วิธีการทดสอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน

เครื่องมือจัดการรหัสผ่านจะจัดเก็บและป้อนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติ ดังนั้นผู้ใช้จึงไม่ต้องจำหรือป้อนข้อมูลรหัสผ่านทั้งหมดด้วยตนเองทุกครั้งที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชีออนไลน์ ผู้ตรวจสอบของเราทำการทดสอบบริการที่หลากหลายเพื่อค้นหาข้อดีและข้อเสียของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละราย

วิธีการทดสอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน:

แยกตามหมวดหมู่
  • 5% - ซื้อ & ดาวน์โหลด
  • 10% - ติดตั้ง & ตั้งค่า
  • 20% - ความปลอดภัย & การเข้ารหัส
  • 20% - ฟีเจอร์ที่สำคัญ
  • 15% - ฟีเจอร์เพิ่มเติม
  • 10% - แพลนหลายผู้ใช้ & การแชร์รหัสผ่าน
  • 10% - ราคา
  • 10% - การช่วยเหลือลูกค้า & คืนเงิน
หมายเหตุจากบรรณาธิการ: Intego และเว็บไซต์นี้อยู่ในกลุ่มบริษัทที่มีเจ้าของเดียวกัน
1. ซื้อ & ดาวน์โหลด

1. ซื้อ & ดาวน์โหลด — 5%

เราซื้อแผนบริการที่ครอบคลุมที่สุดจากเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละรายและดาวน์โหลดลงในระบบของเรา

เราประเมินตัวเลือกแผนบริการที่เสนอ ความยากของกระบวนการชำระเงินโดยรวมและการซื้อผลิตภัณฑ์นั้นทำได้ยากหรือไม่น่าไว้วางใจ (เช่น ค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือการบวกเพิ่ม)

จากนั้นดาวน์โหลดไฟล์การติดตั้งเครื่องมือจัดการรหัสผ่านลงในระบบของเรา เราจะดูขนาดไฟล์ของแต่ละบริการและดูว่าต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเท่าใด

จากประสบการณ์ของเราในการซื้อและดาวน์โหลดผลิตภัณฑ์แต่ละบริการ เราให้คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนนี้คิดเป็น 5% ของคะแนนรวม

2. การติดตั้ง & ตั้งค่า

2. การติดตั้ง & ตั้งค่า — 10%

หลังจากดาวน์โหลด เราจะติดตั้งเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบนระบบต่าง ๆ โดยใช้ Windows, macOS, Android และ iOS

เครื่องมือจัดการรหัสผ่านส่วนใหญ่มาพร้อมกับส่วนขยายเบราว์เซอร์ ดังนั้นเราจึงติดตั้งเครื่องมือจัดการรหัสผ่านบนเว็บเบราว์เซอร์ให้ได้มากที่สุดเพื่อประเมินการทำงานของมันอย่างเต็มที่

เมื่อติดตั้งเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแล้ว เราก็ดำเนินการตั้งค่าโปรแกรมต่อ ขั้นแรก เราลงชื่อเข้าใช้แอปเครื่องมือจัดการรหัสผ่านหรือส่วนขยายเบราว์เซอร์โดยใช้ข้อมูลที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ เราตรวจสอบขั้นตอนการสร้างรหัสผ่านหลักอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินว่าแต่ละโปรแกรมช่วยดูว่าผู้ใช้สร้างรหัสผ่านหลักที่รัดกุมหรือไม่

จากประสบการณ์ของเราในการซื้อและดาวน์โหลดผลิตภัณฑ์แต่ละบริการ เราให้คะแนนเต็ม 10 คะแนน คะแนนนี้คิดเป็น 10% ของคะแนนรวม

3. ความปลอดภัย & การเข้ารหัสผ่าน

3. ความปลอดภัย & การเข้ารหัสผ่าน — 20%

เครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่เหมาะสมควรมีตัวเลือกการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อจัดเก็บรหัสผ่านของผู้ใช้อย่างปลอดภัย รวมถึงการเข้ารหัสระดับสูง

