
ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้ดู Disney+ จากที่ไหนก็ได้ในปี 2023:
- 🥇 ExpressVPN: ใช้งานร่วมกับ Disney+ ได้อย่างมีความเสถียร มีความปลอดภัยขั้นสูง และมีความเร็วปานสายฟ้าแลบ นอกจากนี้ยังใช้งานสะดวกบนทุกอุปกรณ์อีกด้วย ExpressVPN อนุญาตให้เชื่อมต่อได้ 8 การเชื่อมต่อ มีราคาที่สามารถจับต้องได้ และก็มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
คุณเคยอยากที่จะดูภาพยนตร์ Marvel หรือรายการทีวีคลาสสิกอย่าง The Simpsons บน Disney Plus เวลาที่เดินทางไปต่างประเทศ แต่กลับกลายเป็นว่าคุณไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ นั้นได้เนื่องจากเรื่องของข้อตกลงลิขสิทธิ์บ้างไหม? โชคดีมากที่คุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการใช้งาน เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) สำหรับการดู Disney+ ที่ไหนก็ได้ในโลก
VPN นั้นเป็นแอปที่จะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้ เวลาที่คุณเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ VPN แล้ว ทาง VPN ก็จะแทนที่ที่อยู่ IP ของคุณไปเป็นที่อยู่ IP จากตำแหน่งใหม่ ดังนั้นถ้าคุณมีบัญชี Disney Plus ในประเทศที่มีเปิดให้บริการ คุณก็สามารถเชื่อมต่อ VPN ไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศนั้น ๆ เพื่อดูรายการทีวีและภาพยนตร์ของ Disney Plus ได้
และ VPN ที่ดีก็จะมาพร้อมกับการติดตั้งที่ง่ายดายและแอปเข้าใจง่ายสำหรับ Android, iOS, Windows, Macs, สมาร์ททีวี, Amazon Fire Stick หรือแม้แต่กระทั่งเครื่องเล่นเกม สำหรับใช้ในการสตรีมมิ่ง Disney Plus
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุก VPN ที่จะเข้าถึง Disney+ ได้ แต่ผมและเพื่อนก็ได้ร่วมมือกันใช้เวลาอยู่หลายสัปดาห์ในช่วงที่ผ่านมาเพื่อทำการทดสอบ VPN ระดับแนวหน้าทุกแบรนด์ในตลาดประจำปี 2023 และพวกเราก็ได้พบ 3 ตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะทำให้ดู Disney+ ได้จากทุกที่
เพียง 3 ขั้นตอน (ที่รวดเร็วและง่ายดาย) ที่จะทำให้คุณสามารถดู Disney Plus จากที่ไหนก็ได้ในปี 2023:
- ขั้นที่ 1: ดาวน์โหลดและติดตั้ง VPN ที่ใช้งานร่วมกับ Disney+ ได้ เลือก VPN ที่มีอย่างน้อย 1 เซิร์ฟเวอร์ใน ประเทศที่เปิดให้บริการ — ผมอยากจะแนะนำ ExpressVPN เนื่องจากความเร็วในการสตรีมมิ่ง เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ (มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใน 90 กว่าประเทศ) และการรองรับสตรีมมิ่งที่ยอดเยี่ยม ใช้เวลาดาวน์โหลดและติดตั้งแอป VPN ลงในอุปกรณ์ของคุณเพียงไม่กี่นาที
- ขั้นที่ 2: เลือกเซิร์ฟเวอร์ เลื่อนดูตำแหน่งที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ VPN จากนั้นให้เลือกเซิร์ฟเวอร์ใน ประเทศที่เปิดให้บริการ
- ขั้นที่ 3: ล็อกอินเข้า Disney+ ล็อกอินเข้าบัญชี Disney+ ของคุณ และเลือกดูรายการหรือภาพยนตร์ที่คุณชื่นชอบ และก็สำราญใจไปกับการสตรีมได้เลย
5 VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการดู Disney Plus
สรุปโดยย่อเกี่ยวกับ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการดู Disney+ ในปี 2023:
- 🥇 1. ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดในภาพรวมสำหรับการดู Disney+
- 🥈 2. Private Internet Access — ดีเยี่ยมสำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+ บนอุปกรณ์มือถือ
- 🥉 3. CyberGhost VPN — VPN ที่ดีและเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการสตรีมมิ่ง Disney+
- 4. NordVPN — ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมน่าเชื่อถือ & ความเร็วที่ดีในทุกเซิร์ฟเวอร์
