มีเวลาไม่พอใช่ไหม แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 คืออะไร
- 🥇 Norton 360: เครื่องมือป้องกันมัลแวร์ที่ปกป้องคุณจากไวรัส เครื่องมือติดตาม สอดแนม เรียกค่าไถ่ โฆษณาและอื่น ๆ อีกมากมายได้อย่างทรงพลัง มาพร้อมกับ VPN การควบคุมสำหรับผู้ปกครอง พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยและเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
ฉันทดสอบโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดบนอุปกรณ์ Windows 10 หลายเครื่องและให้คะแนนพวกเขาในด้านการตรวจจับมัลแวร์ ความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตและความคุ้มค่าโดยรวม ฉันพบแอนตี้ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 จำนวน 10 รายการ
แต่มันไม่ง่ายเลย มันมีซอฟท์แวร์ที่ให้บริการได้ไม่เอาไหนมากมายบนอินเตอร์เน็ต แม้แต่บริการจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักดีก็ยังให้บริการได้ไม่ดีเท่าที่ควรคาดหวังไว้ แม้ว่าพวกเขาจะมีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่ดี แต่มีหลายบริการที่ให้ผลการสแกนที่เป็นเท็จแก่ฉัน ผู้ให้บริการคนอื่น ๆ ทำให้ PC ของฉันทำงานช้าลง มีปัญหามากเกินไปหรือมีราคาแพงเกินไป
แต่โปรแกรมป้องกันไวรัสที่อยู่ในรายการนี้จะปกป้องอุปกรณ์ Windows ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น PC บ้าน, สำนักงาน, สำหรับเล่นเกมและมัลติมีเดีย — ในราคาที่ไม่แพง
นี่คือโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 ในปี2021:
- 1.🥇 Norton — ตัวเลือกการป้องกันไวรัสและมัลแวร์อันดับ #1 สำหรับอุปกรณ์ Windows ทั้งหมด
- 2.🥈 Bitdefender — เครื่องมือตรวจจับมัลแวร์บนคลาวด์ขั้นสูงและฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย
- 3.🥉 TotalAV — แอนตี้ไวรัสที่ใช้งานง่าย มาพร้อมกับเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพและ VPN
- 4. McAfee — ป้องกันไวรัสด้วยเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC และการป้องกันเว็บ
- 5. Avira — แอนตี้ไวรัสขนาดเล็กที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติม
🥇1. Norton 360 — ชุดความปลอดภัยสำหรับ PC ที่ดีที่สุดใน2021

Norton 360 มาตราฐานสำหรับซอฟท์แวร์แอนตี้ไวรัส โปรแกรมป้องกันไวรัส — ที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง — เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ
ฉันได้ทดสอบแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows 10 จำนวนมากเพื่อค้นหาบริการที่มีความปลอดภัยและ Norton นั้นก็เป็นหนึ่งในบริการที่ยอดเยี่ยมที่ได้คะแนนจากฉันไป 100% เต็ม ระบบต่อสู้มัลแวร์ SONAR ของ Norton มันเป็นระบบที่ช่วยการันตีถึงชั้นความปลอดภัยที่สามารถป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ทุกรูปแบบ
แพ็คเกจ Norton360 มี:
- การป้องกันไวรัส การันตีการปกป้องเต็มรูปแบบจากไวรัสและมัลแวร์ขั้นสูง รวมถึงมัลแวร์เรียกค่าไถ่และสปายแวร์
- การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ จัดเก็บไฟล์สำคัญได้ถึง 75 GB อย่างปลอดภัยในระบบคลาวด์เฉพาะของ Norton
- ไฟร์วอลล์ในตัว สแกนที่ระดับเครือข่ายเพื่อหาภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์
- การควบคุมของผู้ปกครอง การตั้งค่าขั้นสูงเพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ สามารถใช้งานออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย
- VPN ที่ปลอดภัย ความเร็วแบนด์วิดท์ที่รวดเร็วพร้อมข้อมูลไม่จำกัดและตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลาย
Norton ยังนำเสนอส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถทำงานได้ดีในการทดสอบของฉัน — สามารถบล็อกลิงก์ฟิชชิ่งและเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายทั้งหมดที่ฉันพยายามเข้าถึงได้
Norton สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์และมันไม่ทำให้ PC ของฉันมีความเร็วลดลงเหมือนกับโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ที่ฉันทดสอบ เครื่องมือการสแกนนั้นมีขนาดเล็ก — ฉันสามารถดูหนังและตัดต่อวีดีโอไปด้วยได้ในขณะที่ใช้งานเครื่องมือสแกนไวรัส โดยที่ไม่ทำให้ CPU ของฉันสะดุดหรือช้าลงแต่อย่างใด