มีหลายสิ่งที่เรามองหาเมื่อประเมินความปลอดภัยของเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน รวมถึง:

  • ตัวเลือกการเข้ารหัส — เราดูว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละบริการใช้การเข้ารหัสระดับใด (มาตรฐาน AES 256-bit )
  • โปรโตคอลการไม่เข้าถึงข้อมูล — เราตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละบริการได้รับการออกแบบมาในลักษณะที่นักพัฒนาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้
  • การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA)/การยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน (MFA) — เราทดสอบและประเมินตัวเลือก 2FA/MFA ทั้งหมดที่บริการนำเสนอ
  • ตัวเลือกการกู้คืนบัญชี — เราจะพิจารณาตัวเลือกการกู้คืนบัญชีต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลของตนได้หากพวกเขาทำรหัสผ่านหลักหาย

เราจะให้คะแนนต่ำกับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ไม่มีมาตรฐานการเข้ารหัสที่รัดกุม ไม่มีโปรโตคอลการไม่เข้าถึงข้อมูล ไม่มีตัวเลือก 2FA/MFA และ/หรือไม่มีตัวเลือกการกู้คืนบัญชี

จากการประเมินฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและโปรโตคอลของบริการแต่ละรายการ เราให้คะแนนเต็ม 10 คะแนนนี้คิดเป็น 20% ของคะแนนรวม

4. ฟีเจอร์หลัก

4. ฟีเจอร์หลัก — 20%

ฟีเจอร์หลักของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละรายการจะได้รับการประเมินอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ตรงตามที่คาดไว้

ฟีเจอร์หลักที่เราทดสอบได้แก่:

  • การจัดเก็บรหัสผ่าน — วิธีจัดเก็บและจัดระเบียบรหัสผ่าน
  • ป้อนและบันทึกอัตโนมัติ — เครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละบริการสามารถกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติได้ดีเพียงใดและบันทึกรหัสผ่านใหม่ได้ดีเพียงใด
  • การสร้างรหัสผ่าน — การสร้างรหัสผ่านใหม่นั้นทำได้ง่ายเพียงใดและรหัสผ่านมีความรัดกุมและหลากหลายเพียงใด
  • การแบ่งปันรหัสผ่าน — ฟีเจอร์การแบ่งปันรหัสผ่านมีความปลอดภัยและใช้งานง่ายเพียงใดและมีการจำกัดจำนวนรหัสผ่านที่สามารถแบ่งปันได้หรือไม่

จากการประเมินฟีเจอร์หลักของบริการแต่ละรายการ เราให้คะแนนเต็ม 10 คะแนนนี้คิดเป็น 20% ของคะแนนรวม

5. ฟีเจอร์เพิ่มเติม

5. ฟีเจอร์เพิ่มเติม — 15%

เครื่องมือจัดการรหัสผ่านยอดนิยมหลายบริการมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษที่มอบความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับผู้ใช้หรือปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

เนื่องจากฟีเจอร์ที่แต่ละแบรนด์นำเสนออาจแตกต่างกันไป อันดับแรกเราจะประเมินจำนวนฟีเจอร์เพิ่มเติมที่มีให้ จากนั้นจึงตัดสินใจว่าฟีเจอร์แต่ละรายการทำงานตามที่โฆษณาหรือไม่

ฟีเจอร์บางอย่างที่เราทดสอบ ได้แก่:

