LastPass vs. KeePass — สองผู้จัดการรหัสผ่านที่แตกต่างกันอย่างมาก

เอริค โกลด์สไตน์
เอริค โกลด์สไตน์ หัวหน้าบรรณาธิการ
อัพเดท: 16 กันยายน 2024
เอริค โกลด์สไตน์ เอริค โกลด์สไตน์
อัพเดท: 16 กันยายน 2024 หัวหน้าบรรณาธิการ

LastPass vs. KeePass: ภาพรวม

LastPass และ KeePass ต่างเป็นผู้จัดการรหัสผ่านที่นิยมกันเป็นอย่างมากและได้รับการออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลเข้าสู่ระบบของคุณให้ปลอดภัย แต่เราควรใช้งานโปรแกรมไหนมากกว่ากัน?

LastPass ได้ประสบกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยสี่ครั้งในรอบแปดปีที่ผ่านมาและฉันก็พบแอปจำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแฮ็ก KeePass โดยเฉพาะเช่นกัน

ดังนั้นคำถามก็คือ: คุณควรหลีกเลี่ยงหนึ่งในผู้จัดการรหัสผ่านที่มีช่องโหว่เหล่านี้หรือเปล่า?

มี ผู้จัดการรหัสผ่านมากกว่า 70 โปรแกรมในตลาด แต่ทั้ง LastPass และ KeePass ต่างก็เป็นผู้ให้บริการที่โดดเด่นจากคู่แข่ง — ด้วยเหตุผลที่ต่างกันอย่างมาก

ภาพรวมฟีเจอร์ของ
LastPass

ภาพรวมฟีเจอร์ของ
KeePass

ความปลอดภัย

การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน มี มี (ด้วยปลั๊กอิน)
ระดับการเข้ารหัส AES 256 บิต AES 256 บิต
การซิงค์หลายอุปกรณ์ มี มี (ด้วยปลั๊กอิน)
การสำรองและการกู้คืน มี มี (ด้วยปลั๊กอิน)
แอปมือถือพร้อมให้บริการ Android, iOS, Windows Android, iOS, Windows (บุคคลที่สาม)
เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน มี มี/ไม่
ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome, Firefox, Safari,

Opera, Internet Explorer

ตามมาตรฐาน — ไม่มี

ด้วยปลั๊กอิน — Chrome, Firefox,

Safari, Opera, Internet Explorer

การนำเข้ารหัสผ่านอัตโนมัติ มี มี (ด้วยปลั๊กอิน)
การกรอกแบบฟอร์มอัตโนมัติ มี มี (ด้วยปลั๊กอิน)

บริการลูกค้า

อีเมล มี ไม่มี
แชทออนไลน์ ไม่มี ไม่มี
โทรศัพท์ ไม่มี ไม่มี
คำถามที่พบบ่อย มี มี
ภาษาพร้อมให้บริการ ภาษาอังกฤษ ไม่ทราบ
บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มี ไม่มี

LastPass vs. KeePass: ฟีเจอร์

LastPass: ฟีเจอร์พื้นฐาน

LastPass vs. KeePass: ฟีเจอร์

ประการแรกคือพื้นฐานของ LastPass:

  • สร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง
  • จัดเก็บมันได้อย่างปลอดภัย
  • กรอกรหัสผ่านโดยอัตโนมัติในขณะที่คุณท่องเว็บ
  • รองรับรหัสผ่านไม่จำกัดและไม่จำกัดอุปกรณ์

ก็เหมือนกับผู้จัดการรหัสผ่านมากมาย LastPass มีการยืนยันตัวตนที่หลากหลาย คุณสามารถเลือกอุปกรณ์อื่น — เช่น โทรศัพท์หรือ USB ของคุณ — เพื่อมอบชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติม แม้ว่าจะมีใครบางคนขโมยรหัสผ่านมาสเตอร์ของคุณ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้หากไม่มีอุปกรณ์ยืนยันตัวตนเพิ่มเติม

ฟีเจอร์เพิ่มเติมที่มีให้ใน LastPass Premium ได้แก่:

  • บริการทางด้านเทคนิค
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เข้ารหัสขนาด 1 GB
  • การเข้าถึงฉุกเฉิน
  • การแบงปันรหัสผ่านกับผู้ใช้ได้ไม่จำกัด
  • ช่องทางการเข้าสู่ระบบหลากหลายเพิ่มเติม — สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