แพ็คเกจทั้งหมดของ Norton 360 นั้นคุ้มค่าอย่างมาก แฟนของฉันและฉันได้ทดสอบแพ็คเกจ 360 Deluxe ของ Norton คิดว่าเราจะได้รับเงินคืนภายในระยะเวลารับประกันคืนเงิน 60 วัน หากเราไม่ชอบบริการนั้น แต่หลังจากที่ทดสอบใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ เราก็ตัดสินใจว่าเราจะใช้บริการนี้ต่อ
สรุป:
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่หลากหลายของ Norton ทำงานได้ดีกว่าโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ เกือบทั้งหมด ซอฟต์แวร์ทำงานได้รวดเร็วและใช้งานง่ายอินเทอร์เฟซผู้ใช้รองรับหลายภาษา including/แต่ไม่มีภาษาไทยและ Norton รับประกันว่า PC ทุกเครื่องจะยังคงได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์จากภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์ หากคุณต้องการแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่ทรงพลัง Norton นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด มีการรับประกันคืนเงิน 60 วัน ดังนั้นคุณสามารถทดลองใช้และดูว่าคุณชอบหรือไม่
🥈2. Bitdefender Total Security — ดีที่สุดสำหรับการป้องกันมัลแวร์ขั้นสูง

Bitdefender Total Security ใช้เครื่องมือป้องกันมัลแวร์บนคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows ของคุณช้าลง — ฉันประทับใจมากที่ Bitdefender ทำงานบน PC ของฉันได้อย่างราบรื่นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อ CPU หรือ RAM ของฉัน (แม้ในระหว่างการสแกนเต็มรูปแบบ)
Bitdefender มีการป้องกันมัลแวร์ 3 ชั้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์ Windows ปลอดภัย:
- การป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อตรวจจับมัลแวร์ (รวมถึงแรนซัมแวร์) โดยการวิเคราะห์ PC อย่างต่อเนื่องเพื่อหาพฤติกรรมที่น่าสงสัยบล็อกภัยคุกคามทันที
- การแก้ไขแรนซัมแวร์ สำรองข้อมูลสำคัญหากตรวจพบกิจกรรมที่น่าสงสัยและกู้คืนข้อมูลหลังจากที่ภัยคุกคามถูกลบออก
- การจัดเก็บไฟล์ให้ปลอดภัย บล็อกโปรแกรมที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงไฟล์หรือโฟลเดอร์ คล้ายกับการป้องกันแซนด์บ็อกซ์ที่ปลอดภัยของ iOS
Bitdefender มีฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน รวมถึงการป้องกันการฟิชชิ่งที่ครอบคลุม, VPN ความเร็วสูง (จำกัดที่ 200 MB ต่อวัน) และการควบคุมโดยผู้ปกครองที่ดีกว่าหลาย ๆ บริการในตลาด
Bitdefender ตรวจพบเว็บไซต์ฟิชชิ่งในการทดสอบของฉันมากกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่และ VPN สามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นทางภูมิศาสตร์โดยไม่ลดความเร็วลงอย่างมากและการควบคุมโดยผู้ปกครองทำให้ฉันกรองเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัยและรับการแจ้งเตือนเมื่อลูก ๆ เข้าใช้งานเว็บไซต์นอกเหนือจากเว็บที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
Bitdefender Antivirus Plus รวมฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่นการสแกนไวรัสแบบเรียลไทม์ การป้องกันฟิชชิ่งและการสแกนเครือข่าย Wi-Fi ในขณะที่ แผน Internet Security นำเสนอไฟร์วอลล์ที่ปลอดภัยและการควบคุมโดยผู้ปกครองของ Bitdefender แผนทั้งสองนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ Windows สูงสุด 3 เครื่อง แต่หากคุณกำลังมองหาการป้องกันที่ครอบคลุมในอุปกรณ์สูงสุด 5 เครื่องรวมถึง Mac, Android, iPhone หรือ iPads Bitdefender Total Security เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
สรุป:
Bitdefender Total Security ให้การป้องกันมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบด้ย คลาวด์แอนตี้ไวรัสที่ผสานการเรียนรู้ของเครื่อง Bitdefender นำเสนอการป้องกันหลายชั้นที่ชาญฉลาดและเต็มไปด้วยฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่ล้ำสมัย รวมถึงแซนด์บ็อกซ์ที่ปลอดภัย การป้องกันฟิชชิ่ง VPN ที่รวดเร็วและการควบคุมโดยผู้ปกครองที่ดี นอกจากนี้ ซอฟท์แวร์สามารถ แสดงอินเตอร์เฟสเป็นภาษาไทยได้ คุณสามารถทดลองใช้ Bitdefender ได้โดยไม่มีความเสี่ยงด้วยการรับประกันคืนเงิน 30 วัน
ดาวน์โหลด Bitdefender เลยตอนนี้
อ่านรีวิวตัวเต็มของ Bitdefender >