- 5. Surfshark — เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ (แผนราคาถูก)
🥇 1. ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+

ExpressVPN นั้นเป็น VPN โปรดของผมเลยสำหรับการรับชม Disney+ — ในระหว่างการทดสอบของพวกเรา ผมและเพื่อนร่วมงานนั้นสามารถเข้าถึงเนื้อหาของ Disney Plus ในประเทศของพวกเราได้ตลอดเวลาสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา โรมาเนีย และสเปน และก็เนื่องจากเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ของ ExpressVPN (3,000+ เซิร์ฟเวอร์ ใน 90 กว่าประเทศรวมถึงประเทศไทย) ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะสามารถเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศของพวกเขาได้ สำหรับการเข้าถึงเนื้อหาของ Disney Plus ในประเทศ
ExpressVPN นั้นมีโปรโตคอล Lightway เป็นของตัวเอง ซึ่งจะช่วยรักษาระดับความเร็วสูงสำหรับการสตรีมมิ่ง — วิดีโอความชัดระดับ HD ของผมก็โหลดเร็วเสร็จในทันทีไม่มีการบัฟเฟอร์ ส่วนถ้าเป็น 4K ก็จะมีการโหลดเป็นเวลา 1–2 วินาที นอกจากนั้นแล้วผมก็ชอบมากที่ ExpressVPN มาพร้อมกับ ตัวทดสอบความเร็วแบบบิ้วท์อิน ผมจึงสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดสำหรับดู Disney+ ได้
นอกจากมันจะเป็นตัวเลือกอันดับแรกสุดสำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+ ของผมแล้ว ExpressVPN ก็ยังเหมาะมาก ๆ สำหรับแอปสตรีมมิ่งอื่น ๆ อีกด้วย — มันเป็น VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Netflix, Amazon Prime, Hulu, HBO Max และอีกกว่า 60 เว็บไซต์สตรีมมิ่ง ExpressVPN นั้นยังเป็น VPN ที่ดีมาก ๆ สำหรับการ torrent อีกด้วย
ExpressVPN นั้นยังใช้งานง่ายอีกด้วย ใช้เวลาเพียงแค่ 2–3 นาที ผมก็ติดตั้งแอปบนเดสก์ท็อป มือถือ และสมาร์ททีวีเสร็จแล้ว หน้าอินเทอร์เฟซก็เข้าใจง่าย ใช้งานสะดวก รองรับภาษาไทย และผมก็สามารถเชื่อมต่อไปยังสหรัฐอเมริกาได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที นอกจากนี้ผมก็ชอบมากเลยที่พวกเราสามารถสร้างแอปทางลัดแบบคลิกเดียวได้หลังจากที่เราเชื่อมต่อกับ ExpressVPN แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ผมสร้างทางลัดสำหรับ Disney+ เพื่อที่ผมจะเปิดเข้าถึงเว็บไซต์สตรีมมิ่งได้อย่างง่ายดายภายใน 1 คลิก
นอกจากนี้ผมก็ยังชอบมากที่ ExpressVPN มี split tunneling สำหรับแอปของ Windows, Android, macOS และก็เราเตอร์ บน PC Windows 10 ของผมเนี่ย ผมสามารถรักษาระดับความเร็วในการสตรีมมิ่งได้ด้วยการใช้งาน Disney+ ผ่าน ExpressVPN และก็ส่งทราฟฟิคการเข้าเว็บผ่านทาง ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัยแล้ว ExpressVPN นั้นก็มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เคร่งครัด ซึ่งได้รับการตรวจสอบและยืนยันจากทีมงานอิสระมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีการป้องกันการรั่วไหลข้อมูลอีกด้วย — เราได้ลองทำการทดสอบการรั่วไหลของข้อมูลถึง 10 กว่าครั้งและก็ไม่เคยมีข้อมูลรั่วไหลจริงเกิดขึ้นเลย นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยขั้นสูงอย่าง perfect forward secrecy (เปลี่ยนคีย์การเข้ารหัสของคุณสำหรับการเชื่อมต่อในแต่ละครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้แฮ็กเกอร์เข้าถึงคีย์ในอดีตหรือในอนาคต) และก็เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only (พวกเขาจะไม่เก็บข้อมูลบนฮาร์ดไดรฟ์และข้อมูลทั้งหมดก็จะถูกลบในแต่ละครั้งที่มีการรีเซ็ตเซิร์ฟเวอร์)