  • การตรวจสอบดาร์กเว็บ — สแกนฐานข้อมูลดาร์กเว็บ เพื่อดูว่าข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้รั่วไหลในดาร์กเว็บหรือไม่
  • รายงานความปลอดภัย — ตรวจสอบความแข็งแกร่งโดยรวมของฐานข้อมูลรหัสผ่านของผู้ใช้และแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าควรจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรหัสผ่านได้อย่างไร
  • การจัดเก็บไฟล์ที่เข้ารหัส — จัดเก็บไฟล์ผู้ใช้จำนวนมากในเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ที่เข้ารหัสของบริษัท
  • เปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ — อนุญาตให้เปลี่ยนรหัสผ่านในบางเว็บไซต์ได้ด้วยคลิกเดียวในแอปเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
  • VPN — ช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนหมายเลข IP และเพิ่มระดับความปลอดภัยในการใช้งาน

หากฟีเจอร์เพิ่มเติมแต่ละรายการทำงานตามที่โฆษณาจริง เราจะเปรียบเทียบและฟีเจอร์เหล่านี้กับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ และผลิตภัณฑ์แบบสแตนด์อโลนที่มีฟังก์ชันการทำงานเหมือนกัน จากนั้นเราจะพิจารณาว่าฟีเจอร์พิเศษนั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่และพิจารณาว่าฟีเจอร์เพิ่มเติมนั้นคุ้มกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่

จากการประเมินฟีเจอร์เพิ่มเติมของบริการแต่ละรายการ เราให้คะแนนเต็ม 10 คะแนนนี้คิดเป็น 15% ของคะแนนรวม

6. แพลนหลายผู้ใช้ & การแชร์รหัสผ่าน

6. แพลนหลายผู้ใช้ & การแชร์รหัสผ่าน — 10%

พวกเราได้ทำการทดสอบเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละตัวเพื่อให้รับมือกับรหัสของผู้ใช้งานหลายคน รวมถึงบริหารการแชร์รหัสผ่านภายในทีมและครอบครัว พวกเรายังได้ประเมินตัวเลือกในการเพิ่มหรือนำผู้ใช้งานออก, ความสะดวกในการแชร์รหัสผ่านและล็อกอิน และระดับการควบคุมที่มีให้สำหรับแอดมินหรือเจ้าของบัญชี

ทีมของพวกเราจะสร้างบัญชีบนเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่พวกเราทดสอบ จากนั้นก็จะประเมินประสบการณ์ใช้งานโดยรวมในตอนที่ใช้งานแดชบอร์ดจัดการสำหรับครอบครัว และก็ทำการตรวจสอบดูข้อจำกัดของมัน หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่ต้องเพิ่มผู้ใช้งานหลายคน พวกเรายังได้ตรวจสอบดูด้วยว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนลดให้แพลนสำหรับครอบครัวหรือไม่

สุดท้ายพวกเราได้ทำการประเมินความปลอดภัยของกระบวนการแชร์รหัสผ่าน ซึ่งรวมถึงวิธีการเข้ารหัส (encrypt) ของรหัสผ่าน, วิธีการแชร์ และความสามารถในการเลือกระดับสิทธิ์การเข้าถึงให้กับผู้ใช้งานแต่ละคน พวกเรายังได้พิจารณาถึงฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมที่มีให้บัญชีแบบหลายผู้ใช้งานด้วย

พวกเราจะให้คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 โดยอ้างอิงถึงความสามารถด้านการแชร์รหัสผ่านและแพลนหลายผู้ใช้ของแต่ละผลิตภัณฑ์ คะแนนนี้จะมีค่าเป็น 10% ของคะแนนสุดท้ายสำหรับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละตัว

7. ราคา

7. ราคา — 10%

ผู้ตรวจสอบของเราประเมินค่าบริการของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละราย

เราจะตรวจสอบราคาแพ็คเกจหรือการสมัครสมาชิกที่แต่ละบริการนำเสนอ ตรวจสอบฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับแต่ละแพ็คเกจและพิจารณาว่าแพ็คเกจนั้นคุ้มค่ากับราคาหรือไม่

เราจะเปรียบเทียบแพ็กเกจเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่คล้ายคลึงกันที่นำเสนอโดยเครื่องมือจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ เพื่อดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีราคาที่ต่ำหรือสูงกว่าคู่แข่ง