🥉3. TotalAV — ดีที่สุดสำหรับเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ Windows

TotalAV มีเครื่องมือป้องกันมัลแวร์ที่แข็งแกร่งมาก — ด้วยการสแกนไวรัสที่ดี การป้องกันแบบเรียลไทม์ เครื่องมือป้องกันข้อมูลส่วนตัวและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC ที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทดสอบมา
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพประกอบด้วย:
- เครื่องมือลบไฟล์ขยะและไฟล์ที่ทำซ้ำ
- เครื่องมือถอนการติดตั้งที่ใช้งานง่าย
- เครื่องมือจัดการโปรแกรมเริ่มต้น
- โปรแกรมล้างไฟล์ขยะของเว็บเบราว์เซอร์
แฟนของฉันและฉันได้ทดสอบฟีเจอร์เหล่านี้บนอุปกรณ์ Windows 10 ของเรา แฟนของฉันพบว่า Startup โปรแกรมกว่า 18 รายการนั้นทำให้คอมพิวเตอร์ของเธอช้าลง ฟีเจอร์ Startup Manager ช่วยฉันให้สามารถลบโปรแกรมเริ่มต้นที่ไม่จำเป็นทั้งหมดเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยทำให้เวลาในการเริ่มต้นเร็วขึ้นประมาณ 4 นาที
เครื่องมือล้างไฟล์ขยะพบไฟล์ไร้ประโยชน์กว่า 8 GB ในฮาร์ดไดรฟ์ของฉัน ดังนั้นฉันจึงสามารถเพิ่มพื้นที่สำหรับซอฟต์แวร์วิดีโอของฉันได้
TotalAV has 3 plans — Antivirus Pro มาพร้อมกับเครื่องมือป้องกันมัลแวร์และเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพและครอบคลุมอุปกรณ์สูงสุด 3 เครื่อง Internet Security มี VPN และครอบคลุมสูงสุด 5 อุปกรณ์ Total Security เพิ่มในตัวบล็อกโฆษณาและตัวจัดการรหัสผ่านและครอบคลุมอุปกรณ์ 6 เครื่อง TotalAV มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันในทุกแผนที่คุณซื้อ
สรุป:
TotalAV เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ฉันชอบสำหรับการทำความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ การป้องกันไวรัสนั้นดีมากและทำให้การทำความสะอาดและเพิ่มความเร็ว PC นั้นทำได้ง่ายมาก แม้แต่แฟนที่ไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีของฉันก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย อินเตอร์เฟสผู้ใช้ของ TotalAV ได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 10 ภาษา including/แต่น่าเสียดายที่ไม่มีในภาษาไทย แผนที่ถูกที่สุดของ TotalAV มาพร้อมกับโปรแกรมแอนตี้ไวรัสและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC คุณสามารถทดลองใช้โดยปราศจากความเสี่ยงด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
4. McAfee Total Protection — ดีที่สุดสำหรับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม

McAfee Total Protection มีเครื่องมือสแกนมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยม — สามารถตรวจจับ 99.7% ของมัลแวร์ในการทดสอบของฉันได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ชุดรักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ซึ่งได้แก่ :
- เครื่องมือการป้องกันเว็บ มาพร้อมกับการสแกน Wi-Fi, ไฟร์วอลล์อัจฉริยะและการป้องกันฟิชชิ่ง
- การเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ นำเสนอตัวเลือกเพื่อลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่บนแล็ปท็อป
- การปรับแต่งระบบ ปรับปรุงประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์โดยการลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น ซึ่งอาจทำให้การทำงานของ PC ช้าลง
- เครื่องทำลายไฟล์และการเข้ารหัสไฟล์ ลบไฟล์อย่างปลอดภัยหรือทำให้ไม่สามารถอ่านได้ในกรณีที่ถูกขโมย
- เครื่องมือสแกนหาช่องโหว่ สแกนและติดตั้งการอัปเดต Windows และแอพพลิเคชันที่สำคัญ
- VPN ที่ปลอดภัย เข้ารหัสข้อมูลอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วแบนด์วิดท์ที่เหมาะสมและข้อมูลการท่องเว็บที่ไม่จำกัด
- การป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว (สหรัฐฯ เท่านั้น) ตรวจสอบรายงานเครดิตสำหรับกิจกรรมที่ผิดปกติและรวมถึงการจ่ายเงินประกันจำนวนมาก
ฉันชอบการป้องกันเว็บของ McAfee มาก — McAfee ตรวจพบเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ Chrome และ Edge ไม่สามารถตรวจได้และเครื่องสแกนเครือข่าย Wi-Fi ก็แจ้งเตือนฉันทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้นในเครือข่ายของฉัน นอกจากนี้ไฟร์วอลล์ยังนำเสนอการป้องกันภัยคุกคามจากการแฮ็กในเครือข่าย