ExpressVPN อนุญาตให้เชื่อมต่อพร้อมกัน 8 การเชื่อมต่อ โดยมีราคาแพลนรายเดือนและรายปีเริ่มต้นที่ US$6.67 / เดือน ถึงแม้ว่าราคาอาจจะสูงเล็กน้อย แต่ในภาพรวมแล้ว ExpressVPN ก็มีความคุ้มค่าดีที่สุด (และแพลนระยะยาวของพวกเขาก็มักจะแถมเดือนในการให้บริการฟรีอีกด้วย) ExpressVPN มีการรับประกันคืนเงินในทุก ๆ แพลนภายในระยะเวลา 30 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ ExpressVPN ของพวกเรา
🥈 2. Private Internet Access — ดีเยี่ยมสำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+ บนอุปกรณ์ Android และ iOS

Private Internet Access (PIA) มีความเร็วสูงมาก มีความปลอดภัยแน่นหนา มีแอปมือถือที่เลือกปรับแต่งได้เยอะ พร้อมสามารถแสดงผลเป็นภาษาไทยได้ PIA มีเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่ง Disney Plus ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา อินเดีย และอิตาลีโดยเฉพาะ แต่เซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ทั้งหมดของพวกเขาก็ใช้งานกับ Disney Plus ได้เช่นกัน
ผมชอบแอป Android และ iOS ของพวกเขามาก เพราะคุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้ถึง 20 กว่าแบบ รวมถึงการเปลี่ยนระดับการเข้ารหัสไปเป็น 128-bit AES (มันอาจจะมีความเร็วสูงกว่าเล็กน้อยเทียบกับ 256-bit AES) การเปลี่ยนโปรโตคอล (WireGuard นั้นมีความเร็วสูงสุดสำหรับผม แต่เพื่อนร่วมงานของผมที่สหราชอาณาจักรบอกว่า OpenVPN นั้นเร็วที่สุดสำหรับเขา) และมีให้คุณเลือกอนุญาตก่อนการเชื่อมต่อไปยังเครือข่าย Wi-Fi ที่อาจไม่ปลอดภัย (สำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+ ที่สนามบิน โรงแรม หรือร้านกาแฟ)
ถึงแม้ว่า PIA จะรักษาระดับความเร็วที่สูงมาก ๆ ได้ แต่มันก็ยังช้ากว่า ExpressVPN เล็กน้อย วิดีโอความชัดระดับ HD ของผมนั้นโหลดเสร็จได้ในทันที แต่วิดีโอ 4K ใช้เวลาโหลดประมาณ 3-4 วินาที อย่างไรก็ตาม หลังจากที่วิดีโอเริ่มแล้ว ผมก็ไม่เจอกับการบัฟเฟอร์หรือสิ่งรบกวนใด ๆ อีกเลย
PIA นั้นใช้งานง่าย — มันง่ายมากที่ผมจะค้นหาและเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกา ผมยังชอบอีกด้วยที่ PIA มีรายการ Latency ให้ดูด้วย (เวลาที่ใช้ในการส่งสัญญาณจากอุปกรณ์ของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์) โดยมีให้ดูสำหรับทุกเซิร์ฟเวอร์ และก็ใช้ระบบโค้ดสีทั่วไปในการสื่อความ (เขียวคือเร็ว เหลืองคือปานกลาง และแดงคือช้า) เพื่อช่วยให้คุณค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่า latency ต่ำสุดได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ความเร็วที่สูงที่สุด
PIA ใช้งานได้ร่วมกับ Disney Plus และบริการสตรีมมิ่งชั้นรายอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง Netflix, Hulu, Amazon Prime, และ BBC iPlayer
เมื่อพูดถึงเรื่องฟีเจอร์ความปลอดภัย PIA ก็มีเซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only และ perfect forward secrecy และถึงแม้ว่านโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของพวกเขาจะยังไม่เคยถูกตรวจสอบ แต่ก็ได้รับการยืนยันแล้วหลายครั้งผ่านเอกสารคดีที่ใช้ในศาล และ PIA ก็ยังมี split tunneling และตัวบล็อกโฆษณาอีกด้วย
Private Internet Access อนุญาตให้เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 0 การเชื่อมต่อและก็มีแพลนรายเดือนกับรายปี (ราคาเริ่มต้นที่ US$2.19 / เดือน) นั้นเป็นราคาที่ เข้าถึงได้มากที่สุดสำหรับแพลน VPN ที่เปิดให้บริการจากแบรนด์ต่าง ๆ แพลนของ PIA ทั้งหมดนั้นมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
รับบริการจาก Private Internet Access เลย
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Private Internet Access ของพวกเรา
