ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือแอประบบควบคุมสำหรับผู้ปกครองเพื่อใช้ติดตามโทรศัพท์ของลูกจากระยะไกลที่ดีที่สุดในปี 2024:
- 🥇 Qustodio: มันจะแสดงให้เห็นว่าลูกของคุณเข้าเว็บไซต์อะไร และค้นหาอะไรใน Google บ้าง และก็ดูอะไรในแอปกับเว็บไซต์ Youtube บ้าง ดูหน้าจอนานขนาดไหน และใช้แอปอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังแสดงตำแหน่งของลูกคุณแบบเรียลไทม์ รวมถึงตำแหน่งก่อนหน้า และคุณจะสามารถตรวจสอบติดตามการโทรและข้อความของพวกเขาได้ แพลนระดับฟรีของ Qustodio นั้นเหมาะสำหรับใช้ติดตามขั้นพื้นฐาน ในขณะที่แพลนแบบจ่ายเงิน (ซึ่งมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน) นั้นจะมีฟีเจอร์ครบถ้วนทั้งหมด
- รับแอประบบควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดเพื่อใช้ติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณ 2024 ได้ที่นี่
สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ ในการช่วยพัฒนาลูกน้อยของคุณ — มันทำให้การเรียนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบโลก การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และการเรียนหนังสือได้เก่งขึ้นนั้นกลายเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังใช้ติดต่อกับเพื่อนและครอบครัวได้ด้วย
โชคไม่ดีที่ มันยังเป็นเรื่องง่ายเช่นกันที่พวกเขาจะบังเอิญไปเจอเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ที่มีพิษภัย ซึ่งมันก็อาจจะเป็นบาดแผลทางใจหรือทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้ และมันก็ยังเป็นเรื่องง่ายอีกด้วยที่พวกเขาจะถูกรังแกทางไซเบอร์
เพราะแบบนั้นการติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณจึงกลายเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น จนเกือบจะถึงขั้นที่เรียกว่าจำเป็น — มันจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลให้ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ไม่ต้องให้ลูกเจอกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
วิธีที่ดีที่สุดที่จะติดตามโทรศัพท์ลูกของคุณจากระยะไกลนั้นก็คือการใช้แอปติดตามลูกสำหรับผู้ปกครอง มันเป็นแอปที่ใช้ตรวจสอบติดตามเพื่อให้คุณสามารถติดตามดูการเข้าเว็บ เข้าแอป และการใช้อุปกรณ์ของลูกคุณได้ แอปสำหรับผู้ปกครองนี้จะประกอบไปด้วย 2 แอปย่อย — แอปติดตามลูก ซึ่งจะติดตั้งไว้ในเครื่องของเด็ก และแอปสำหรับผู้ปกครอง ซึ่งคุณจะติดตั้งไว้ในอุปกรณ์ของคุณเพื่อใช้เฝ้าสังเกตติดตามลูก
เราได้ทำการทดลองใช้งานแอปสำหรับผู้ปกครองมามากมาย และน่าเสียดายที่เราพบว่าส่วนใหญ่แล้วมันติดตามมือถือของเด็กได้ไม่ดีสักเท่าไร — บางครั้งมันติดตามเว็บไซต์ที่เด็กเข้าไม่ได้ บางครั้งก็ติดตามแอปไม่ได้ หรือไม่ก็มีแอปที่มีบัคเยอะจนใช้งานยากเกินไป
แต่แอปสำหรับผู้ปกครองทั้งหมดที่เราพูดถึงในบทความนี้ต่างก็สามารถติดตามการใช้งาน อินเทอร์เน็ต แอป และอุปกรณ์ของเด็กได้เป็นอย่างดี แถมมันยังบอกข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้ง (และอีกหลาย ๆ อย่าง) รวมถึงยังติดตั้งและใช้งานง่ายอีกด้วย
