หากคุณกำลังใช้อุปกรณ์ Android งั้นคุณก็มีรหัสผ่านมากมายเก็บเอาไว้ รหัสผ่านเหล่านี้มาจากแอปพลิเคชันโซเชียลต่างๆ ทั้งหมดของคุณไปจนถึงอีเมลและการสมัครสมาชิกรายเดือนและมีอีกมากมายที่เราต้องคอยจำให้ได้ในทุกๆ วัน
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพยายามมากนัก บางคนเลยตัดสินใจใช้รหัสผ่านเดียวกันสำหรับทุกบัญชีที่เขาสร้าง นี่ถือเป็นความคิดที่ไม่ดี หากแฮ็กเกอร์สามารถเจาะหนึ่งในรหัสผ่านของคุณได้ พวกเขาก็จะสามารถเข้าถึงบัญชีทั้งหมดของคุณได้อย่างง่ายดาย นี่ยังไม่รวมถึงว่าอุปกรณ์ Android นั้นเป็นอุปกรณ์ที่เปิดกว้างมากกว่า iOS หรือระบบนิเวศอื่นๆ ที่ปิดมากกว่า ใครก็ตามที่ชอบใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้จะท่องเว็บโดยการที่ไม่รู้จักอีกด้านหนึ่งของเว็บและอาจทำให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ดังนั้นหากคุณไม่สามารถใช้รหัสผ่านเดียวกันในทุกๆ ที่ได้ แล้วคุณมีทางเลือกอะไร? ใช่แล้วนั่นล่ะคือตอนที่ผู้จัดการรหัสผ่านเข้ามาตอบโจทย์
ผู้จัดการรหัสผ่านจะเก็บข้อมูลบัญชีของคุณและมอบฟีเจอร์เสริมอย่างพื้นที่จัดเก็บบัตรเครดิต เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) และพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ ฟีเจอร์เหล่านี้ดีกว่าฟีเจอร์พื้นฐานทั่วไปแม้ว่าคุณจะต้องการแค่เพียงพื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านก็ตาม คุณคงเลือกที่จะซื้อซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุด แต่แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณได้นั้นดีหรือเปล่า?
เอาล่ะ ให้ฉันช่วยคุณดีกว่า เพื่อมองหาผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Android ฉันได้ตรวจสอบแบรนด์ดังต่างๆ ในตลาดไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่อยู่ในระดับกลางและเล็ก ฉันได้พบสิบผู้จัดการรหัสผ่านที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุด
- Dashlane – ฟีเจอร์ตรวจสอบเว็บมืดที่ดีที่สุด
- LastPass – แผนให้บริการฟรีที่น่าทึ่งที่สุด
- RoboForm – ฟีเจอร์จัดระเบียบที่ดีที่สุด
- RememBear – ฟีเจอร์เสริมที่ดีที่สุด
- Enpass – ค่าธรรมเนียมครั้งเดียวตลอดชีพที่ดีที่สุด
- Keeper – ฟีเจอร์เฉพาะ Android ที่ดีที่สุด
- aWallet Password Manager – เวอร์ชั่นฟรีที่ดีที่สุด
- Bitwarden – โครงสร้างแผนให้บริการที่ดีที่สุด
- 1Password – โหมดเดินทางที่ดีที่สุด
- True Key – แผนให้บริการแบบชำระเงินราคาถูกที่ดีที่สุด
คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ผู้จัดการรหัสผ่าน
สิ่งที่ทำให้ผู้จัดการรหัสผ่านดีที่สุดสำหรับ Android ปี 2024 คืออะไร?
ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีต้องน่าเชื่อถือ ป้องกันพื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลบัญชีของคุณ จากนั้นก็ให้ฟีเจอร์เสริมอย่างการแบ่งปันรหัสผ่านซึ่งทำให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง แม้ว่าจะมีความสามารถในการเก็บข้อมูลก็ตาม
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอย่างน้อยคุณคงอยากได้ผู้จัดการรหัสผ่านที่มีเครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ รหัสผ่านมาสเตอร์และฟีเจอร์สำคัญสองสามอย่าง หากมันมีฟีเจอร์อื่นๆ แต่ขาดฟีเจอร์พื้นฐานเหล่านี้ไป งั้นบางทีมันอาจไม่คุ้มค่ากับเวลาของคุณ ที่นี่เราจะแจกแจงรายละเอียดถึงสิ่งที่สำคัญที่คุณควรมองหาในผู้จัดการรหัสผ่าน
เราให้คะแนนผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Android ปี 2024 อย่างไร
มีผู้จัดการรหัสผ่านมากมานบน Google Play Store คุณต้องการลองดาวน์โหลดมาแต่ละโปรแกรมเพื่อค้นหาโปรแกรมที่ดีที่สุดไหม? บางทีคงอาจจะไม่อยาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรามาที่นี่เพื่อทำสิ่งนั้นให้กับคุณ เราได้ตรวจสอบผู้จัดการรหัสผ่านแต่ละโปรแกรมในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้:
- ชุดฟีเจอร์: พวกเขามีฟีเจอร์อะไรให้บ้าง? มีกี่ฟีเจอร์ที่มีให้บริการในแผนฟรีและมีกี่ฟีเจอร์ในแผนที่คุณต้องจ่ายเงินซื้อ?
- ความปลอดภัย: ผู้จัดการรหัสผ่านมีความปลอดภัยที่เหมาะสมหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นแล้วมันทำงานอย่างไร?
- ราคา: ช่องทางการชำระเงินต่างๆ มากมายสำหรับผู้จัดการรหัสผ่าน บางโปรแกรมอาจให้ฟีเจอร์ที่กว่าคู่แข่ง แต่การรู้ว่าราคาที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่ากับสินค้าที่ได้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้
ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุดสำหรับ Android ปี 2024 – อัพเดทแล้ว
1. Dashlane – แผนให้บริการเครือข่ายส่วนตัวเสมือนที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
Dashlane มอบรูปแบบการเข้ารหัสในการป้องกันข้อมูลของคุณที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ การตรวจสอบเว็บมือและแม้กระทั่งเครือข่ายส่วนตัวเสมือน ฟีเจอร์แรกที่กล่าวจะสแกนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลของคุณในตลาดมืดหรือที่ใดก็ตามที่เป็นอันตรายทางออนไลน์ ฟีเจอร์หลังจะมอบการเชื่อมต่อส่วนตัวให้กับคุณเพื่อให้คุณท่องเว็บเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการ
สิ่งที่คุณควรรู้
เครือข่ายส่วนตัวเสมือนและการตรวจสอบเว็บมืดเป็นฟีเจอร์ที่ดี แต่พวกเขามีให้เฉพาะในแผนให้บริการแบบชำระเงินของ Dashlane เท่านั้น มีแผนให้บริการฟรีให้คุณได้ทดลองใช้ แต่มันสามารถจัดเก็บรหัสผ่านได้สูงสุด 50 รหัสเท่านั้น นอกจากนี้แผนให้บริการฟรีนั้นยังไม่มีการซิงค์ในอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย แผนให้บริการแบบชำระเงินก็มีราคาค่อนข้างแพงเช่นเดียวกัน
มันทำงานอย่างไร
ติดตั้งและตั้งค่า Dashlane บนอุปกรณ์ Android ของคุณได้ง่ายๆ มันไม่ต้องให้คุณกรอกอะไรมากนักนอกจากตั้งค่ารหัสผ่านมาสเตอร์และกรอกข้อมูลรหัสผ่านของคุณ นอกจากนี้มันยังมีระบบการจัดการโฟลเดอร์อันน่าทึ่งเช่นเดียวกับตัวเลือกในการตรวจสอบความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน
2. LastPass – ชุดฟีเจอร์ที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
LastPass เป็นผู้จัดการรหัสผ่านที่มีชื่อเสียงที่มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมายในแผนให้บริการฟรี เช่น มันให้คุณจัดเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัด เครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติและการซิงค์ข้อมูลในอุปกรณ์ต่างๆ ฟรี นอกจากนี้มันยังสามารถเก็บรูปแบบข้อมูลต่างๆ อย่างบัตรเครดิต ข้อมูลธนาคารและตัวตนที่นอกเหนือจากรหัสผ่านได้อีกด้วย
