ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Linux ประจำปี 2024

เคท เดวิดสัน
เคท เดวิดสัน หัวหน้าบรรณาธิการ
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย เฮเซล ชอว์
เคท เดวิดสัน เคท เดวิดสัน หัวหน้าบรรณาธิการ
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย เฮเซล ชอว์

Linux ไม่ได้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานไปซะทีเดียว นี่เป็นระบบปฏิบัติการที่เฉพาะผู้ที่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์เท่านั้นที่รู้วิธีจัดการ ผู้ใช้ต้องใช้ความพยายามในการสร้างการแจกจ่าย Linux ของตัวเองเช่นเดียวกับเอาใจใส่เกี่ยวกับความปลอดทางออนไลน์ด้วย นอกจากนี้พวกเขายังชื่นชอบที่รับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นภายในซอฟต์แวร์ของพวกเขาด้วย

ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับ Linux จึงต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบมากๆ ผู้ใช้เหล่านี้จะไม่โอเคกับผู้จัดการรหัสผ่านใดก็ได้ แต่จะเป็นผู้จัดการรหัสผ่านที่มีโอเพ่นซอร์ส ใช้งานได้ฟรี มีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์อย่างเครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ การเข้ารหัสมาตรฐานอุตสาหกรรมและการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน

เพื่อค้นหาผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Linux เราได้ตรวจสอบซอฟต์แวร์ยอดเยี่ยมมากมายในคอมมูนิตี้ควบคู่กับผู้จัดการรหัสผ่านยอดเยี่ยมที่มีในโลกของความปลอดภัยทั้งหมด อย่างที่คุณคิด ขณะนี้มีโปรแกรมมากมายในตลาด แต่เราก็จะบอกคุณถึงสิ่งที่เราพบและจัดเรียงมันเป็นรายการเพื่อให้ง่ายสำหรับคุณและให้คุณสามารถใช้ประโยชน์ของผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Linux ได้

ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Linux ปี 2024

คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้จัดการรหัสผ่านและฟีเจอร์

เราให้คะแนนผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Linux ปี 2024 อย่างไร

มีผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับ Linux มากมาย ด้วยข้อเสนอพื้นฐานมากมาย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าโปรแกรมใดที่เหมาะแก่การใช้งานมากที่สุด? นี่คือวิธีที่เราวิเคราะห์ผู้จัดการรหัสผ่านแต่ละโปรแกรม:

  • ชุดฟีเจอร์: พวกเขามีฟีเจอร์แบบไหนให้บริการ? มีฟีเจอร์มากเท่าไหร่ในแผนให้บริการฟรีและมีกี่ฟีเจอร์ที่คุณต้องจ่ายเงินซื้อ?
  • ความปลอดภัย: ผู้จัดการรหัสผ่านเสนอความปลอดภัยที่เหมาะสมไหม? หากมี มันทำงานอย่างไร?
  • ราคา: มีแผนให้บริการที่ต้องชำระเงินต่างๆ มากมายสำหรับผู้จัดการรหัสผ่าน บางส่วนก็ให้ฟีเจอร์ที่ดีกว่าคู่แข่ง แต่การรู้ว่าราคาที่จ่ายเงินซื้อผลิตภัณฑ์ไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่ก็เป็นสิ่งสำคัญ

1. Dashlane – แผนให้บริการฟรีที่เป็นประโยชน์มากที่สุด

ทำไมเราถึงชอบ

Dashlane เป็นผู้จัดการรหัสผ่านยอดนิยมที่จัดเก็บข้อมูลของคุณไว้บนคลาวด์ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงผ่านอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ เช่นเดียวกันกับคู่แข่ง Dashlane มาพร้อมกับเครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ เครื่องมือสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอนและอื่นๆ อีกมากมาย มันเป็นผู้จัดการรหัสผ่านที่น่าสนใจที่มาพร้อมแผนให้บริการในราคาไม่แพงซึ่งรวมถึงแผนให้บริการฟรีที่น่าประหลาดใจที่ให้จัดเก็บรหัสผ่านได้สูงสุดถถึง 50 รหัส

1. Dashlane – แผนให้บริการฟรีที่เป็นประโยชน์มากที่สุด

สิ่งที่คุณควรรู้

โปรดทราบว่า Dashlane ทำงานได้เฉพาะบนเบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome, Mozilla Firefox และ Microsoft’s Edge บนอุปกรณ์ Linux เท่านั้น มันยังไม่ใช่โปรแกรมที่ทำงานได้กับทุกอย่าง แต่ทีมงานก็ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถรองรับเพิ่มเติมได้