🥉 3. CyberGhost VPN — ความเร็วดี + สมรรถนะในการสตรีมมิ่งสูง

CyberGhost VPN เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับคนที่พึ่งจะรู้จัก VPN มาใหม่ ๆ — มันมีดีไซน์ที่ดูสะอาดเรียบง่ายและใช้งานสะดวก และก็เปิดให้คุณสร้างรายการเซิร์ฟเวอร์โปรดได้ มันมีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับสตรีมมิ่ง torrent และก็เล่นเกม (นี่เป็นหนึ่งใน VPN สำหรับนักเล่นเกม ที่ผมชอบที่สุด)
ในขณะที่ CyberGhost นั้นมีความเร็วพอ ๆ กันกับ Private Internet Access แต่มันก็ยังเร็วได้ไม่เท่ากับ ExpressVPN. ในการทดสอบของผมนั้น วิดีโอระดับ HD โหลดเสร็จได้ในทันที ในขณะที่วิดีโอระดับ 4k นั้นใช้เวลาโหลด 4 วินาทีก่อนที่จะเริ่มเล่น แต่ผมชอบมากเลยที่ CyberGhost มีระบบการวัดความเร็วที่เจ๋งมาก — มันจะแสดงให้เห็นเปอร์เซ็นต์ของโหลดของเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะช่วยแสดงให้เห็นว่ามีผู้ใช้งานมากขนาดไหนที่กำลังเชื่อมต่ออยู่ในเซิร์ฟเวอร์นั้นในเวลาเดียวกัน (ถ้าโหลดต่ำก็จะมีความเร็วสูง) เพื่อช่วยให้คุณค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุด
CyberGhost เป็น VPN ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีมมิ่ง — พวกเขามีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้สำหรับการสตรีมมิ่งโดยเฉพาะกว่า 50 เซิร์ฟเวอร์ใน 10 กว่าประเทศ (ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร) ซึ่งก็ได้ถูกปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับแอปสตรีมมิ่งชั้นนำ อย่างไรก็ตาม CyberGhost มีเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่ง Disney Plus โดยเฉพาะเพียงแค่ 2 แห่ง (ในอินเดียและอิตาลี) แต่ในการทดสอบของผมนั้น ผมก็สามารถเข้าถึง Disney Plus ได้ในหลาย ๆ เซิร์ฟเวอร์ที่สหรัฐอเมริกา และเพื่อนร่วมงานของผมก็เข้าถึง Disney Plus ได้เช่นกัน
หนึ่งในเรื่องที่ผมชอบมากของ CyberGhost VPN ก็คือฟีเจอร์ Smart Rules (มีให้ใช้งานใน Windows กับ macOS) ซึ่งจะทำให้คุณปรับแต่งการตั้งค่าตอนเปิดใช้งาน CyberGhost VPN ได้ ยกตัวอย่างเช่น ผมสามารถตั้งให้ Disney+ เปิดขึ้นมาอัตโนมัติได้เลยหลังจากที่ผมเชื่อมต่อไปที่เซิร์ฟเวอร์ของ CyberGhost
ถ้าพูดถึงเรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวแล้ว — มีระบบป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลเต็มรูปแบบ มีรายงานเรื่องความโปร่งใสซึ่งจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับการร้องขอข้อมูลผู้ใช้ที่ CyberGhost ได้รับ และจะพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้ยอมให้ข้อมูลใด ๆ เหล่านั้นกับใคร รวมถึงมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงเช่นเซิร์ฟเวอร์ RAM-only อีกด้วย อย่างไรก็ตามเครื่องมือ split tunneling ของ CyberGhost นั้นจะมีให้ใช้งานเฉพาะบน Android (ไม่เหมือน ExpressVPN and Private Internet Access ซึ่งเปิดให้ใช้งาน split tunneling ไดบนหลายแพลตฟอร์ม)
CyberGhost VPN อนุญาตให้เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 7 การเชื่อมต่อและก็มีแพลนราคาเริ่มต้นที่ US$2.19 / เดือน และก็มีการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วันสำหรับแพลนระยะยาว (แพลนรายเดือนรับประกันคืนเงินภายใน 14 วัน)
รับบริการจาก CyberGhost VPN เลย
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ CyberGhost VPN ของพวกเรา
4. NordVPN — ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมน่าเชื่อถือ & ความเร็วที่ดีในทุกเซิร์ฟเวอร์