มีระบบการจัดการอันน่าทึ่งที่รวมถึงโฟลเดอร์ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถปรับแต่งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้ตามแบบที่คุณต้องการ
สิ่งที่คุณควรรู้
แผนให้บริการฟรีของ LastPass ให้ฟีเจอร์มากกว่าแผนให้บริการแบบชำระเงินของผู้จัดการรหัสผ่านอื่นๆ นั่นทำให้ผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับ Android นี้คุ้มค่าต่อใช้งาน แต่แผนให้บริการแบบชำระเงินของพวกเขาก็มีราคาไม่แพงและพวกเขาจะให้ฟีเจอร์มากขึ้น เช่น พื้นที่จัดเก็บไฟล์เข้ารหัสขนาดหนึ่งกิ๊กและความช่วยเหลือที่ให้ความสำคัญกับคุณก่อน
มันทำงานอย่างไร
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LastPass, ตั้งค่ารหัสผ่านมาสเตอร์ของคุณและเริ่มเข้าสู่ระบบเพื่อกรอกทุกอย่างในตู้นิรภัยหรือหากคุณมีเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ คุณสามารถซิงค์ข้อมูลรหัสผ่านได้ทันทีเพื่อให้พร้อมใช้งาน
3. RoboForm – ผนให้บริการแบบชำระเงินราคาถูกที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
RoboForm มีหนึ่งในระบบการจัดการที่ดีที่สุดในผู้จัดการรหัสผ่านที่เราเคยเห็น ไม่เพียงแต่มันมาพร้อมรายการช่องที่กำหนดเองและแท็กได้เท่านั้น แต่คุณยังสามารถกรอกข้อมูลตัวตน บัตรเครดิตหรือรูปแบบของข้อมูลอื่นๆ ที่คุณนึกออกได้ แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับฟีเจอร์พื้นฐานอย่างเครื่องมือสร้างรหัสผ่านและการสำรองข้อมูล
สิ่งที่คุณควรรู้
คุณไม่ต้องจ่ายเงินเยอะในแผนให้บริการแบบพรีเมียมของซอฟต์แวร์ แถมคุณยังสามารถไว้วางใจได้ว่าแผนให้บริการแบบชำระเงินนั้นคุ้มค่า ต้องขอบคุณเวอร์ชั่นทดลองฟรี 30 วันและพวกเขายังให้ข้อเสนอดีๆ อีกด้วยหากคุณตัดสินใจซื้อเวอร์ชั่นเสริม
คุณจะรู้สึกปลอดภัยที่รู้ว่า RoboForm มีโซลูชั่นพื้นที่จัดเก็บแบบปราศจากข้อมูล ต้องขอบคุณสิ่งนี้ ทีมงานจะไม่มีวันเห็นข้อมูลของคุณ มันจะคงเข้ารหัสไว้บนอุปกรณ์ที่คุณเท่านั้นที่จะมองเห็นได้
มันทำงานอย่างไร
โปรดทราบว่า RoboForm มีฟีเจอร์มากมายรวมมาให้ คุณจะต้องเรียนรู้เพื่อใช้งานบางฟีเจอร์ เช่น ระบบการจัดการ แต่ความพยายามที่จะเรียนรู้นั้นก็คุ้มค่า คุณจะพบฟีเจอร์เสริมต่างๆ กระจายอยู่ทั่วซอฟต์แวร์ ในขณะท่องเว็บคุณก็จะพบกับฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการนำเข้ารหัสผ่าน มันทำให้รู้สึกว่าคุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน
4. RememBear – ฟีเจอร์เสริมที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
RememBear เป็นผู้จัดการรหัสผ่านจากทีมงานที่ TunnelBear VPN มันเรียบง่ายและให้ฟีเจอร์พื้นฐานที่คุณต้องการจากผู้จัดการรหัสผ่าน เช่น พื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านและบัตรเครดิต สำหรับความปลอดภัยเพิ่มเติม RememBear ใช้ ID ลายนิ้วมือของ Android สำหรับโทรศัพท์มือถือที่รองรับ มีความสำเร็จที่จูงใจผู้ใช้ให้เข้าสู่ส่วนที่ลึกกว่าของแอปพลิเคชัน นอกจากนี้เวอร์ชั่นฟรียังทำให้แน่ใจว่าคุณสามารถใช้ฟีเจอร์ใดก็ได้สำหรับอุปกรณ์เดียว – วิธีที่น่าทึ่งจะให้ผู้ใช้ปรับตัวและปรับไปใช้งานแผนให้บริการแบบชำระเงินได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่คุณควรรู้
อย่างที่กล่าว เวอร์ชั่นฟรีรองรับแค่เพียงอุปกรณ์เดียวเท่านั้นและมันไม่มีการซิงค์ในอุปกรณ์ต่างๆ หรือการสำรองข้อมูลบนคลาวด์ แต่หนึ่งสิ่งที่คุณควรรู้คือแผนให้บริการพรีเมียมมีราคาค่อนข้างถูกและมีฝ่ายบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม มันอาจจะคุ้มค่าหากคุณมีเงินทุน
มันทำงานอย่างไร
เนื่องจาก RememBear เป็นซอฟต์แวร์ฟรี ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือดาวน์โหลดเพื่อเริ่มขึ้นตอนการจัดการรหัสผ่าน เมื่อพร้อมแล้วให้เข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านมาสเตอร์ เท่านี้ก็ท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยแล้ว!