มันทำงานอย่างไร

สิ่งที่คุณต้องทำคือไปยังหน้าดาวน์โหลด Dashlane และเลือกส่วนเสริมที่เข้ากันได้กับเบราว์เซอร์ที่คุณใช้งานอยู่ปัจจุบัน จากที่นั่นให้คุณเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านมาสเตอร์ของคุณและจัดการกับรหัสผ่านต่างๆ ได้เลย

2. LastPass – ติดตั้งง่ายที่สุด

ทำไมเราถึงชอบ

คล้ายคลึงกับ Dashlane LastPass เป็นส่วนเสริมเบราว์เซอร์ที่แข็งแกร่งซึ่งเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มบนเว็บ มันเป็นหนึ่งในผู้จัดการรหัสผ่านที่มีโปรไฟล์ดีที่สุดที่มีให้บริการใน Linux และมาพร้อมกับความสามารถในการกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติที่น่าทึ่ง การตรวจสอบความแข็งแกร่งรหัสผ่าน การเข้ารหัส AES-256 และแผนให้บริการฟรีที่จับคู่กับแผนให้บริการพรีเมียมที่คุ้มค่า

2. LastPass – ติดตั้งง่ายที่สุด

สิ่งที่คุณควรรู้

ผู้ใช้ Linux มีแนวโน้มที่จะพึ่งพาซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สและฟรี อย่างไรก็ตามแม้ว่า LastPass จะมีให้บริการฟรี แต่มันก็ไม่ใช่โอเพ่นซอร์สและที่จริงแล้วมันดูคล้ายกับแอปพลิเคชันบนเว็บ แม้ว่าคุณจะมั่นใจได้ว่ามันปลอดภัยที่สุด แต่หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ใช้ Linux ที่ชอบตรวจสอบว่าคุณติดตั้งอะไรบนคอมพิวเตอร์ งั้นบางทีคุณคงอยากทำการค้นคว้าเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ

มันทำงานอย่างไร

LastPass เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสิ่งที่คุณต้องทำคือติดตั้งส่วนเสริมเบราว์เซอร์ นำเข้ารหัสผ่านและเริ่มท่องเว็บได้อย่างปลอดภัย

3. RoboForm – ฟีเจอร์ที่มีมาให้ในส่วนเสริมเบราว์เซอร์ดีที่สุด

ทำไมเราถึงชอบ

RoboForm ติดอันดับรายการผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดเพราะประโยชน์ใช้สอย ซอฟต์แวร์นี้มีฟีเจอร์หลากหลายมากมายซึ่งทั้งผู้เริ่มหัดและผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้ประโยชน์ได้ ต้องขอบคุณการจัดระเบียบที่ดี แถมยังมีแผนให้บริการฟรีที่คุณสามารถลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแผนให้บริการพรีเมียมที่มีราคาน่าคบหาเพื่อใช้งานฟีเจอร์เสริม

สิ่งที่คุณควรรู้

คล้ายกันกับ Dashlane คุณจะต้องดาวน์โหลดส่วนเสริมเบราว์เซอร์ของ RoboForm แทนที่จะเป็นแอปพลิเคชันเดสก์ท็อปเพราะเป็นอุปกรณ์ Linux อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความคุณจะถูกจำกัด ส่วนเสริมเบราว์เซอร์ของ RoboForm อนุญาตให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ส่วนใหญ่ได้ เช่น ระบบการจัดการ ตู้นิรภัยและเครื่องมือสร้างรหัสผ่าน

3. RoboForm – ฟีเจอร์ที่มีมาให้ในส่วนเสริมเบราว์เซอร์ดีที่สุด

มันทำงานอย่างไร

เนื่องจากว่าคุณไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน RoboForm เวอร์ชั่นเดสก์ท็อปบน Linux ได้ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือดาวน์โหลดส่วนเสริมเบราว์เซอร์ที่คุณใช้และเข้าไปใช้งาน แถมหากคุณตั้งค่า RoboForm บนอุปกรณ์ก่อนหน้านี้ คุณจะสามารถนำเข้าข้อมูลทั้งหมดผ่านโปรแกรมนี้ได้

4. Bitwarden – วิธีการโอเพ่นซอร์สที่ดีที่สุด

ทำไมเราถึงชอบ

Bitwarden เป็นผู้จัดการรหัสผ่านโอเพ่นซอร์สฟรีซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ Linux เท่านั้น ไม่เพียงแต่ว่าคุณสามารถดาวน์โหลด Bitwarden เวอร์ชั่นเดสก์ท็อปบน Linux ได้เท่านั้น แต่คุณยังสามารถใช้ประโยชน์ของส่วนเสริมเบราว์เซอร์ซึ่งเป็นแหล่งจัดเก็บรหัสผ่านที่นอกเหนือจากบัตรเครดิต ตัวตนและอื่นๆ อีกมากมาย