KeePass: ฟีเจอร์พื้นฐาน

LastPass vs. KeePass: ฟีเจอร์

ในทางทฤษฎีแล้ว KeePass มีฟีเจอร์ส่วนใหญ่เหมือนกับ LassPass — หากคุณมีเวลา พลังงานและความรู้ทางด้านเทคนิคในการปรับแต่งมันอย่างเหมาะสม

KeePass เวอร์ชั่นค่าเริ่มต้นสามารถ:

  • สร้างรหัสผ่าน
  • จัดเก็บรหัสผ่านในอุปกรณ์ของคุณได้อย่างปลอดภัย
  • นำเข้ารหัสผ่านจากสเปรดชีดได้
  • ซิงค์ระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ

ด้วยความช่วยเหลือของ “ปลั๊กอิน” (ซอฟต์แวร์บุคคลที่สามเพิ่มเติม) KeePass ยังสามารถ:

  • กรอกรหัสผ่านโดยอัตโนมัติได้
  • ผสานรวมเข้ากับเบราว์เซอร์ของคุณ
  • สำรองรหัสผ่านของคุณบนพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์

แต่คุณจะต้องมีทักษะทางเทคนิคอย่างจริงจังเพื่อทำให้ฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานได้ มิเช่นนั้นจะเท่ากับว่าคุณได้ใช้แอปพลิเคชั่นที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ

ตู้นิรภัยรหัสผ่าน (Password Vault)

ตู้นิรภัยรหัสผ่านเป็นพื้นที่จัดเก็บที่ปลอดภัยสำหรับรหัสผ่านของคุณ ตู้นิรภัยที่ดียังสามารถเก็บรหัสผ่านของคุณได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและยังให้คุณเรียกใช้งานมันได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าผู้คนจะพบช่องโหว่ในทั้ง LastPass และ KeePass แต่ทั้งสองโปรแกรมนี้ก็ยังมีความปลอดภัยอย่างมาก

KeePass จะจัดเก็บรหัสผ่านของคุณไว้ในเครื่อง บางคนพิจารณาว่าสิ่งนิ้ช่องทางการจัดเก็บที่ปลอดภัยมากกว่า นอกจากนี้มันยังเป็นช่องทางที่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านเทคนิคพอสมควรในการใช้งานมันอย่างเหมาะสม

ตู้นิรภัยรหัสผ่านของ LastPass เป็นมิตรกับผู้ใช้งานอย่างมาก แต่รหัสผ่านนั้นจะถูกจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของ LastPass

ส่วนขยายเบราว์เซอร์

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ของผู้จัดการรหัสผ่านนั้นจะให้คุณสร้างและจัดการข้อมูลเข้าสู่ระบบและกรอกรหัสผ่านในช่องรหัสโดยอัตโนมัติในขณะที่คุณท่องเว็บ

LastPass ส่วนใหญ่จะทำงานบนเว็บไซต์และส่วนขยายเบราว์เซอร์นั้นก็ใช้งานได้ง่าย คุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชั่น LastPass ส่วนใหญ่ได้ง่าย ๆ โดยการคลิกที่ปุ่มที่อยู่ถัดจากแอดเดรสบาร์

LastPass vs. KeePass: ฟีเจอร์

KeePass ไม่ได้มาพร้อมกับส่วนขยายเบราว์เซอร์ แต่คุณสามารถติดตั้งมันแยกต่างหากได้ สำหรับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อน

เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน

เราไม่สามารถไว้ใจมนุษย์ในเรื่องการสร้างรหัสผ่านดี ๆ ได้ เครื่องมือสร้างรหัสผ่านจะสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งที่แฮ็กเกอร์ไม่สามารถเจาะได้

LastPass ให้คุณสร้างรหัสผ่านในส่วนขยายเบราว์เซอร์ คุณสามารถปรับแต่งรหัสผ่านได้ทั้งในด้านของความยาวและประเภทตัวอักษรที่รหัสผ่านจะมี (เลข สัญลักษณ์และอื่น ๆ)