3 ขั้นตอน (ง่าย + เร็ว) ในการติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณจากระยะไกลในปี 2024:
- ค้นหาแอปสำหรับผู้ปกครองดี ๆ สักแอป เราแนะนำ Qustodio เพราะว่ามันมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายเกี่ยวกับการใช้งานเว็บและแอปของลูกคุณ มันยังสามารถติดตามตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันและในอดีต รวมถึงการโทรและส่งข้อความได้ด้วย
- ติดตั้งแอปของผู้ให้บริการบนอุปกรณ์ของลูกคุณ กระบวนการทั้งหมดนั้นใช้เวลาเพียง 2–3 นาทีเพียงแค่ทำตามขั้นตอนของ wizard ติดตั้ง ตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณได้ให้อนุญาตตามที่แอปร้องขอทั้งหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณก็จะไม่สามารถติดตามมือถือของลูกคุณได้อย่างเต็มรูปแบบ
- ติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณจากระยะไกล ใช้แอปสำหรับผู้ปกครองในเครื่องของคุณเพื่อติดตามและจำกัดการเข้าถึงเว็บและแอปของลูกคุณ
สรุปโดยย่อเกี่ยวกับแอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดสำหรับใช้ติดตามโทรศัพท์ลูกของคุณ:
- 1. 🥇 Qustodio — แอปสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดสำหรับใช้ติดตามโทรศัพท์ลูกของคุณในปี 2024 มันจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการใช้เว็บและแอปของลูกคุณ สิ่งที่พวกเขาเปิดดูบน Youtube และพวกเขาใช้อุปกรณ์ของเขานานขนาดไหน รวมถึงที่ตั้งปัจจุบันของเขาและพวกเขาไปที่ไหนมาบ้าง และพวกเขาโทรหาใครรวมถึงส่งข้อความหาใคร
- 2. 🥈 Net Nanny — เหมาะมากสำหรับใช้ติดตามการค้นหาต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตของลูกคุณ มันจะแสดงให้คุณดูได้ว่าลูกของคุณค้นหาอะไร และพวกเขาค้นหามาจากเว็บไหน และก็ยังแสดงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกซึ่งลูกของคุณพยายามเข้าถึงด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเวลาในการใช้หน้าจอ และตำแหน่งแบบเรียลไทม์ รวมถึงสิ่งที่ลูกคุณค้นหาและเปิดดูบน Youtube
- 3. 🥉 Norton Family — ดีที่สุดสำหรับใช้ติดตามโทรศัพท์หลายเครื่อง เปิดให้คุณสามารถติดตามอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดจำนวนเครื่อง และยังบอกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ลูกของคุณเข้าถึง ว่าพวกเขาค้นหาอะไรบน search engine ยอดนิยม รวมถึงเว็บ YouTube และพวกเขาดูอะไรบน YouTube พวกเขาใช้แอปใดบ้าง และพวกเขากำลังอยู่ที่ไหน
- 4. Bark — เหมาะสำหรับการติดตามที่ไม่ก่อการรบกวน เฝ้าสังเกต อีเมล รูปถ่าย วิดีโอ ข้อความ และ 30+ แอป ที่เด็ก ๆ ชอบใช้งาน อย่างเช่น Discord และ Instagram แต่มันจะไม่เปิดให้ดูได้ว่าลูกของคุณทำกิจกรรมอะไรบนโลกออนไลน์บ้าง แต่มันจะแจ้งเตือนคุณถ้ามันตรวจพบอะไรที่มีปัญหาหรือน่าเป็นห่วง
- 5. FamiSafe — เหมาะสำหรับติดตามพฤติกรรมการขับรถของลูกคุณ คุณจะสามารถเข้าถึงรายงานแบบละเอียดเกี่ยวกับการขับรถของลูกคุณ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าพวกเขาไม่ขับรถโดยประมาท และมันก็ยังสามารถติดตามการใช้เว็บและแอป รวมถึงที่ตั้งแบบเรียลไทม์ของลูกคุณได้ด้วย