นอกจากการดูราคาของแต่ละแพ็คเกจแล้ว เราจะพิจารณาส่วนลดและข้อเสนอที่แต่ละบริษัทโฆษณาด้วย หากมี เราจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าราคาที่ลดแล้วนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีหรือไม่

เมื่อพิจารณาตามราคาของผลิตภัณฑ์แล้ว เราให้คะแนนเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละบริการเต็ม 10 คะแนน คะแนนนี้คิดเป็น 10% ของคะแนนรวม

8. การช่วยเหลือลูกค้า & คืนเงิน

8. การช่วยเหลือลูกค้า & คืนเงิน — 10%

เราพิจารณาตัวเลือกการช่วยเหลือที่มีให้สำหรับผู้ใช้ ยิ่งมีตัวเลือกมากเท่าไหร่ ยิ่งดี

เราให้คะแนนที่ดีแก่บริษัทที่มีตัวเลือกการช่วยเหลือมากมาย เช่น อีเมล ไลฟ์แชท โทรศัพท์ ฟอรัมและโซเชียลมีเดีย

ผู้เชี่ยวชาญของเราติดต่อทีมช่วยเหลือของเครื่องจัดการรหัสผ่านแต่ละบริการหลายครั้ง พร้อมถามคำถามและประเด็นต่าง ๆ เพื่อประเมินความเร็วและคุณภาพโดยรวมของการตอบกลับแต่ละครั้ง

สุดท้ายเราจะดูว่าแต่ละบริษัทเสนอนโยบายการคืนเงินหรือการรับประกันคืนเงินหรือไม่ เราประเมินกระบวนการคืนเงินทั้งหมดโดยขอเงินคืนภายในกรอบเวลาที่กำหนด ตัดสินว่าคำขอคืนเงินของเราดำเนินการง่ายหรือยากเพียงใดและใช้เวลานานเท่าใดกว่าเงินจะกลับเข้าบัญชีของเรา

ขึ้นอยู่กับว่าทีมสนับสนุนแต่ละบริการตอบสนองต่อคำขอของเราได้เร็วเพียงใดและคำตอบนั้นมีประโยชน์เพียงใด เราให้คะแนนแต่ละบริการเต็ม 10 คะแนนนี้คิดเป็น 10% ของคะแนนรวม

คะแนนรวมสำหรับเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน

เครื่องมือตรวจสอบของเราจะคำนวณคะแนนรวมสำหรับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละบริการตามคะแนนของการทดสอบแต่ละหมวด

หมวดหมู่การทดสอบแต่ละประเภทมีลำดับความสำคัญแตกต่างกันไป ดังนั้นเราจึงแบ่งคะแนนการทดสอบแต่ละคะแนนตามเปอร์เซ็นต์ต่อไปนี้:

ซื้อ & ดาวน์โหลด: 5%
ฟีเจอร์เพิ่มเติม: 15%
การติดตั้งและตั้งค่า: 10%
Multi-User Plans & Password Sharing: 10%
ความปลอดภัย & การเข้ารหัส: 20%
ราคา: 10%
ฟีเจอร์หลัก: 20%
การช่วยเหลือลูกค้า & คืนเงิน: 10%

จากนั้นเราจะรวมตัวเลขเพื่อให้ได้คะแนนสุดท้ายสำหรับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแต่ละรายการ ซึ่งจะแสดงที่ด้านบนสุดของแต่ละรีวิว โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์ที่มีคะแนนโดยรวมมากกว่า 8/10 จะถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์ที่ให้คะแนนประมาณ 7/10 นั้นถือว่าเป็นบริการที่ค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีตัวเลือกอื่น ๆ ที่ดีกว่าคะแนนประมาณ 6/10 และต่ำกว่าบ่งชี้ว่าผู้ตรวจสอบพบปัญหามากมายระหว่างใช้งานและผลิตภัณฑ์อาจไม่เหมาะผู้ใช้ส่วนใหญ่