5. Enpass – เบราว์เซอร์ภายในที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
Enpass ควรได้รับคำชมในเรื่องของความเป็นระเบียบ แอปพลิเคชันนี้จะติดตามข้อมูลทางการเงินและบัตรเครดิตของคุณซึ่งนอกเหนือจากรหัสผ่านและจะสร้างรหัสผ่านให้กับคุณด้วย ไม่เหมือนกับคู่แข่ง ผู้จัดการรหัสผ่านนี้จะขอให้คุณจ่ายเงินซื้อแผนให้บริการพรีเมียมแบบครั้งเดียวเท่านั้นและคุณสามารถจัดเก็บทุกสิ่งในคลาวด์ได้ตามที่คุณต้องการ
มีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นตลอดเวลาเพราะนักพัฒนาทำงานอย่างหนักเกี่ยวกับการเพิ่มสิ่งต่างๆ เข้ามาให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ Enpass ยังมีเบราว์เซอร์ภายในตัวที่ช่วยผู้ใช้กรอกแบบฟอร์มอีกด้วย
สิ่งที่คุณควรรู้
อย่างไรก้ตามโปรดทราบว่าไม่สามารถดาวน์โหลด Enpass เวอร์ชั่นมือถือฟรีได้ คุณสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชั่นเดสก์ท็อปฟรีได้ แต่คุณต้องจ่ายเงินซื้อเวอร์ชั่นพรีเมียมเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าถึงผู้จัดการรหัสผ่านบนอุปกรณ์ Android ของคุณ อย่างที่กล่าวข้างต้น คุณสามารถซื้อแอปพลิเคชันได้โดยการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมแบบครั้งเดียว นี่ถือว่าน่าสนใจมากกกว่าการเรียกเก็บเงินแบบรายเดือนหรือรายปีซะอีก น่าเสียดายที่ซอฟต์แวร์นี้ไม่มีเวอร์ชั่นฟรี
มันทำงานอย่างไร
แม้ว่าคุณจะสามารถนำเข้าข้อมูลต่างๆ มากมายของคุณจากแอปพลิเคชันเดกส์ท็อปได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเริ่มจากการทำสิ่งนั้น คุณสามารถเลือกที่จะเข้าสู่ระบบ Enpass และเริ่มต้นบันทึกรหัสผ่านจากแอปมือถือของคุณหลังจากที่ซื้อแทนได้
6. Keeper – บริการ KeeperChat ที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
Keeper เป็นแบรนด์ขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมความปลอดภัย มันมีหนึ่งในข้อเสนอฟีเจอร์ต่างๆ มากมายพร้อมผู้จัดการรหัสผ่านนี้ซึ่งรวมถึงเครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติและการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน นอกจากนี้ยังมีส่วนเสริมที่โดดเด่นเช่นบริการ KeeperChat ที่ปลอดภัย แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับฟีเจอร์การเข้าถึงฉุกเฉินอันทรงพลังในกรณีที่คุณถูกปิดกั้นจากผู้จัดการรหัสผ่านมาให้ด้วย
สิ่งที่คุณควรรู้
Keeper เป็นหนึ่งในผู้จัดการรหัสผ่านที่ไม่มีเวอร์ชั่นฟรีแม้ว่ามันจะให้คุณทดลองใช้งานได้ในช่วงเวลาทดลองก็ตาม แผนให้บริการแบบชำระเงินก็คุ้มค่า แต่อย่างไรก็ตาม KeeperChat อนุญาตให้คุณส่งข้อความหาผู้ใช้คนอื่นๆ ได้ด้วยข้อความเข้ารหัส คุณต้องจ่ายเงินรายเดือนเพื่อใช้งานสิ่งต่างๆ ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีงบพอด้วยนะ!