LastPass vs. KeePass: ฟีเจอร์

KeePass มีเครื่องมือสร้างรหัสผ่านขั้นสูงกว่าพร้อมตัวเลือกในการปรับแต่งมากมาย จริง ๆ แล้วมันค่อนข้างที่จะยากเกินไปสำหรับผู้ใช้งานโดยเฉลี่ย เมื่อคุณจัดการกับข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน บางครั้งการทำอะไรให้มันเรียบง่ายและไม่ทำให้ตัวเองสับสนย่อมดีกว่า

LastPass vs. KeePass: ฟีเจอร์

ผู้ชนะ: LastPass

LastPass vs. KeePass: แผนให้บริการและราคา

LastPass: แผนให้บริการและราคา

LastPass มาพร้อมกับแผนให้บริการสามราคา:

  • Free
  • Premium
  • Families (ครอบครัว) (ซึ่งมอบใบรับรองพรีเมี่ยมให้ 6 ใบ)

LastPass Free อนุญาตให้เก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัดและไม่จำกัดอุปกรณ์ หากคุณวางแผนที่จะตรวจสอบอีเมลหรือใช้ Facebook บนโทรศัพท์ของคุณ งั้นนี่ก็เป็นสิ่งจำเป็น แผนให้บริการนี้ทำให้ LastPass Free เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าผู้จัดการรหัสผ่านฟรีอื่น ๆ เช่น Dashlane และ Keeper เวอร์ชั่นฟรีที่สามารถติดตั้งได้เพียงอุปกรณ์เดียวเท่านั้น

LastPass Premium มอบพื้นที่จัดเก็บเอกสารที่ปลอดภัยขนาด 1 GB แผนให้บริการนี้เหมาะสำหรับการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวที่ละเอียดอ่อน เช่น เอกสารการเดินทาง ผู้ใช้ Premium ยังสามารถรับการเข้าถึงฉุกเฉินได้อีกด้วย หากคุณสูญเสียการเข้าถึง LastPass บุคคลที่คุณไว้วางใจจะสามารถเข้าถึงบัญชีของคุณและดึงเอกสารและรหัสผ่านได้อย่างปลอดภัย

เพราะตัวเลือกฟรีนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีมากอยู่แล้ว ดังนั้นคุณจึงอาจรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องอัปเกรด แต่ LastPass Premium นั้นมอบความคุ้มค่าให้กับเงินที่คุณเสียไปได้อย่างดี — แผนให้บริการนี้มีราคาถูกกว่าคู่แข่งหลายรายซึ่งรวมถึง Dashlane และ 1Password

KeePass: แผนให้บริการและราคา

KeePass เปิดให้บริการฟรี

ไม่มีเวอร์ชั่นที่ต้องชำระเงิน

KeePass เวอร์ชั่นพื้นฐานนั้นจะทำงานได้แค่เพียงการสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านเป็นหลัก ไม่เหมือนกับ LastPass มันไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อผสานรวมกับเบราว์เซอร์ของคุณ มันอาจเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับไฟล์หรือเอกสารที่ได้รับการป้องกันด้วยรหัสผ่านของคุณ แต่ไม่เหมาะสำหรับการเข้าสู่ระบบบัญชีออนไลน์ต่าง ๆ

มีส่วนขยายเบราว์เซอร์ KeePass และแอปมือถือ แต่คุณต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์บุคคลที่สามแยกต่างหากสำหรับเรื่องนี้ การติดตั้งสิ่งนี้อาจเป็นเรื่องยากและมันอาจไว้ใจไม่ได้ซะทีเดียว

นี่คือแผนให้บริการของ KeePass:

  • KeePass 2.x — เวอร์ชั่นต่อของ KeePass อย่างเป็นทางการ KeePass 2.x ทำงานได้บน Mac และ Linux ผ่าน “Mono” และรองรับปลั๊กอิน
  • KeePassX — สำเนา KeePass อย่างไม่เป็นทาง KeePassX ทำงานแบบ “พื้นฐาน” บน Mac และ Linux ซึ่งผู้ใช้จำนวนมากชอบใช้เวอร์ชั่นนี้
  • KeePassXC — เวอร์ชั่นของ KeePassX ที่ได้รับการพัฒนาโดยคอมมูนิตี้ KeePass ไม่เหมือนกับ KeePassX มันยังคงได้รับการอัปเดตเป็นประจำ
  • เวอร์ชั่นมือถือบุคคลที่สามอย่าง KeePassDX (Android) และ iKeePass (iPhone)

มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจำไว้ว่า KeePass นั้นไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคเท่าไหร่นัก แต่มันอาจเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังหากอยู่ในมือของผู้ที่ใช้งานเป็น ผู้คนนับพันมีความสุขกับการใช้งาน KeePass เป็นเวลาหลายปีโดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว KeePass คู่ควรกับเครดิตในเรื่องนี้

ผู้ชนะ: KeePass

LastPass vs. KeePass: ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง

LastPass: ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง

LastPass เป็นโปรแกรมที่ติดตั้งและใช้งานได้ง่ายมาก ๆ

เมื่อคุณตั้งค่าบัญชี LastPass เรียบร้อยแล้ว คุณก็จะถูกนำไปยังตู้นิรภัยรหัสผ่านของคุณ LastPass มีไอคอนอัตโนมัติสำหรับเว็บไซต์มากมายและจัดเรียงมันตามหมวดหมู่ มันเรียบง่ายและก็ใช้งานง่ายมาก ๆ เลย

LastPass vs. KeePass: ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ LastPass ทำให้การเข้าสู่ระบบบัญชีออนไลน์เป็นเรื่องง่าย เมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่รู้จัก คุณจะเห็นไอคอน LastPass ในช่องกรอกรหัสผ่าน เพียงแค่คลิกที่ไอคอนดังกล่าวเพื่อกรอกรหัสผ่านของคุณ

LastPass vs. KeePass: ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง

ฉันได้รับข้อความผิดพลาดแทบจะทันทีหลังติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ซึ่งปล่อยให้ฉันไม่สามารถใช้งานมันได้ แม้ว่าฉันจะสามารถแก้ไขปัญหาที่ว่าได้อย่างง่ายดาย แต่นี้ก็เป็นสิ่งที่คุณควรทราบ

KeePass: ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง

อินเตอร์เฟซของ KeePass นั้นค่อนข้างโบราณ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูสะอาดตาและน่าเชื่อถือ

KeePass จะไม่จัดระเบียบรหัสผ่านของคุณโดยอัตโนมัติ คุณจะต้องจัดการมันด้วยตัวเอง

LastPass vs. KeePass: ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง

KeePass จะไม่นำเข้ารหัสผ่านใด ๆ ที่คุณบันทึกไว้ในเบราว์เซอร์โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามคุณสามารถนำเข้ารหัสผ่านจากสเปรดชีด Excel ได้

ในการกรอกรหัสผ่านออนไลน์โดยใช้ KeePass คุณสามารถเลือกที่จะคัดลอกรหัสผ่านไปยังคลิปบอร์ดของคุณหรือคุณสามารถลากมันจาก KeePass ไปยังช่องรหัสผ่านก็ได้

LastPass vs. KeePass: ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง

การกรอกรหัสผ่านโดยใช้ KeePass นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากไปซะทีเดียว คุณสามารถติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมซึ่งจะช่วยให้คุณกรอกแบบฟอร์มโดยอัตโนมัติได้ แต่ก็เหมือนกับหลาย ๆ สิ่งใน KeePass คือมันซับซ้อน

ผู้ชนะ: LastPass

LastPass vs. KeePass: บริการลูกค้า

LastPass: บริการลูกค้า

บริการลูกค้าเป็นจุดอ่อนของ LastPass อย่างแท้จริง

LastPass ไม่มีบริการลูกค้าผ่านโทรศัพท์หรือแชทออนไลน์ — มีแค่อีเมลและเอกสารออนไลน์และมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่รองรับเพียงภาษาเดียวเท่านั้น

ฉันใช้แบบฟอร์มบนเว็บไซต์ LastPass เพื่อสอบถามเกี่ยวกับปัญหาทางด้านเทคนิค ตอนนั้นเป็นเวลา 08:21 น. ตามเวลาสหราชอาณาจักรซึ่งเทียบเท่าเป็นเวลา 04:21 น. ในบอสตัวที่ที่ LastPass ตั้งอยู่

เป็นเวลามากกว่า 11 ชั่วโมงสุดท้ายแล้วฉันก็ได้รับการตอบกลับ 11 ชั่วโมงถือเป็นการตอบกลับที่ค่อนข้างช้าหากเป็นปัญหาที่จริงจัง ผู้ใช้พรีเมี่ยมจะได้รับการให้บริการก่อน ดังนั้นผู้ใช้ฟรีควรทำใจกับการรอคอยที่นานกว่า

