา
อัพเดท: 1 พฤษภาคม 2023

เกี่ยวกับผู้เขียน

คาทาริน่า กลาโมสลิยา เป็นหัวหน้าผู้จัดการเนื้อหาที่ SafetyDetectives เธอมีประสบการณ์นานเกือบนับทศวรรษในด้านการค้นคว้า ทดสอบ และรีวิวผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ และแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับความปลอดภัยทางออนไลน์และการปกป้องข้อมูล ก่อนที่จะมาเข้าร่วมกับ SafetyDetectives เธอเป็นผู้จัดการเนื้อหาและหัวหน้าบรรณาธิการให้กับเว็บไซต์รีวีวมาหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแอนตี้ไวรัสและ VPN นอกจากนี้เธอยังทำงานเป็นนักเขียนและบรรณาธิการฟรีแลนซ์ให้กับสำนักพิมพ์สายเทคโนโลยี การแพทย์ และธุรกิจด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ "Safety Detective" แต่เธอก็เป็นผู้ที่มีการเดินทางเป็นประจำ (และก็เขียนเกี่ยวกับการเดินทางบนบล็อกเดินทางเล็ก ๆ ของเธอ) นอกจากนี้เธอก็เป็นคนรักแมวและชอบดูละครสืบสวนสอบสวน