มันทำงานอย่างไร
สิ่งที่คุณต้องทำกับ Keeper คือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและเริ่มใส่รหัสผ่านของคุณ จากที่นี่คุณสามารถจัดการข้อมูลของคุณภายในโฟลเดอร์ต่างๆ และตรวจสอบฟีเจอร์เจ๋งๆ ทั้งหมดอย่างช้าๆ ได้
7. aWallet Password Manager – เวอร์ชั่นฟรีที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
aWallet เปิดให้บริการมายาวนานมากพอที่จะมีฟีเจอร์ที่หลากหลาย แอปพลิเคชันนี้จะเก็บข้อมูลบัตรเครดิต รหัสผ่าน ข้อมูลทางการเงินและอื่นๆ อีกมากมาย คุณสามารถจัดระเบียบมันได้ง่ายๆ อีกด้วย คุณสามารถติดป้ายรายการด้วยไอคอนที่กำหนดและค้นหาด้วยฟีเจอร์ค้นหาภายในตัวได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเริ่มต้นได้ฟรี
สิ่งที่คุณควรรู้
เมื่อคุณทดลองใช้เวอร์ชั่นฟรีหมดแล้ว คุณสามารถใช้ประโยชน์ของแผนให้บริการแบบชำระเงินได้โดยการจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว น่าเสียดายที่เครื่องมือสร้างรหัสผ่านนั้นเป็นฟีเจอร์ที่ต้องจ่ายเงินซื้อเท่านั้น เช่นเดียวกันกับการเข้าสู่ระบบด้วยลายนิ้วมือ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ฟรี เช่น พื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ การสำรองข้อมูลและการปิดล็อกโดยอัตโนมัติ
มันทำงานอย่างไร
ดาวน์โหลด aWallet ได้ง่ายๆ จากนั้นคุณก็สามารถนำเข้าและจัดระเบียบข้อมูลของคุณได้อย่างรวดเร็ว คุณสามารถใช้ประโยชน์ของการสำรองข้อมูล ข้อมูลเข้ารหัสและอื่นๆ อีกมากมาย!
8. Bitwarden – โครงสร้างแผนให้บริการที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
Bitwarden เป็นผู้จัดการรหัสผ่านที่ค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์อื่นๆ ในรายการนี้ อย่างไรก็ตามนี่ไม่เพียงแต่สร้างความประหลาดใจให้เท่านั้นเพราะมันเปิดให้บริการฟรี แต่นั่นไม่ได้ความว่ามันยังบกพร่องอะไร Bitwarden มีการเข้ารหัสตามมาตรฐานอุตสาหกรรม AES-256 สำหรับข้อมูลของคุณ เครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ ซิงค์ข้อมูลในอุปกรณ์ต่างๆ และเป็นโอเพ่นซอร์สทั้งระบบ หากนั่นยังโน้มน้าวใจคุณไม่พอล่ะก็ ฉันก็ไม่รู้จะมีอะไรที่โน้มน้าวใจคุณได้แล้ว
สิ่งที่คุณควรรู้
ผู้จัดการรหัสผ่านนี้เป็นโซลูชั่นเก็บจัดเก็บแบบปราศจากความรู้ซึ่งหมายความว่าไม่มีใครนอกจากคุณที่เห็นข้อมูลของคุณ แถมเมื่อคุณใช้การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ ข้อมูลทั้งหมดของคุณจะถูกเข้ารหัสตั้งแต่ต้นและสำหรับผู้ที่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี Bitwarden ก็มาพร้อมกับตู้นิรภัยเว็บไซต์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ จากอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใดๆ ก็ได้
แผนให้บริการแบบชำระเงินราคาถูกมากนั้นก็มาพร้อมกับตัวเลือกเสริม เช่น โฮสติ้งเซิร์ฟเวอร์คลาวด์และการแบ่งปันซอฟต์แวร์
มันทำงานอย่างไร
เว็บไซต์ของแอปมีเวอร์ชั่นสำหรับเกือบทุกระบบปฏิบัติการแม้ว่าคุณจะแค่ต้องการเวอร์ชั่นจาก Google Play สำหรับอุปกรณ์ Android ของคุณเท่านั้นก็ตาม คุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณได้ใช้หนึ่งในผู้จัดการรหัสผ่านฟรีที่ดีที่สุดได้แล้ว