McAfee Total Protection มีราคาที่คุ้มค่าโดยนำเสนอฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมายและครอบคลุมอุปกรณ์มากถึง 10 เครื่อง (รวมถึงอุปกรณ์ Android, Macs และ iOS) รวมถึงส่วนลดที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสมัครสมาชิก 2 ปี
สรุป:
McAfee นำเสนอการป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมอีกมากมาย ฉันประทับใจกับการป้องกันเว็บของ McAfee เช่นการป้องกันฟิชชิ่ง การสแกน Wi-Fi และ VPN ที่ปลอดภัยvpjk’มาก นอกจากนี้ McAfee ยังมาพร้อมกับตัวเลือกพิเศษที่เป็นประโยชน์ เช่น เครื่องมือปรับแต่งระบบ เครื่องทำลายไฟล์และการป้องกันการโจรกรรมข้อมูล (เฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) you can display its dashboard in {language}, it ซึ่งเป็นหนึ่งในแผน 2 ปีที่ราคาถูกที่สุด โปรแกรมป้องกันไวรัสในรายการของฉันและให้การรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันโดยไม่มีความเสี่ยง
5. Avira Prime — ดีที่สุดสำหรับการสแกนอย่างรวดเร็ว & การอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ

แพคเกจ Avira Prime มีโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ทำให้ฉันประทับใจมาก — มันมีอัตราการตรวจจับที่สูงเป็นพิเศษและผลผิดพลาดต่ำในระหว่างการทดสอบของฉัน พวกเขาใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อให้ความเร็วในการสแกนรวดเร็วและแม่นยำเป็นพิเศษ ทำให้มีอัตราการตรวจจับ 100% สามารถตรวจจับได้ทั้งมัลแวร์เก่าและใหม่
นอกเหนือจากโปรแกรมสแกนไวรัสที่ทันสมัยแล้ว Avira ยังเสนอ:
- การป้องกันแอปพลิเคชันที่อาจไม่ต้องการ (PUA) ป้องกันแอปพลิเคชันที่อาจไม่ต้องการ (Potentially Unwanted Applications: PUAs) ที่สามารถซ่อนอยู่ภายในซอฟต์แวร์ที่ดูไร้พิษภัย
- เครื่องมือจัดการไฟร์วอลล์ ปรับการตั้งค่าไฟร์วอลล์ให้เหมาะสมตามระดับความปลอดภัยที่ต้องการ
- การป้องกันเว็บ ป้องกันเนื้อหาเว็บที่เป็นอันตรายและเว็บไซต์ฟิชชิ่งทุกประเภท
- การปกป้องอีเมล์ สแกนไฟล์แนบอีเมลเพื่อตรวจหามัลแวร์และลิงก์ที่เป็นอันตราย
- เครื่องมืออัปเดตซอฟต์แวร์ อัปเดตโปรแกรมยอดนิยมจำนวนมากโดยอัตโนมัติ
โปรแกรมที่ล้าสมัยอาจทำให้ระบบถูกภัยคุกคามได้ ดังนั้นฉันจึงยินดีที่พบว่า Software Updater สามารถระบุโปรแกรมที่ตกรุ่นและอัปเดตโดยอัตโนมัติ ฉันพบ 17 โปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของฉันที่ควรได้รับการอัพเดท — ซึ่งมันไม่ได้รับการอัพเดทมามากกว่า 5 ปีแล้ว — และมันสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตทุกอย่างได้โดยอัตโนมัติ
ฉันได้ทดสอบแพ็คเกจ Avira Primeที่มี Phantom VPN ของ Avira (พร้อมข้อมูลไม่จำกัด) และปกป้องอุปกรณ์ได้สูงสุด 5 เครื่อง รวมถึงอุปกรณ์ Mac, Android และ iPhone มันไม่ได้มีราคาถูกเท่ากับแพ็คเกจ Norton 360 Deluxe แต่งว่าฟีเจอร์เพิ่มเติมในแพ็จเกจนี้ก็ยังทำให้ Avira Prime นั้นคุ้มค่าอยู่
สรุป:
Avira เป็นหนึ่งในโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่น่าเชื่อถือที่สุด — อัตราการตรวจจับที่สมบูรณ์แบบนั้นยากที่จะทำตามได้ มีประสิทธิภาพและมีขนาดเล็ก, and its UI supports {language} ฟีเจอร์พิเศษที่ฉันชอบคือ Software Updater เพราะมันทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมากด้วยเพราะว่าพวกเขาทำงานที่น่าเบื่อ แต่มีความสำคัญโดยอัตโนมัติในการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ!
อ่านรีวิว Avira Prime ตัวเต็มของเรา >
6. BullGuard — เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ใช้ PC

BullGuard นำเสนอเอ็นจิ้นป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่มาพร้อมฟีเจอร์พิเศษที่ดีและเกมบูสเตอร์ที่ไม่เหมือนใครที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ PC ในระหว่างการเล่นเกม
ฉันลองใช้ BullGuard บนเกม PC ของฉันด้วย 2-3 เกม เช่น Half-Life: Alyx, Destiny 2: Beyond Light และ Fortnite ฉันทดสอบประสิทธิภาพของ CPU, การใช้ RAM, เฟรมเรทและเวลาในการโหลดและฉันรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า BullGuard ปรับปรุงประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ของฉันในทุกด้านอย่างเห็นได้ชัด!
นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว BullGuard ยังมีการป้องกันความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ เช่น:
- ไฟร์วอลล์
- การควบคุมของผู้ปกครอง
- การสำรองข้อมูลบนคลาวด์
- VPN (ซื้อบริการแยกเท่านั้น)
- การป้องกันการโจรกรรมข้อมูลประจำตัว (เฉพาะในสหรัฐ ฯ แคนาดาและสหภาพยุโรปเท่านั้น)
ฉันคิดว่าฟีเจอร์พิเศษของ BullGuard นั้นไม่น่าประทับใจเท่าที่ ไฟร์วอลล์นั้นดีมาก แต่การควบคุมโดยผู้ปกครองไม่สามารถบล็อกเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมส่วนใหญ่ในการทดสอบของฉันได้ อย่างไรก็ตามการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลประจำตัวของ BullGuard นั้นยอดเยี่ยมมาก โดยมันจะทำการตรวจสอบเครดิตแบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายระหว่างประเทศของ Experian VPN ของ BullGuard นั้นดีพอสมควร แต่ฉันอยากให้มันจะรวมอยู่ในแผนพรีเมียมของ BullGuard แทนที่จะให้ผู้ใช้จ่ายแยก
แพ็คเกจพื้นฐานของ — BullGuard Antivirus — มีแค่โปรแกรมแอนตี้ไวรัสและเกมบูสเตอร์และครอบคลุมอุปกรณ์เพียง 1 เครื่องเท่านั้น หากคุณต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมคุณต้องไปที่ BullGuard Internet Security (ฟีเจอร์ส่วนใหญ่แสดงอยู่ที่ด้านบน) หรือ BullGuard Premium Protection (มีการปกป้อง ID และการแสกนเครือข่าย)
สรุป:
BullGuard มีเครื่องสแกนมัลแวร์ที่ดี ฟีเจอร์พิเศษที่ดีพอใช้และเครื่องมือสนับสนุนเกมขั้นสูงที่เพิ่มเฟรมเรทและลดเวลาในการโหลดระหว่างการเล่นเกม ฉันไม่ได้ไม่ค่อยชอบอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ BullGuard ซักเท่าไหร่ (ซึ่งมีให้บริการในภาษาอังกฤษ เยอรมัน เดนมาร์ก ฝรั่งเศสและสเปน) และการควบคุมโดยผู้ปกครองควรจะให้บริการได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามฟีเจอร์อื่น ๆ ทั้งหมดนั้นถือว่าใช้งานได้ดี — หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมแอนตี้ไวรัสราคาประหยัดและปลอดภัยสำหรับเกมมิ่ง PC ของคุณ BullGuard เป็นตัวเลือกที่ดี
อ่านรีวิวตัวเต็มของ BullGuard >
7. Panda Dome — ดีที่สุดสำหรับการเข้ารหัสไฟล์และกู้คืน PC ที่ติดไวรัส

Panda Dome มีเครื่องสแกนไวรัสที่ดีและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่เป็นประโยชน์อย่างมาก
นี่คือการป้องกันที่ทำให้ Panda โดดเด่นในการทดสอบของฉัน:
- การเข้ารหัสไฟล์
- เครื่องทำลายไฟล์
- PC Rescue Kit
Rescue Kit ของ Panda Dome นั้นทำให้การเข้ารหัสเอกสารที่มีความสำคัญนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพื่อไม่ให้มัลแวร์สามารถเข้ามาทำอันตรายหรือใช้เอกสารพวกนี้เพื่อเรียกค่าไถ่จากฉันได้
Rescue Kit ช่วยล้าง PC ที่ถูกยึดครองด้วยมัลแวร์ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อุปกรณ์ไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแค่โหลด Rescue Kit ลงในไดรฟ์ USB เสียบไดรฟ์ USB เข้ากับอุปกรณ์ที่ติดไวรัสบูตเครื่อง Panda จะลบมัลแวร์โดยอัตโนมัติและทำให้อุปกรณ์ใช้งานได้อีกครั้ง
แพ็คเกจขั้นสูงของ Panda นั้นมีราคาแพงเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ที่นำเสนอฟีเจอร์คล้าย ๆ กัน (ปกป้องบนอุปกรณ์ได้มากกว่า) ในราคาที่ถูกกว่า แต่ฉันดาวน์โหลดแผนที่มีราคาไม่แพง แพ็คเกจ Panda Dome Essential — ที่มีการสแกนมัลแวร์แบบเรียลไทม์ การสแกน Wi-Fi และแม้แต่ VPN (150 MB ต่อวัน)
สรุป:
เครื่องมือสแกนไวรัสของ Panda ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในการทดสอบของฉันและฉันชอบฟีเจอร์เพิ่มเติมบางอย่างของพวกเขา — โดยเฉพาะ Rescue Kit ฉันจะไม่ประทับใจกับฟีเจอร์อื่น ๆ และฉันก็คิดว่าแพ็คเกจของ Panda นั้นแพงเกินไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามพวกเขามีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ดังนั้นจึงไม่เสียหายอะไรที่จะลองใช้งาน Panda เพื่อดูว่ามันเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ PC ของคุณหรือไม่ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดอินเตอร์เฟสของพวกกเขานั้น supports/ไม่สนับสนุนภาษาไทย
