เครื่องมือตรวจจับปลั๊กอิน WordPress - เครื่องมือตรวจสอบช่องโหว่
เครื่องมือตรวจสอบช่องโหว่ WP ฟรี
เครื่องมือใช้ฐานข้อมูล CVE (ช่องโหว่ทั่วไปและการเปิดเผยข้อมูล) และรายการปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยม 200 รายการเพื่อดำเนินการวิเคราะห์เว็บไซต์เชิงลึก เมื่อมีการระบุปลั๊กอินและเวอร์ชั่นของ WordPress การค้นหาช่องโหว่จะถูกเปิดใช้งาน หากมีการตรวจพบช่องโหว่ ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือน หากไม่มีช่องโหว่ใดๆ ปรากฏ จะมีการแนะนำให้อัปเกรดสิ่งที่จำเป็นคำถามที่พบบ่อย
1. ฉันจะทราบได้อย่างไรว่าเว็บไซต์ปลอดภัย
สิ่งแรกที่ทำให้เว็บไซต์ปลอดภัยคือใบรับรอง SSL - คุณจะเห็นไอคอนรูปกุญแจเล็ก ๆ ในแถบการค้นหาของคุณและเว็บไซต์จะขึ้นต้นด้วย https แทนที่จะเป็น http คุณยังสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อที่แสดงอย่างชัดเจน เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่และ / หรือลิงก์ไปยังบัญชีโซเชียลมีเดีย สัญญาณที่ดีอื่น ๆ คือตราประทับความน่าเชื่อถือที่ตรวจสอบได้และนโยบายความเป็นส่วนตัวที่อธิบายว่าข้อมูลของคุณจะถูกรวบรวม นำไปใช้และปกป้องอย่างไร
เว็บไซต์ที่แสดงโฆษณาป๊อปอัปที่น่าสงสัยจะมีข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์ / การสะกดมากมายและควรหลีกเลี่ยงชื่อโดเมนที่สะกดผิด การติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส ที่มีส่วนขยายสำหรับเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยเป็นวิธีการที่ดีในการหลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซต์อันตราย
2. ถ้าฉันเข้าเว็บไซต์ที่อันตรายจะเกิดอะไรขึ้น?
มีเว็บไซต์อันตรายมากมายหลายประเภท
การหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตที่พบบ่อยอย่างหนึ่งคือ "ฟิชชิง" โดยเป็นเว็บไซต์อันตรายที่ออกแบบมาให้มีลักษณะเหมือนกับเว็บไซต์ยอดนิยมเช่น Facebook หรือ Twitter หรือแม้แต่พอร์ทัลธนาคารออนไลน์ของคุณ เมื่อคุณเข้าไปที่ข้อมูลการเข้าสู่ระบบของคุณ จริง ๆ แล้วคุณกำลังป้อนข้อมูลของคุณลงในเว็บไซต์ของแฮ็กเกอร์ (ไม่ใช่เว็บไซต์ที่คุณพยายามเข้าชม) ดังนั้นแฮ็กเกอร์จึงมีรายละเอียดการเข้าสู่ระบบของคุณ
เว็บไซต์อันตรายอื่น ๆ มี "การดาวน์โหลดแบบ drive-by” ซึ่งหมายความว่า เพียงแค่ดูเว็บไซต์หรือคลิกที่หน้าต่างป๊อปอัพสามารถอาจจะกลายเป็นการดาวน์โหลดมัลแวร์ ทำให้แฮ็กเกอร์สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณหรือเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว
และก็มีเว็บไซต์ที่ดูอันตรายมาก - โดยมันจะทำเสียงดังและแสดงข้อความแฟลชที่ระบุว่าคอมพิวเตอร์ของคุณติดมัลแวร์และคุณต้องโทรหาหมายเลขโทรศัพท์ที่ให้เพื่อแก้ไขปัญหา แต่ทั้งหมดนี้เป็นการหลอกลวง! เพียงปิดเบราว์เซอร์ของคุณและการแจ้งเตือนป๊อปอัพจะหายไป
3.เว็บไซต์สามารถดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในอุปกรณ์ของฉันได้หรือไม่?
ใช่ เว็บไซต์สามารถดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ตโฟนของคุณ แต่มีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถเปิดไฟล์นั้นได้! หากคุณไม่เปิดไฟล์ มัลแวร์จะไม่สามารถติดอุปกรณ์ของคุณได้
แต่คุณต้องระวัง หลายครั้งที่คุณถูกหลอกให้เปิดไฟล์เพลงหรือเอกสาร Word หรือไฟล์ประเภทอื่น ๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นไฟล์ที่ไม่มีอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าคุณตกเป็นเหยื่อการโจมตีของมัลแวร์
หากคุณติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่เชื่อถือได้อย่าง Norton หรือ McAfee สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น
4. ฉันจะป้องกันตัวเองจากฟิชชิ่งได้อย่างไร?
ฟิชชิ่งเป็นหนึ่งในวิธีการขโมยข้อมูลของแฮ็กเกอร์ที่พบได้บ่อยที่สุด และนี่คือวิธีการป้องกันตัวเองจากการโจมตีฟิชชิ่ง:
- อย่าคลิกอีเมลหรือลิงก์จากคนที่คุณไม่รู้จัก
- ติดตั้งโปรแกรมจัดการพาสเวิร์ดอย่างDashlane หากคุณเข้าเว็บไซต์ปลอมจะไม่มีการกรอกข้อมูลล็อกอินอัตโนมัติ
- อย่าพิมพ์ข้อมูลใด ๆ ลงไปบนเว็บไซต์ที่ไม่มีใบรับรอง SSL (หรือการที่เบราว์เซอร์ไม่ได้ขึ้นต้นด้วย https)
- ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มีการป้องกันฟิชชิ่งอย่างNorton 360
- ลองดูการสะกดผิดในชื่อโดเมน (เช่น façebook.com แทนที่จะเป็น facebook.com)
- หากคุณไม่แน่ใจ ปิดเบราว์เซอร์และพิมพ์ชื่อโดเมนของคุณทีละตัวอักษร
- ใช้เครื่องมืออย่างเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัย SafetyDetectives เพื่อดูว่าเว็บไซต์ผ่านการทดสอบวามปลอดภัยบางประการหรือไม่
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการอัพเดตซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของคุณอัตโนมัติ
- ใช้การยืนยันแบบสองปัจจัยหรือ two-factor authentication (2FA) สำหรับการเข้าสู่ระบบที่สำคัญ ๆ เสมอ
- สำรองข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดไว้
5. โปรแกรมแอนตี้ไวรัสจะช่วยปกป้องฉันจากเว็บไซต์ปลอมได้หรือไม่?
มีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแค่บางโปรแกรมเท่านั้นที่มีการรักษาความปลอดภัยระดับนี้ แพ็คเกจแอนตี้ไวรัสแบบเต็มรูปแบบที่มาพร้อมกับการป้องกันการโจมตีฟิชชิ่ง (เช่น Norton 360 หรือ McAfee Total Protection) จะช่วยปกป้องคุณจากเว็บไซต์ปลอมที่เป็นอันตราย โปรแกรมแอนตี้ไวรัสชั้นนำเหล่านี้จะบล็อคมัลแวร์ทั้งหมด — เว็บไซต์ฟิชชิ่ง ไวรัส สปายแวร์ แรนซัมแวร์ และมัลแวร์แบบอื่น ๆ ที่อาชญากรบนโลกไซเบอร์ใช้เพื่อสร้างอันตรายและขโมยข้อมูล