9. 1Password – โหมดเดินทางที่ดีที่สุด
ทำไมเราถึงชอบ
1Password มีแผนให้บริการราคาถูกอยู่บ้างและมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย เช่น เครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ ตู้นิรภัยสำหรับการจัดระเบียบง่ายๆ และบางสิ่งที่เรียกว่าโหมดเดินทาง (Travel Mode) ฟีเจอร์นี้ดีสำหรับผู้ที่ต้องเดินไปที่ต่างๆ รอบโลกเนื่องจากคุณสามารถปิดล็อกข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ในกรณีที่โทรศัพท์ของคุณถูกโจรกรรม ที่สำคัญคือฟีเจอร์นี้จะล็อกข้อมูลทั้งหมดของคุณและให้ตัวเลือกในการลบมันออกจากอุปกรณ์อื่นหาก Android ของคุณถูกขโมย
สิ่งที่คุณควรรู้
น่าเสียดายที่ 1Password ไม่มีแผนให้บริการฟรี มีช่วงเวลาทดลองฟรี 14 วันให้คุณได้ทดสอบตัวเลือกต่างๆ ก่อน ถึงอย่างนั้นมันก็คุ้มค่าที่จะทดลองดูก่อนจะตัดสินใจซื้อ อย่างที่กล่าวข้างต้น แผนให้บริการนั้นมีราคาไม่แพงนักและแอปพลิเคชันก็มาพร้อมกับความคุ้มค่ามากมายหากคุณตัดสินใจที่จะซื้อ
มันทำงานอย่างไร
เหมือนกับผู้จัดการรหัสผ่านอื่นๆ 1Password ต้องการให้คุณตั้งค่ารหัสผ่านมาสเตอร์ เข้าสู่ระบบและกรอกรหัสผ่านและข้อมูลอื่นๆ ของคุณทั้งหมด คุณสามารถใช้ประโยชน์ของตัวเลือกการจัดการอันน่าทึ่งได้เพื่อดูแลข้อมูลในแบบที่คุณต้องการ
10. True Key – Best for its Brand Association
ทำไมเราถึงชอบ
TrueKey เป็นผู้จัดการรหัสผ่านสำหรับ Android ที่ใช้งานง่ายซึ่งประกอบไปด้วยตัวเลือกทั่วไปอย่างเครื่องมือสร้างรหัสผ่านและรหัสผ่านมาสเตอร์ นอกจากนี้ True Key ยังมีแผนให้บริการฟรีสำหรับจัดเก็บรหัสผ่านได้สูงสุด 15 รหัส นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบแอปก่อนตัดสินใจซื้อ ในขณะเดียวกันค่าธรรมเนียมรายปีก็มีราคาค่อนข้างถูก!
สิ่งที่คุณควรรู้
น่าสนใจที่ TrueKey ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทรักษาความปลอดภัย McAfee ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีฟีเจอร์อะไรมากนักที่นอกเหนือจากฟีเจอร์พื้นฐาน สิ่งที่คุณจะได้จากแผนให้บริการแบบชำระเงินคือพื้นที่จัดเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัดซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ยังใหม่กับผู้จัดการรหัสผ่าน แต่ผู้ใช้ที่มีประสบการณ์อาจมองหาตัวเลือกอื่นที่มีฟีเจอร์เสริม
มันทำงานอย่างไร
หลังจากที่คุณดาวน์โหลด TrueKey แล้ว คุณสามารถเริ่มต้นนำเข้ารหัสผ่านและตั้งค่ารหัสผ่านมาสเตอร์ของคุณก่อนที่จัดเก็บรหัสผ่านได้สูงสุด 15 รหัสในแผนให้บริการฟรี! แต่เมื่อเสร็จแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะตัดสินใจซื้อพื้นที่จัดเก็บไม่จำกัดหรือไม่
ฟีเจอร์พื้นฐานของผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีที่สุด
ไม่มีผู้จัดการรหัสผ่านใดที่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยพวกเขาควรมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้:
- รหัสผ่านมาสเตอร์: รหัสผ่านมาสเตอร์เป็นคีย์เวิร์ดเฉพาะของคุณสำหรับเข้าสู่ระบบในผู้จัดการรหัสผ่าน มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเก็บรหัสผ่านนี้ให้ปลอดภัยเนื่องจากมันเป็นวิธีเดียวที่จะเข้าถึงข้อมูลภายใน