NordVPN นำเสนอฟีเจอร์ความปลอดภัยหลากหลายที่ช่วยรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต เช่น Threat Protection ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือบล็อกโฆษณา VPN ที่ดีที่สุดและยังกำจัดโฆษณาที่เป็นอันตราย บล็อกการเชื่อมต่อกับไซต์ที่ไม่น่าไว้ใจและปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์ ยิ่งไปกว่านั้น Threat Protection ยังคงทำงานอยู่แม้ว่าคุณจะไม่ได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ซึ่งมันสะดวกมาก
นอกจากนี้ยังมี Dark Web Monitor ซึ่งจะสแกนดาร์กเว็บและแจ้งเตือนหากชื่อบัญชีที่เกี่ยวข้องกับ NordVPN ของคุณรั่วไหล ฉันดีใจมากที่ได้ตัวเลือกนี้ เนื่องจากเป็นหนึ่งใน VPN เดียวในตลาดที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การตรวจสอบดาร์กเว็บ
ยิ่งไปกว่านั้น NordVPN ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมอื่น ๆ เช่น เซิร์ฟเวอร์ VPN สองขั้น ซึ่งเพิ่มการชั้นเข้ารหัสอีกชั้นหนึ่งและยังมาพร้อมกับการพรางการเชื่อมต่ออีกด้วย นอกจากนี้ VPN ยังมีโปรโตคอลของตัวเองที่เรียกว่า NordLynx ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและความเร็วที่รวดเร็ว
NordVPN ยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งรวมถึงการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ เซิร์ฟเวอร์ RAM และ Perfect Forward Secrecy นโยบายการไม่บันทึกการใช้งานของบริการได้รับการตรวจสอบโดยบริการอิสระแล้วว่าเป็นจริงเมื่อหนึ่งในศูนย์ข้อมูลซึ่งเป็นที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ได้ประสบกับปัญหาข้อมูลรั่วไหล แต่ไม่มีข้อมูลผู้ใช้รายใดถูกเผยแพร่ออกมาได้
บริการนี้ยังยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีมและทอร์เรนต์อีกด้วย บริการสามารถเข้าถึงบริการสตรีมยอดนิยมมากมาย เช่น Netflix และ BBC iPlayer และมีเซิร์ฟเวอร์ P2P มากกว่า 4,500 เซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้มีความเร็วที่ดีเหมาะสำหรับการสตรีม ทอร์เรนต์และกิจกรรมออนไลน์อื่น ๆ
ฉันยังคิดว่า NordVPN เป็น VPN สำหรับเล่นเกมที่ดีด้วยฟีเจอร์ Meshnet ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 60 เครื่องผ่านการเชื่อมต่อ VPN ที่เข้ารหัส สิ่งนี้ช่วยให้คุณโฮสต์ปาร์ตี้ LAN เสมือนได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ VPN ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย บริการมีมากกว่า 5,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 55 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) มาพร้อมฟีเจอร์ Split-tunneling และมีแอปที่ใช้งานได้ง่ายสำหรับแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด
NordVPN มีแผนบริการราคาไม่แพง ซึ่งเริ่มต้นที่ US$3.19 / เดือน แผนบริการทั้งหมดมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ NordVPN ของพวกเรา
5. Surfshark — VPN ที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ & มีราคาถูก

Surfshark ให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้โดยไม่มีข้อจำกัด คุณสามารถเชื่อมต่อในกี่อุปกรณ์ก็ได้ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มองหา VPN ที่ดี ฉันดีใจมากที่ได้เห็นตัวเลือกนี้ เพราะมีไม่กี่บริการที่ให้การเชื่อมต่อไม่จำกัดอุปกรณ์
บริการมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ดีมาก รวมถึง CleanWeb ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือบล็อกโฆษณาบน VPN ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พรางการเชื่อมต่อ การเชื่อมต่อ VPN สองชั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และ IP Rotator ซึ่งช่วยเปลี่ยนหมายเลข IP ของคุณเป็นประจำเพื่อให้ผู้อื่นติดตามตำแหน่งของคุณได้ยากขึ้น ผู้ให้บริการยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง เช่น เซิร์ฟเวอร์เฉพาะ RAM และ Perfect Forward Secrecy อย่างไรก็ตามบริการไม่มีการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ (แต่ฉันไม่เคยพบการรั่วไหลในการทดสอบของฉันเลย)
บริการสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหลัก ๆ อย่าง Netflix, HBO Max และ BBC iPlayer ได้ แต่ไม่สามารถเข้าถึง Disney+ ได้ นอกจากนี้ยังรองรับการดาวน์โหลด P2P ในทุกเซิร์ฟเวอร์
บริการมีมากกว่า 3,200 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 90 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทยด้วย) ซึ่งทำให้สามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว พูดถึงเรื่องความเร็วแล้ว ความเร็วในเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่นั้นรวดเร็วมาก แต่ฉันพบกับการชะลอตัวอย่างมากในเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล
Surfshark เป็นหนึ่งใน VPNs ที่มีราคาถูกที่สุดในตลาด มาพร้อมแผนบริการเริ่มต้นที่ US$2.30 / เดือน ดังนั้นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีงบจำกัด แผนบริการทั้งหมดมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Surfshark ของพวกเรา
วิธีการเลือก VPN ที่ดีที่สุดสำหรับดูเนื้อหาของ Disney+ ในปี 2023
- เข้าถึง Disney+ ได้อย่างสม่ำเสมอ VPN ต้องทำงานร่วมกับ Disney+ ได้ทุกครั้ง ในการทดสอบของพวกเรา เพื่อนร่วมงานของผมจากทั่วโลก รวมถึงตัวผมเองสามารถเข้าถึง Disney+ ได้อย่างสม่ำเสมอด้วย VPN ตามรายการนี้
- รองรับการสตรีมมิ่งได้อย่างยอดเยี่ยม ผมจะแนะนำแต่ VPN ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Disney Plus และบริการสตรีมมิ่งที่เป็นที่นิยมรายอื่น ๆ รวมถึง Netflix (สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแค็ตตาล็อกจากประเทศอื่น ๆ ที่เป็นที่นิยม) Amazon Prime และ Hulu ตัวเลือกอันดับหนึ่งของผม ExpressVPN กล่าวอ้างว่าสามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งได้ถึง 65+ ราย
- ความเร็วในการสตรีมมิ่งสูง VPN ทุกรายต่างก็จะลดความเร็วของคุณลงเพื่อเข้ารหัสทราฟฟิค แต่แบรนด์ระดับท็อปนั้นจะรักษาความเร็วเอาไว้ได้ในทุก ๆ เซิร์ฟเวอร์ VPN ทั้งหมดในรายการนี้ทำให้ผมสามารถสตรีมมิ่งด้วยความเร็วสูงที่ไม่ถูกรบกวน
- ใช้งานง่าย ผมจะแนะนำเฉพาะ VPNs ที่ติดตั้งง่ายและมีแอปที่ใช้งานง่าย สำหรับ Android, iOS, Windows, macOS, สมาร์ททีวี เราเตอร์ และอื่น ๆ รวมถึงมีดีไซน์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานและทำให้การเข้าชมเนื้อหาของ Disney+ บนทุกอุปกรณ์นั้นเป็นเรื่องง่าย
- มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูง VPN ทุกตัวในรายการนี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมเช่น การเข้ารหัส 256-bit ปุ่ม kill switch (ตัดการเชื่อมต่อของคุณจากอินเทอร์เน็ต ถ้าการเชื่อมต่อ VPN ของคุณไม่สามารถป้องกันการรั่วไหลของทราฟฟิคได้) มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูล (ป้องกันไม่ให้ VPN บันทึกข้อมูลที่อยู่ IP และทราฟฟิคของคุณ) รวมถึงการป้องกันการรั่วไหล
- คุ้มค่า ผมจะแนะนำเฉพาะ VPN ที่สามารถทำการเชื่อมต่อได้พร้อมกันหลายการเชื่อมต่อ (ExpressVPN อนุญาตให้เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 8 การเชื่อมต่อ) มีแพลนในราคาที่จับต้องได้ พร้อมรับประกันคืนเงินในทุก ๆ แพลน
วิธีดูเนื้อหาของ Disney Plus ได้บนทุกอุปกรณ์
วิธีดูเนื้อหาของ Disney Plus บนอุปกรณ์ PC หรือ Mac ของคุณ