KeePass: บริการลูกค้า

KeePass ไม่มีบริการลูกค้าใด ๆ เลย

มีเพียงแค่เอกสารออนไลน์แถมยังเข้าใจได้ยากอีกด้วย

ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเอกสารช่วยเหลือนี้ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการซิงค์รหัสผ่านของคุณระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ:

LastPass vs. KeePass: บริการลูกค้า

หากสิ่งนี้ดูน่ากลัวหรือเข้าใจได้ยาก งั้น KeePass อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ

การบกพร่องในเรื่องฝ่ายบริการลูกค้านั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้ KeePass เลย เอกสารออนไลน์นั้นมีประสิทธิภาพแม้ว่ามันจะต้องการความรู้ทางด้านเทคนิคอยู่บ้างเพื่อให้อ่านได้อย่างเข้าใจก็ตามและมีผู้คนบนเว็บไซต์อย่าง GitHub และ Reddit ที่จะคอยช่วยเหลือคุณอยู่หากคุณติดขัดอะไร

ผู้ชนะ: LastPass

บทสรุปสำหรับ LastPass vs. KeePass

LastPass มีฟีเจอร์ในแผนให้บริการฟรีมากกว่าผู้จัดการรหัสผ่านอื่น ๆ ทั่วไป

และแม้ว่าฟีเจอร์พรีเมี่ยมเสริมนั้นจะไม่ได้จำเป็นอะไร แต่พวเขาก็เสนอความคุ้มค่าได้ดีหากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ LastPass มีให้

เทียบกับผู้จัดการรหัสผ่านพรีเมี่ยมอื่น ๆ ก็ยังมีจุดอ่อนอยู่สองสามข้อ เช่น Dashlane มีบริการลูกค้าที่ดีกว่าและน่าเชื่อถือมากกว่า — แต่ก็มีราคาสูงกว่าด้วยเช่นกัน

คุณควรพิจารณา KeePass เฉพาะหากคุณมีทักษะด้านคอมพิวเตอร์ที่แข็งแกร่งและคุณต้องการผู้จัดการรหาผ่านที่คุณสามารถปรับมันเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เท่านั้น

หากคุณมีทักษะในการติดตั้งมันอย่างเหมาะสม KeePass อาจเป็นแอปพลิเคชั่นที่ทรงพลัง แต่โดยค่าเริ่มต้นแล้ว KeePass ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก อินเตอร์เฟซที่ซับซ้อนและการไม่มีบริการลูกค้าทำให้ KeePass เป็นตัวเลือกที่ไม่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานโดยเฉลี่ย

LastPass เอาชนะ KeePass ในเรื่องความง่ายในการใช้งานและฟีเจอร์นอกกรอบได้อย่างง่ายดาย สิ่งนี้ทำให้ LastPass เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับคนส่วนใหญ่

ผู้ชนะ: LastPass

เกี่ยวกับผู้เขียน
เอริค โกลด์สไตน์
เอริค โกลด์สไตน์
หัวหน้าบรรณาธิการ
อัพเดท: 16 กันยายน 2024

เกี่ยวกับผู้เขียน

เอริค โกลด์สไตน์ เป็นหัวหน้าบรรณาธิการที่ SafetyDetectives ในฐานะนักค้นคว้าด้านความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตและนักข่าวไอที เขามีประสบการณ์ 2 ปีด้านการเขียนและจัดเรียงบทความและบล็อกโพสต์เกี่ยวกับ VPN แอนตี้ไวรัส เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน ระบบควบคุมสำหรับผู้ปกครอง และผลิตภัณฑ์กับเครื่องมือป้องกันเอกลักษณ์บุคคล นอกจากนี้่แล้ว เอริคยังเขียนและจัดเรียงข่าวที่เกี่ยวกับปัญหาทางด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ให้กับ SafetyDetectives ด้วย นอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์ถึง 20+ ปี ในฐานะนักเขียนเกี่ยวกับกีฬาให้กับสื่อหลายสำนัก พร้อมเคยทำหน้าที่สื่อสารให้กับองค์กรระดับประเทศมาแล้ว ในยามว่างของเขานั้น เขามักจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ออกกำลังกาย และดูการแข่งกีฬาของทีมที่เขาชื่นชอบ

แสดงความคิดเห็น