ดาวน์โหลด Panda Dome เลยตอนนี้
อ่านรีวิวตัวเต็มของ Panda Dome >
8. Kaspersky Total Security — ใช้งานได้ง่ายมาก

Kasperskyมีเครื่องสแกนมัลแวร์ที่ปลอดภัยสำหรับ Windows พร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ยอดเยี่ยมและแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย
เครื่องมือสแกนมัลแวร์แบบเรียลไทม์ของ Kaspersky ตรวจพบไวรัส สปายแวร์และแรนซัมแวร์จำนวนมากในการทดสอบของฉัน
Kaspersky ยังมี:
- การป้องกันการฟิชชิ่ง บล็อกเว็บไซต์ที่หลอกลวงไม่ให้ขโมยข้อมูลของคุณ
- การป้องกันเงินของคุณ รักษาความปลอดภัยเมื่อซื้อของและทำธุรกรรมในเบราว์เซอร์พิเศษที่ปลอดภัย
- การปกป้องความเป็นส่วนตัว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรแกรมภายนอกไม่สามารถเข้าถึงเว็บแคมหรือไมโครโฟนโดยไม่ได้รับอนุญาต
- การควบคุมของผู้ปกครอง บล็อกเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัยและเครื่องมือติดตามตำแหน่งอุปกรณ์
แผนKaspersky Antivirusนั้นถือว่าเพียงพอหากคุณต้องการการปกป้องสำหรับ Windows แต่แผนหลายอุปกรณ์สำหรับอุปกรณ์สูงสุด 10 เครื่อง (รวมถึง Mac, Android และ iOS) นั้นคุ้มค่ากว่ามากแผน Kaspersky Total Security นั้นมีราคาใกล้เคียงกันกับแพ็คเกจ Norton360 Deluxe — แต่ Kaspersky อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอินเทอร์เฟซที่ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น
สรุป:
Kaspersky Total Security เป็นโปรแกรมรักษาความปลอดภัยระดับชั้นนำที่ใช้งานและนำทางได้ง่ายมาก and supports {language} หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ใช้งานง่ายสำหรับ PC Windows ของคุณ Kaspersky เป็นตัวเลือกที่ดีและมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันโดยไม่มีข้อผูกมัด
อ่านรีวิวตัวเต็มของ Kaspersky >
9. ESET Smart Security Premium — เครื่องมือสแกนมัลแวร์และการวินิจฉัยขั้นสูงที่ดี

ESETมีเครื่องมือป้องกันมัลแวร์ขั้นสูงและเครื่องมือวินิจฉัยสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย — ในขณะที่ ESET เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่มีความสนใจในเทคโนโลยี แต่ผู้ใช้ที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านเทคนิคส่วนใหญ่ควรมองหาบริการอื่น
เครื่องสแกนมัลแวร์ของ ESET ใช้การวิเคราะห์พฤติกรรมขั้นสูงเพื่อตรวจจับภัยคุกคามมัลแวร์แบบ zero-day ซึ่งได้คะแนนอัตราการตรวจจับที่เกือบสมบูรณ์แบบในการทดสอบ
ESET ยังมี:
- การวินิจฉัยขั้นสูง
- การป้องกันการฟิชชิ่ง
- การเข้ารหัสข้อมูลและอุปกรณ์
- การป้องกันการขโมย
เครื่องมือวินิจฉัยขั้นสูงของ ESET เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในรายการของฉัน โดยมีรายการไฟล์ ไดรเวอร์และรายการรีจิสทรีทั้งหมดในอุปกรณ์ของฉัน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในระบบของฉันได้ในกรณีฉุกเฉิน
ESET เป็นเครื่องมือป้องกันมัลแวร์ที่ดีที่มาพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่เป็นเอกลักษณ์ — แผนที่คุ้มค่าที่สุดคือESET Internet Security ซึ่งมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
สรุป:
ESET มีการป้องกันไวรัสที่ปลอดภัยพร้อมกับฟีเจอร์เฉพาะสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง หากรายงานการใช้งานระบบที่ครอบคลุมและเครื่องมือเข้ารหัสอุปกรณ์ฟังดูเป็นส่วนเสริมที่น่าสนใจ ถ้าอย่างนั้น ESET เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม หากคุณไม่รู้ว่าฟีเจอร์เหล่านั้นคืออะไรลองดูโปรแกรมอื่น ๆ ในรายการของฉัน โปรดทราบว่าอินเตอร์เฟสผู้ใช้นั้นได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ และมีอินเตอร์เฟสในภาษาไทยด้วยเช่นกัน/but {language} is not one of them.