- เปรียบเทียบระหว่างแอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองเพื่อใช้ติดตามโทรศัพท์ลูกที่ดีที่สุด
🥇 1. Qustodio — แอปสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดเพื่อใช้ติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณจากระยะไกลปี 2024
Qustodio เป็นแอปสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดสำหรับใช้ติดตามโทรศัพท์ของลูกจากระยะไกลในปี 2024 — มันมีแอปสำหรับเด็กที่ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android ซึ่งสามารถติดตามข้อมูลต่าง ๆ ได้ดังนี้:
- กิจกรรมบนเว็บ — คุณจะสามารถเปิดดูได้ว่าลูกคุณเข้าถึงเว็บไซต์ไหนบ้าง และพวกเขาใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์นั้นนานขนาดไหน เราคิดว่ามันเป็นประโยชน์มากที่ Qustodio แสดงข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ลูกคุณเข้าถึงได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่นว่ามันน่าเชื่อถือหรือปลอดภัยสำหรับลูกของคุณหรือไม่ นอกจากนี้เรายังชอบที่มันแสดงคำที่ลูกของคุณใช้ในการค้นหาบน Google บ่อยที่สุดด้วย
- กิจกรรมบนแอป — จะทำให้คุณสามารถติดตามแอปบนมือถือที่ลูกของคุณใช้บ่อยที่สุดและพวกเขาใช้เวลากับแต่ละแอปนานขนาดไหน
- กิจกรรมบน YouTube — จะทำให้คุณรู้ได้ว่าลูกของคุณดูหรือค้นหาอะไรบน YouTube Qustodio นั้นเป็นหนึ่งในแอปสำหรับผู้ปกครองแอปเดียวที่สามารถติดตามกิจกรรมของลูกคุณได้ทั้งบนเว็บไซต์ และ แอป YouTube (และก็ยังเป็น แอปสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดสำหรับช่วยดูแลลูกให้ปลอดภัยบน YouTube ด้วย )
- เวลาการใช้หน้าจอ — เป็นข้อมูลแสดงให้คุณทราบว่าลูกของคุณใช้อุปกรณ์นานขนาดไหน
- ตำแหน่ง — เป็นการแสดงตำแหน่งแบบเรียลไทม์ของลูกคุณ และก็จะแสดงตำแหน่งที่ผ่านมาทั้งหมด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการใช้ระบุตำแหน่งของโทรศัพท์ลูกคุณได้ กรณีที่พวกเขาทำมันสูญหาย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ขอบเขตเสมือน ซึ่งจะทำให้คุณสามารถตั้งค่าขอบเขตที่กำหนดเองได้ (อย่างเช่นบ้านหรือโรงเรียนของลูก) และคุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนตอนที่ลูกของคุณเข้าหรือออกพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนี้ Qustodio ยังเป็นหนึ่งในแอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองแอปเดียวที่เปิดให้คุณติดตามการโทรศัพท์และการส่งข้อความได้ มันจะแสดงให้คุณเห็นว่าลูกของคุณโทรคุยกับใครและส่งข้อความกับใคร และมันจะแสดงเนื้อหาของข้อความนั้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น มันจะเปิดให้คุณสามารถขึ้นบัญชีดำหรือบัญชีขาวรายชื่อติดต่อแต่ละรายการได้ — ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเห็นว่าใครมารังแกลูกของคุณผ่านการส่งข้อความ คุณก็สามารถบล็อกเบอร์โทรของเขาเพื่อไม่ให้คน ๆ นั้นมาติดต่อลูกของคุณได้อีก