สิ่งที่คุณควรรู้

นอกจากจะมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ส่วนใหญ่ เช่น การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน พื้นที่จัดเก็บไม่จำกัดและเครื่องมือสร้างรหัสผ่านให้บริการฟรีแล้ว ก็มีแผนให้บริการพรีเมียมที่จ่ายเงินรายปีในราคาที่ถูกมากๆ ด้วยเช่นกัน แผนให้บริการที่อัพเกรดนี้มาพร้อมกับการรองรับบุคคลที่สามอย่าง YubiKey, ฝ่ายบริการลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับคุณก่อนและอื่นๆ อีกมากมาย

4. Bitwarden – วิธีการโอเพ่นซอร์สที่ดีที่สุด

มันทำงานอย่างไร

Bitwarden ดาวน์โหลดง่ายมากๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือไปยังเว็บเพจ Bitwarden, ดาวน์โหลดผู้จัดการรหัสผ่านและตั้งค่าทุกอย่าง นอกจากนี้ส่วนเสริมเบราว์เซอร์ยังรองรับ Chrome, Firefox, Opera, Edge, Safari, Vivaldi, Brave และแม้กระทั่ง Tor Browser ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในผู้จัดการรหัสผ่านที่มีความอเนกประสงค์มากที่สุดเท่าที่เราเคยเห็น

5. KeePass – ลักษณะชวนนึกย้อนถึงความหลังมากที่สุด

ทำไมเราถึงชอบ

คล้ายกันกับ Bitwarden KeePass เป็นผู้จัดการรหัสผ่านฟรีที่แรกเริ่มออกแบบมาเพื่อ Windows แต่ตอนนี้เปิดให้บริการบน Linux และแพลตฟอร์มอื่นๆ แล้ว มันจะเข้ารหัสข้อมูลของคุณซึ่งทำให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครจะมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ นอกจากนี้มันยังเป็นโอเพ่นซอร์สด้วยซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานมากมายได้ดูรหัสและได้เห็นว่าแอปพลิเคชันมีอะไรมาให้บ้าง

ส่วนเสริมเบราว์เซอร์รองรับ Safari, Chrome, Firefox, Opera และ Internet Explorer และเข้ารหัสผ่าน AES-256 นอกจากนี้มันยังมีฟีเจอร์ผู้จัดการรหัสผ่านพื้นฐานที่ดีที่สุดมากมาย เช่น เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน นำเข้าบันทึกและเครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ

5. KeePass – ลักษณะชวนนึกย้อนถึงความหลังมากที่สุด

สิ่งที่คุณควรรู้

แม้ว่า KeePass จะมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ให้บริการฟรีและมีแม้กระทั่งเวอร์ชั่นเดสก์ท็อปสำหรับ Linux แต่มันก็ไม่ได้มีอินเตอร์เฟซผู้ใช้ที่น่ารักที่สุดในโลก ในความเป็นจริงแล้ว KeePass ดูเหมือนมาจากช่วงต้นปีค.ศ. 2000 ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับ Windows XP มันใช้งานได้และด้วยผู้ที่อยากลำลึกถึงยุคสมัยเก่าอาจตกหลุมรักอินเตอร์เฟซนี้ แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ควรทราบเอาไว้ก่อน

มันทำงานอย่างไร

สามารถดาวน์โหลด KeePass ได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ เนื่องจากแอปพลิเคชันใช้งานได้ฟรี คุณจึงไม่ต้องจัดการอะไรกับข้อมูลการชำระเงินหรืออุปสรรคอื่นๆ การดาวน์โหลดรวดเร็ว ตั้งค่ารหัสผ่านมาสเตอร์ของคุณและเพลิดเพลินไปกับการจัดการรหัสผ่านเข้ารหัสได้เลย

อะไรที่ทำให้เป็นผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Linux ประจำปี 2024

ตอนนี้มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทราบว่าเพราะธรรมชาติของ Linux ซอฟต์แวร์บางตัวจึงไม่สามารถรองรับได้ ผู้จัดการรหัสผ่านบางส่วนจึงอนุญาตให้ผู้ใช้ติดตั้งส่วนเสริมเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox และอื่นๆ แทน แต่นี่ไม่ได้หมายความว่ามันทำงานได้ไม่ดีสำหรับ Linux เพียงแต่มันสามารถใช้ได้ในขณะท่องเว็บเท่านั้น

อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีบางส่วนที่รองรับ Linux ด้วยซึ่งเราจะอธิบายให้ฟังในเร็วๆนี้ แต่ก่อนอื่นเรามาสำรวจฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของผู้จัดการรหัสผ่านโดยรวมกันก่อน

ฟีเจอร์พื้นฐานของผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุด

คุณต้องการผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับ Linux ที่มีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:

  • รหัสผ่านมาสเตอร์: รหัสผ่านมาสเตอร์มีความสำคัญสำหรับวัตถุประสงค์ทางด้านความปลอดภัย นี่เป็นรหัสผ่านที่คุณกรอกเมื่อเริ่มใช้งานผู้จัดการรหัสผ่านของคุณและหากโปรแกรมใดที่ไม่มีสิ่งนี้ งั้นคุณก็ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของคุณเพิ่มอีกเล็กน้อย
  • เครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ: ฟีเจอร์เครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติจะกรอกข้อมูลของคุณลงในแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการใช้ เช่น หากคุณกำลังเข้าสู่ Netflix บนอุปกรณ์ของคุณ ผู้จัดการรหัสผ่านก็ควรกรอกข้อมูลนั้นให้กับคุณโดยอัตโนมัติ
  • บันทึกรหัสผ่านอัตโนมัติ: ค่อนข้างตรงกันข้ามกับเครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ การบันทึกรหัสผ่านอัตโนมัติหมายความว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณกรอกชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านใหม่ ผู้จัดการรหัสผ่านจะบันทึกข้อมูลนั้นเพื่อที่จะได้กรอกให้โดยอัตโนมัติในครั้งต่อไปที่คุณเข้าสู่ระบบ

ฟีเจอร์ขั้นสูงของผู้จัดการรหัสผ่าน

หลังจากที่คุณทราบถึงฟีเจอร์พื้นฐานแล้ว คุณคงอยากให้ผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับ Linux มีฟีเจอร์เฉพาะเหล่านี้:

  • โอเพ่นซอร์ส: แม้ว่านี่จะไม่ใช่ฟีเจอร์สำคัญที่จำเป็น แต่ผู้จัการรหัสผ่านที่เป็นโอเพ่นซอร์สก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ควรเลือก โอเพ่นซอร์สหมายถึงว่าใครก็ตามสามารถดูรหัสและทำให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาหรืออะไรแปลกๆ หลงเข้ามา ที่สำคัญหากนักพัฒนาทำซอฟต์แวร์ที่เป็นโอเพ่นซอร์ส นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่มีอะไรแอบซ่อนและคุณอาจไว้วางใจพวกเขาได้
  • การรองรับส่วนเสริมเบราว์เซอร์: คุณใช้รหัสผ่านของคุณที่ไหนมากที่สุด? ในเบราว์เซอร์ นั่นหมายความว่าคุณต้องการผู้จัดการรหัสผ่านที่มีส่วนเสริมเบราว์เซอร์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ท่องเว็บของคุณได้โดยตรง สิ่งนี้ทำงานง่ายสำหรับคุณและทำให้แน่ใจว่าการเข้าสู่ระบบของคุณจะปลอดภัยเสมอไม่ว่ายังไงก็ตาม
รายการที่ถูกนำเสนอบนเว็บไซต์นี้นั้นจะมาจากบริษัทที่มีค่าตอบแทนให้กับเว็บไซต์นี้ และบางบริษัทก็จะมีบริษัทแม่ของเราเป็นเจ้าของเดียวกัน นี่จะส่งผลต่อ: อันดับและการนำเสนอ 
เรียนรู้เพิ่มเติม
เกี่ยวกับผู้เขียน
เคท เดวิดสัน
เคท เดวิดสัน
หัวหน้าบรรณาธิการ

เกี่ยวกับผู้เขียน

เคท เดวิดสัน เป็นหัวหน้าบรรณาธิการที่ SafetyDetectives เธอมีประสบการณ์หลายปีในฐานะนักข่าวและการทำงานสายอาชีพสื่อสาร และก็ได้ทำงานให้องค์กรสื่อ หน่วยงานของรัฐ และ NGO ในหลายประเทศ เคท นั้นเป็นผู้ที่มีความชื่นชอบและสนใจในด้านของความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ — ซึ่งเมื่อประสานรวมกับความรักในการสร้างผลงานที่มีคุณภาพแล้ว — ทำให้เธอสามารถสร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับแอนตี้ไวรัส เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน และความปลอดภัยทางออนไลน์โดยรวมให้ผู้อ่านของเราได้ดียิ่งขึ้น ในช่วงเวลาว่างของเธอนั้น เคทชอบใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ทำอาหารอิตาเลี่ยน และก็เล่นโยคะอยู่ริมทะเล

แสดงความคิดเห็น