10. Trend Micro — ดีที่สุดสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ต & ธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย

Trend Micro มีเครื่องสแกนมัลแวร์ที่ดีและเครื่องมือรักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตที่ดีสำหรับผู้ใช้ Windows
ฉันคิดว่ามันเจ๋งมากที่ Trend Micro แสดงให้ผู้ใช้เห็นว่าเว็บไซต์ใดปลอดภัย — มีการใช้ระบบสีที่เรียบง่ายเพื่อจัดอันดับผลการค้นหาของ Google จากสีเขียว (ปลอดภัย) เป็นสีเหลือง (ไม่ปลอดภัย) เป็นสีแดง (อันตราย)
Trend Micro ยังมี:
- การสแกนหาการละเมิดรหัสผ่าน
- VPN
- เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
- เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัย
ฉันชอบการตรวจสอบการละเมิดข้อมูลของ Trend Micro ซึ่งใช้การเข้ารหัสเพื่อค้นหาฐานข้อมูลออนไลน์สำหรับรหัสผ่าน ชื่อผู้ใช้และแม้แต่ข้อมูลบัตรเครดิตที่อาจเสี่ยงต่อการถูกแฮค
VPN ของ Trend Micro ไม่ได้ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วมากเท่าไหร่โดยเฉพาะกับเซิร์ฟเวอร์ระหว่างประเทศ แต่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษากิจกรรมออนไลน์ของคุณให้เป็นส่วนตัว
หากคุณกำลังมองหาการป้องกันเว็บที่ใช้งานง่ายและเครื่องมือสแกนมัลแวร์ที่ดี Trend Micro เป็นตัวเลือกที่ดี — แต่ฉันคิดว่ามันจำเป็นต้องมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกันเช่นNorton และ Bitdefender
สรุป:
Trend Micro มีเครื่องสแกนมัลแวร์บนคลาวด์ที่ดีรวมถึงบริการเสริมที่เหมาะสมเช่นการตรวจสอบการละเมิดข้อมูลและการป้องกันฟิชชิ่งอีเมลฉันคิดว่ามันมีราคาแพงไปหน่อย แต่เป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก ที่มีการป้องกันความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตที่ดีและอินเทอร์เฟซสามารถแสดงเป็นภาษา ไทยและอีก 19 ภาษา
ดาวน์โหลด Trend Micro เลยตอนนี้
อ่านรีวิวตัวเต็มของ Trend Micro >
โบนัส: Cylance — การสแกนไวรัสโดยไร้การรบกวนใด ๆ

Cylanceเครื่องมือสแกนป้องกันมัลแวร์แบบเรียบง่ายที่ใช้ AI เพื่อทำงานอย่างราบรื่นในพื้นหลัง — มัน ใช้งานได้ค่อนข้างดี สามารถตรวจจับมัลแวร์ส่วนใหญ่ในการทดสอบของฉันได้
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องของ Cylance ยังไม่ก้าวหน้าเท่ากับโปรแกรมป้องกันไวรัสอื่น ๆ ในรายการนี้และโปรแกรมนี้ขาดฟีเจอร์ส่วนใหญ่ที่ฉันคาดหวังว่าจะได้เห็นในโปรแกรมป้องกันไวรัส Windows ระดับพรีเมียมซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงได้อันดับเท่านี้
Cylance เป็นตัวเลือกที่พอใช้ได้สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสมาก่อน แต่มีตัวเลือกที่ดีกว่ามาก แม้กระทั่งสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค พ่อแม่ของฉันชอบ Cylance มาก – ฉันใช้ฟีเจอร์การเข้าถึงระยะไกลของโปรแกรม เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์โดยที่พวกเขาไม่ต้องทำอะไรเลย!
สรุป:
Cylance มีเครื่องสแกนมัลแวร์ที่ใช้ AI แต่ก็ไม่มีอะไรที่โดดเด่นอย่างอื่นอีก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ระดับเริ่มต้น แต่ฉันไม่คิดว่าเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องของ Cylance จะซับซ้อนพอที่จะแข่งขันกับบริการชื่อดังอย่าง Norton และ Bitdefender ได้ Cylance ให้คุณสามารถใช้งานพร้อมกับผู้ให้อีก 10 คนได้ แต่มีอินเตอร์เฟสในภาษาอังกฤษเท่านั้นและยังนำเสนอการการันตีคืนเงินใน 30 วันอีกด้วย
วิธีให้คะแนนโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10
ฉันต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าฉันสามารถค้นหาโปรแกรมที่ให้การปรับปรุงมากกว่าการป้องกันความปลอดภัยในตัวที่นำเสนอให้โดย Windows — นี่คือสิ่งที่ฉันมองหาในการทดสอบของฉัน:
- การตรวจจับมัลแวร์ โปรแกรมป้องกันไวรัสทั้งหมดในรายการนี้มีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ย
- การป้องกันเว็บ ฉันทดสอบฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การป้องกันฟิชชิ่ง, VPN, เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยและเครื่องมือป้องกันการติดตามเพื่อให้แน่ใจว่าโปรแกรมป้องกันไวรัสเหล่านี้สามารถทำให้ผู้ใช้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย
- ประสิทธิภาพ ฉันต้องการให้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของฉันทำงานได้อย่างลื่นไหลในพื้นหลังโดยที่ไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ของฉันช้าลง ซอฟต์แวร์ทั้งหมดในรายการนี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่กินเนื้อที่ใน PC ของฉัน
- ฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรม ฉันมักจะให้คะแนนพิเศษสำหรับฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์และน่าตื่นเต้นอยู่เสมอ ฉันทดสอบโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแต่ละตัวเพื่อดูว่าฟีเจอร์เพิ่มเติมนั้นคุ้มค่าจริงหรือไม่
- ความคุ้มค่า แอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการนี้นำเสนอการป้องกันภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ในราคาที่เหมาะสม
แบรนด์ใหญ่ไม่ได้ถูกเลือก
แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows 10 จากแบรนด์ใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในรายการบริการที่ดีที่สุดของฉัน :
- Heimdal. นำเสนอฉันความปลอดภัยขั้นสูง — บล็อกมัลแวร์ก่อนที่จะถูกลงมายังอุปกรณ์ของคุณ แต่ซอฟต์แวร์ของพวกเขานั้นมีความซับซ้อนมากเกินไปสำหรับผู้ใช้ขั้นต้นและขาดฟีเจอร์เพิ่มเติมที่บริการแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ นำเสนอในราคาที่เท่ากัน
- Webroot. มีขนาดเล็กรวดเร็วและใช้งานได้ง่ายมีฟีเจอร์มากมาย แต่อัตราการตรวจจับของพวกเขานั้นดีไม่พอเมื่อฉันทดสอบ ดังนั้นฉันไม่สามารถใส่มันเอาไว้ในรายการได้
- AVG/AvastAvast และ AVG เป็นเจ้าของโดยบริษัทเดียวกันพวกเขาถูกกล่าวหาว่าขายข้อมูลผู้ใช้ให้แก่บุคคลที่ 3 ฉันไม่สามารถเชื่อใจบริการของพวกเขาได้และคิดว่าพวกเขาไม่สมควรที่จะถูกจัดอันดับอยู่ในรายการนี้ คุณสามารถอ่านเกี่ยวกับข้อกล่าวหาได้เพิ่มเติมที่นี่.
แอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows – คำถามที่พบบ่อย
🤔 Windows ไม่ได้มีแอนตี้ไวรัสติดตั้งอยู่แล้วหรือ
ใช่ คอมพิวเตอร์ Windows 10 ทั้งหมดนั้นมาพร้อมกับ Windows Defender ซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าที่มันเคยเป็นเมื่อหลายปีก่อน อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถให้การป้องกันมัลแวร์ได้มากเท่ากับบริการอื่น ๆในรายการนี้
Windows Defender นั้นไม่ได้ช่วยป้องกันมัลแวร์เรียกค่าไถ่ สปายแวร์ โฆษณาและภัยคุกคามอื่น ๆ อย่างเช่น ฟิชชิ่งและการขโมยข้อมูลส่วนตัว ในขณะที่ Windows Defender งั้นให้การปกป้องที่พอใช้ได้ แต่มันไม่ได้ปกป้องคุณจากภัยคุกคามจากมัลแวร์ขั้นสูงประเภทอื่น ๆ
หากคุณระมัดระวังเป็นประจำอยู่แล้วและไม่มีข้อมูลที่สำคัญจัดเก็บเอาไว้ใน PC ของคุณ แค่มี Windows Defender ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่หากคุณจัดเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ — ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน รายละเอียดธนาคาร รูปภาพและอื่น ๆ — คุณควรมองหาการป้องกันเพิ่มเติมอย่างเช่น Norton 360.
🤔 แอนตี้ไวรัสฟรีดีพอหรือเปล่า
ในขณะที่มีบริการแอนตี้ไวรัสฟรีสำหรับ Windows ให้เลือกใช้ มันทำหน้าที่ในการปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ดี แต่มันไม่ได้ให้การป้องกันที่ครบถ้วนกับข้อมูลของคุณ บริการฟรีเหล่านี้มักจะขาดฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับการปกป้องคุณจากภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ อย่างเช่น:
- การป้องกันเว็บแคม
- การป้องกันมัลแวร์เรียกค่าไถ่
- การป้องกันการฟิชชิ่ง
- การป้องกันการขโมย
- VPN
- เข้ารหัสการจัดเก็บไฟล์
- การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
- และอื่น ๆ อีกมากมาย…
แอนตี้ไวรัสอย่าง Norton และ McAfee มีตัวเลือกฟีเจอร์เพิ่มเติมที่สำคัญมากมายที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณและข้อมูลที่สำคัญนั้นได้รับการปกป้องอย่างเต็มรูปแบบจากภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ขั้นสูง
🤔️ แอนตี้ไวรัสจากทำให้คอมพิวเตอร์ของฉันช้าลงไหม
ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้คอมพิวเตอร์ของคุณอย่างไร
โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานจะเป็นปัญหาหาก:
- คุณใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกม
- คุณต้องการพื้นที่ CPU แอพพลิเคชั่นที่มีพื้นที่มาก
- คุณมีคอมพิวเตอร์ที่มีอายุเยอะ
- คุณทำการสตรีมออนไลน์เป็นประจำ
แอนตี้ไวรัสทั้งหมดในรายการ สามารถให้บริการได้อย่างลื่นไหล รวดเร็ว โดยที่ไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพใด ๆ เลย
แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows 10 ในปี 2021 — Norton 360 — จะไม่ทำให้ PC ของคุณช้าลงไม่ว่าคุณจะใช้งานเพื่ออะไรก็ตาม
🤔 แอนตี้ไวรัสไหนที่ดีที่สุดสำหรับทั้ง Windows และ Android/iOS/Mac
แอนตี้ไวรัสส่วนใหญ่มีระบบปฏิบัติการในหลายแพลตฟอร์ม รวมทั้ง Windows Android iOS และ Mac รวมถึงบริการ ในรายการนี้ด้วย.
แอนตี้ไวรัสเหล่านี้ได้ถูกจัดอันดับและให้คะแนนในการเป็นบริการสำหรับ Windows แต่พวกเขาก็มีระบบปฏิบัติการสำหรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ซึ่งมันน่าประทับใจมาก ยกตัวอย่างแอนตี้ไวรัสสำหรับ Windows ที่ฉันชอบที่สุดอย่าง — Norton 360 Deluxe — ที่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ Windows Android iOS และ Mac