- เลือก VPN ที่ใช้งานร่วมกับ Disney Plus ได้ดี ExpressVPN จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผมสำหรับการรับชม Disney+ เพราะความเร็วในการดาวน์โหลด ความไหลลื่น และก็สตรีมมิ่งได้แบบไม่มีการบัฟเฟอร์
- ดาวน์โหลดและติดตั้ง VPN อย่างเดียวที่คุณต้องทำก็เพียงแค่ทำตามขั้นตอนของ Wizard ติดตั้ง (ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น)
- เปิด VPN และเชื่อมต่อเข้าหาเซิร์ฟเวอร์จากนั้นก็เข้าใช้งานบัญชี Disney Plus ของคุณ แค่นี้คุณก็พร้อมจะดูซีรีส์และภาพยนตร์ Star Wars ตอนโปรดกันแล้ว
วิธีดูเนื้อหาของ Disney+ บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณ
- ติดตั้ง VPN สำหรับใช้งานกับ Disney+ บน Android หรือ iOS ผมแนะนำ ExpressVPN เนื่องจากมันมีแอปที่ใช้งานได้ดีมาก ๆ ทั้งบน iOS และ Android รวมถึงการรองรับเบราว์เซอร์ที่เยี่ยมอีกด้วยPrivate Internet Access ก็มีแอปที่ดีสำหรับการสตรีมมิ่งผ่านมือถือเช่นกัน
- ดาวน์โหลดและติดตั้ง VPN. ถ้าคุณทำตามขั้นตอนของ wizard ในการติดตั้ง มันก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
- เปิด VPN และเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่ จากนั้นก็เปิดแอป Disney+ คุณสามารถดูเนื้อหาของ Disney+ ที่ไหนเมื่อไรก็ได้
วิธีดูเนื้อหาของ Disney+ บนสมาร์ททีวีของคุณ
- เลือก VPN ที่น่าเชื่อถือ ExpressVPN เป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผมเพราะมันติดตั้งกับ สมาร์ททีวี แอนดรอยด์ทีวี และเราเตอร์ได้ง่าย
- สำหรับแอนดรอยด์ทีวี ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป VPN จากแอปสโตร์บนทีวีของคุณ (แอป ExpressVPN บนแอนดรอยทีวีนั้นใช้งานง่ายและก็ใช้เวลาแค่ 1-2 นาที) เปิด VPN และเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการ
- สำหรับอย่างอื่นที่ไม่ใช่แอนดรอยทีวี ดาวน์โหลดและติดตั้ง VPN บนเราเตอร์ของคุณ (ExpressVPN สามารถทำงานบนเราเตอร์ได้และก็มาพร้อมกับขั้นตอนที่ทำตามได้อย่างง่ายดาย) หลังจากที่คุณกำหนดค่า VPN ให้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์แล้ว อุปกรณ์ทั้งหมดของคุณที่เชื่อมต่อเข้ากับเราเตอร์นั้นก็จะถูกเชื่อมต่อเข้ากับ VPN โดยอัตโนมัติ
- เข้าบัญชี Disney+ บนสมาร์ททีวีของคุณ เท่านี้คุณก็พร้อมสตรีมมิ่งเนื้อหาของ Disney+ ได้อย่างสมใจอยากแล้ว
วิธีดูเนื้อหาของ Disney+ บนเครื่องเล่นเกมของคุณ
- เลือก VPN สำหรับ Disney+ ที่ใช้งานกับเราเตอร์ได้ ผมแนะนำ ExpressVPN เพราะความง่ายในการติดตั้งสำหรับเราเตอร์ และความเร็วในการสตรีมมิ่ง
- กำหนดค่า VPN บนเราเตอร์ของคุณ หลังจากที่คุณตั้งค่าบนเราเตอร์เสร็จแล้ว (ExpressVPN จะช่วยสอนคุณแบบทีละขั้นตอน) เครื่องเล่นเกมของคุณก็เชื่อมต่อเข้ากับ VPN เสร็จ
- เชื่อมต่อเราเตอร์ของคุณเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ จากนั้นก็ติดตั้งและเปิด Disney+ บน Xbox หรือ PlayStation ของคุณแค่นั้น — คุณก็สามารถรับชม Disney+ ได้แล้ว
วิธีดูเนื้อหาของ Disney+ บน Amazon Fire Stick ของคุณ
- ซื้อ VPN ที่ใช้งานกับ Disney+ ได้ ExpressVPN นั้นมีแอปสำหรับ Amazon Fire Stick ที่ดีที่สุดที่หาได้ในตอนนี้
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป VPN บน Fire Stick หรือ Fire TV. ขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาเพียงแค่ 1–2 นาที
- เปิดแอป VPN และเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ ทีนี้ก็ถึงเวลาไปหยิบขนมกับเครื่องดื่มและมาเลือกดูภาพยนตร์ Disney สุดคลาสสิกกับครอบครัวกันได้เลย
คำถามที่พบบ่อย
VPN แบรนด์ไหนดีที่สุดสำหรับการเข้าดู Disney+?