- เครื่องมือกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ: เมื่อใดก็ตามที่คุณเผชิญหน้ากับแบบฟอร์มเข้าสู่ระบบ ผู้จัดการรหัสผ่านที่ดีสำหรับ Android จะกรอกข้อมูลที่เกี่ยวของสำหรับแต่ละแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ให้กับคุณโดยอัตโนมัติ
- บันทึกรหัสผ่านอัตโนมัติ: เมื่อคุณเข้าสู่ระบบในแบบฟอร์มใหม่ที่ไม่ได้มีข้อมูลเก็บไว้ในผู้จัดการรหัสผ่าน ซอฟต์แวร์ควรบันทึกข้อมูลดังกล่าวและจัดเก็บโดยอัตโนมัติ ด้วยวิธีดังกล่าว คุณจะไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมและข้อมูลทั้งหมดของคุณจะอยู่ภายในผู้จัดการรหัสผ่าน
- รายงานความแข็งแกร่งของรหัสผ่าน: รายงานความแข็งแกร่งของรหัสผ่านเป็นฟีเจอร์ที่ดีที่ให้คุณดูภาพรวมคุณภาพรหัสผ่านของคุณ ผู้จัดการรหัสผ่านบางโปรแกรมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การแก้ไขโดยอัตโนมัติหรือให้ตัวเลือกในการเปลี่ยนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติกับคุณ แต่อย่างน้อยทุกโปรแกรมควรมีรายงานพื้นฐาน
- การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA): ในขณะที่มันดูเหมือนจะเป็นฟีเจอร์พื้นฐาน แต่ก็มีผู้จัดการรหัสผ่านบางโปรแกรมไม่ได้รวม 2FA มาให้ด้วย นี่เป็นชั้นการป้องกันเสริมที่ให้ผู้จัดการรหัสผ่านส่งรหัสหาคุณผ่านทางอีเมลและข้อความก่อนจะอนุญาตให้คุณเข้าสู่ระบบได้ ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้อื่นไม่สามารถเจ้าะเข้าบัญชีของคุณได้เพราะพวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีอีเมลหรือโทรศัพท์ของคุณได
ฟีเจอร์ขั้นสูงของผู้จัดการรหัสผ่าน
ตอนนี้คุณก็ทราบถึงฟีเจอร์พื้นฐานแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลามาดูฟีเจอร์เสริมกันแล้ว:
- การแบ่งปันรหัสผ่าน: ในขณะที่มันไม่ใช่ฟีเจอร์จำเป็น แต่การแบ่งปันรหัสผ่านก็เป็นฟีเจอร์ที่ดีสำหรับผู้ที่มีบัญชีร่วมกันกับเพื่อนหรือคนที่รัก เช่น บัญชี Netflix ด้วยฟีเจอร์นี้ คุณสามารถควบคุมได้ว่าใครบางที่เข้าถึงข้อมูลอะไรได้และเข้าถึงได้นานแค่ไหน
- การเข้าถึงแบบฉุกเฉิน: การเข้าถึงแบบฉุกเฉินเป็นฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ในกรณีที่คุณลืมรหัสผ่านมาสเตอร์ของคุณ มันขึ้นอยู่กับผู้จัดการรหัสผ่าน ตัวเลือกการกู้คืนนี้จะจัดการผ่านอีเมลของเพื่อนที่น่าเชื่อถือ หากคุณเปิดใช้งานตัวเลือกการเข้าถึงแบบฉุกเฉิน เพื่อนคนดังกล่าวจะได้รับสิทธิ์ให้เข้าถึงบัญชีของคุณในระยะเวลาที่กำหนด ที่นี่พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านหรือทำให้แน่ใจว่าลบข้อมูลของคุณจากผู้จัดการรหัสผ่านแล้วโดยขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไร
- การซิงค์ในอุปกรณ์ต่างๆ: โดยทั่วไปแล้วคุณจะใช้ผู้จัดการรหัสผ่านบนอุปกรณ์ที่มากกว่าหนึ่ง หากคุณต้องย้ายระหว่าง Android และคอมพิวเตอร์อยู่บ่อยๆ คุณคงชอบที่จะมีฟีเจอร์นี้ การมีซิงค์ในอุปกรณ์ต่างๆ หมายความว่าคุณจะสามารถดูข้อมูลของคุณในแต่ละอุปกรณ์ได้โดยไม่มีปัญหา