ExpressVPN เป็น VPN ที่ผมชอบมากสำหรับการดู Disney+ — มันใช้งานได้ดีสม่ำเสมอทุกครั้ง และก็สามารถรักษาระดับความเร็วในการสตรีมมิ่งได้ดีที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ นอกจากนี้ก็มีแอปที่ใช้งานง่ายสำหรับหลาย ๆ อุปกรณ์ และก็สามารถใช้งานได้ร่วมกับกว่า 65 เว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ เช่น Netflix, Hulu, และ Amazon Prime
อย่างไรก็ตาม VPN แบรนด์อื่น ๆ ในรายการนี้ก็เหมาะสำหรับใช้รับชม Disney+ ได้เช่นกัน Private Internet Access มาพร้อมกับแอปที่สามารถปรับแต่งได้หลายรูปแบบสำหรับมือถือซึ่งจะช่วยเสริมประสบการณ์สตรีมมิ่งของคุณได้เป็นอย่างดี CyberGhost VPN มีหน้าอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานสูง มันจึงเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ VPN มาก่อน
ฉันสามารถใช้ VPN ฟรีสำหรับการเข้าชม Disney+ ได้ไหม?
อาจจะได้ แต่ VPN ฟรีส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Disney+ ได้ ยกตัวอย่างเช่น Proton VPN มีแพลนฟรีที่น่าสนใจ แต่มันไม่รองรับการสตรีมมิ่ง
ผมขอแนะนำให้เลือกใช้ VPN พรีเมียมแทนจะดีกว่า ExpressVPN หรือ Private Internet Access สำหรับการสตรีมมิ่ง Disney+ — ทั้งคู่ต่างก็ใช้งานร่วมกับ Disney+ ได้ และก็มีความเร็วสูงปานสายฟ้าแลบในราคาที่จับต้องได้ พร้อมรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับชม Disney+ ผ่าน VPN นั้นถูกกฎหมายในไทยหรือไม่?
แน่นอนการสตรีมมิ่ง Disney+ ผ่าน VPN นั้นเป็นเรื่องถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บริการสตรีมมิ่งอาจจะปฏิเสธที่จะให้บริการคุณถ้ามีการตรวจพบว่าคุณใช้ VPN เนื่องจากว่าการใช้ VPN อาจจะเป็นการผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งานของ Disney+ ได้ ดังนั้นคุณจึงจะต้องมี VPN ที่ดีที่สามารถทำงานร่วมกับ Disney+ ได้ (ผมแนะนำ ExpressVPN)
VPN ทุกแบรนด์สามารถใช้งานกับ Disney+ ได้หมดเลยไหม?
ไม่ VPN ส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาของ Disney+ ได้ ถ้า Disney+ ตรวจสอบพบว่าคุณใช้ VPN คุณก็อาจจะเจอหน้าที่ว่างเปล่าแทนในตอนที่คุณพยายามเข้าใช้งานบัญชีของคุณ อย่างไรก็ตาม VPN ระดับแนวหน้าอย่าง ExpressVPN นั้นจะสามารถเข้าถึง Disney+ ได้อย่างสม่ำเสมอ