นอกจากมันจะมีความสามารถติดตามที่ยอดเยี่ยมแล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้มากมายซึ่งมันจะช่วยให้คุณสามารถจำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์และแอปของลูกคุณได้ เพื่อที่คุณจะได้สร้างสภาพแวดล้อมการใช้งานดิจิทัลที่ปลอดภัยให้กับลูก ยกตัวอย่างเช่น Qustodio จะทำให้คุณสามารถบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมผ่านการใช้หมวดหมู่ที่กำหนดค่ามาล่วงหน้า 25+ หมวดหมู่ — และลูกของคุณก็จะไม่สามารถใช้ VPN ในการหลบหลีกการจำกัดนั้นได้ นอกจากนั้น คุณยังสามารถบล็อกการเข้าถึงหรือตั้งค่าเวลาจำกัดสำหรับแอปที่อาจจะเป็นการรบกวนจนเกินไปเช่น Discord, YouTube หรือ TikTok ได้
แพลนจ่ายเงินของ Qustodio ราคาเริ่มต้นที่ US$4.58 / เดือน เปิดให้คุณสามารถติดตามอุปกรณ์ได้ 5–15 เครื่องและมีฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวถึงด้านบน Qustodio นั้นยังมี แพลนระดับฟรีที่ดีที่สุดอีกด้วย ซึ่งก็เหมาะมากสำหรับใช้ติดตามขั้นพื้นฐานเนื่องจากมันมีการกรองเว็บไซต์ มีการติดตามข้อมูลเวลาหน้าจอ การตั้งเวลาจำกัด และรายงานการใช้งานรายวันกับรายสัปดาห์ — แต่คุณจะติดตามอุปกรณ์ได้เพียง 1 เครื่องเท่านั้น การสั่งซื้อทั้งหมดนั้นมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
สรุป:
Qustodio นั้นเป็นแอปสำหรับผู้ปกครองเพื่อใช้ติดตามโทรศัพท์จากระยะไกลที่ดีที่สุดในปี 2024 มันสามารถติดตามข้อมูลได้มากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเว็บและการใช้แอปของลูก รวมถึงเนื้อหาการเข้าดู YouTube ทั้งทางเว็บและแอป สามารถบอกตำแหน่งที่ตั้งแบบเรียลไทม์รวมถึงข้อมูลในอดีต สามารถบอกระยะเวลาที่ลูกใช้อุปกรณ์ รวมถึงข้อมูลการโทรและการส่งข้อความได้ มันยังมีการกรองเว็บไซต์และแอปที่ดีเยี่ยม และก็สามารถตั้งเวลาจำกัดการใช้งานได้ Qustodio นั้นมีแพลนระดับฟรีที่ดีที่สุด มีแพลนจ่ายเงินในราคาไม่แพง และมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Qustodio ของพวกเรา
🥈 2. Net Nanny — เหมาะมากสำหรับใช้ติดตามการค้นหาบนเว็บของลูกคุณจากระยะไกล
Net Nanny มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมการค้นหาบนมือถือของลูกคุณ มันให้คุณสามารถเปิดดูประวัติการค้นหาได้ด้วย นอกจากนี้ มันยังบอกคุณด้วยว่าการค้นหานั้นเกิดขึ้นเมื่อไร และพวกเขาค้นหามันบนเว็บไหน และใช้อุปกรณ์ไหนในการค้นหา
คุณยังสามารถบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้ด้วยการใช้งานหมวดหมู่ที่กำหนดค่าล่วงหน้า 10+ หมวดหมู่ หรือคุณจะเลือกบล็อกตามแต่ละเว็บไซต์เองก็ได้เช่นกัน — และถ้าลูกของคุณพยายามเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกจำกัดนั้น คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนบนแอปสำหรับผู้ปกครอง ในขณะที่เราคิดว่าการติดตามระดับนี้นั้นก็ดีใช้ได้ แต่เราชอบ Qustodio มากกว่าเพราะว่ามันจะแสดงข้อมูลของเว็บไซต์ทั้งหมดที่ลูกคุณเข้าถึง (รวมถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกซึ่งพวกเขาพยายามเข้าถึง และประวัติการค้นหา)
คุณยังสามารถติดตามระยะเวลาใช้หน้าจอของเด็ก รวมถึงตำแหน่งแบบเรียลไทม์ได้ด้วย รวมถึงมันยังมีฟีเจอร์ที่จะช่วยติดตามการใช้งาน YouTube ของเด็ก ให้คุณรู้ได้ว่าพวกเขาเปิดดูหรือค้นหาอะไรบน YouTube — แต่มันจะใช้งานได้บนเว็บไซต์ YouTube เท่านั้น และไม่สามารถใช้งานกับตัวแอปได้ (ไม่เหมือน Qustodio)
นอกจากการติดตามการใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้ว Net Nanny ยังมีตัวกรองเว็บไซต์ที่ดีมากด้วย เด็ก ๆ จะไม่สามารถใช้ VPN ในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกได้ และคุณก็จะสามารถสร้างตัวกรองแบบกำหนดเองได้ด้วยการใช้รายการคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการให้ Net Nanny คอยเฝ้าติดตาม นอกจากเรานี้ยังชอบมากที่มันมีฟีเจอร์เซ็นเซอร์คำหยาบ มันจะแทนที่คำหยาบบนหน้าเว็บด้วย “####” — เราทดสอบฟีเจอร์นี้มาแล้วด้วยการลองเข้าเว็บเพจ 10+ เว็บเพจที่มีคำหยาบ และมันก็ถูกเซ็นเซอร์ได้ทั้งหมด
Net Nanny มี3 แพลนสมัครสมาชิกจ่ายเงินให้เลือก ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีฟีเจอร์ที่เหมือนกัน แต่จะติดตามจำนวนอุปกรณ์ได้ไม่เท่ากัน แต่การสมัครสมาชิกขั้นพื้นฐานจะเฝ้าติดตามอุปกรณ์ได้เพียงเดสก์ท็อปเท่านั้น ดังนั้นคุณจึงต้องเลือกหนึ่งใน 2 การสมัครสมาชิก Family Protection Pass เพื่อที่จะทำการติดตามอุปกรณ์เคลื่อนที่ของลูก — มีแบบที่ติดตามได้ 5 อุปกรณ์ (US$4.58 / เดือน) ซึ่งเราเห็นว่ามีความคุ้มค่ามากที่สุด หรือแบบ 20 อุปกรณ์ (US$7.49 / เดือน) ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่เท่านั้น มีการรับประกันคืนเงินภายในเวลา 14 วันสำหรับทุกคำสั่งซื้อ
สรุป:
Net Nanny นั้นเหมาะมาก ๆ สำหรับใช้เฝ้าสังเกตการณ์ค้นหาทางออนไลน์บนมือถือของลูกคุณ มันยังแจ้งเตือนให้คุณทราบด้วยหากพวกเขาพยายามเข้าถึงเว็บที่ถูกบล็อก และก็พวกเขาใช้หน้าจอนานขนาดไหน อีกทั้งยังมีข้อมูลที่อยู่แบบเรียลไทม์ พร้อมกิจกรรมบนเว็บไซต์ YouTube ของพวกเขา แถมมันยังมีตัวกรองเว็บไซต์ที่ดีมาก (รวมถึงการเซ็นเซอร์คำหยาบ), มีตัวกรองแอป, การตั้งเวลาจำกัด และอื่น ๆ มีแพลนสมัครสมาชิกแบบจ่ายเงินให้เลือก 3 แบบ แต่มีแค่ 2 แบบเท่านั้นที่สามารถเฝ้าติดตามอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ และก็มีการรับประกันคืนเงินภายใน 14 วันให้ด้วย
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Net Nanny ของพวกเรา
🥉 3. Norton Family — เหมาะที่สุดสำหรับใช้ติดตามหลายอุปกรณ์
Norton Family ช่วยให้คุณสามารถติดตามอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดจำนวนเครื่อง แปลว่ามันเหมาะมาก ๆ สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ หรือในกรณีที่ลูกของคุณมีอุปกรณ์เคลื่อนที่หลายเครื่อง มันสามารถติดตามข้อมูลได้หลากหลาย เช่นกิจกรรมบนเว็บของลูกคุณ (รวมถึงวิดีโอที่พวกเขาดู และการค้นหาของพวกเขา), การใช้งานแอป และตำแหน่งแบบเรียลไทม์
คุณสามารถเปิดดูได้ว่าลูกของคุณเข้าถึงเว็บไซต์ที่คุณขึ้นบัญชีขาวไว้ เว็บไซต์ไหนบ้าง และเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกเว็บไซต์ไหนที่พวกเขาพยายามเข้าถึง แอปสำหรับผู้ปกครองนั้นยังแสดงจำนวนครั้งที่ลูกของคุณพยายามเข้าถึงแต่ละเว็บไซต์, พวกเขาเข้าถึงเมื่อไร และใช้อุปกรณ์เครื่องไหนอีกด้วย
นอกจากนี้เรายังชอบที่ Norton Family นั้นสามารถติดตามดูการค้นหาของเด็กบนเว็บไซต์ YouTube และ search engine อย่าง Google, Bing และ Yahoo! ได้ มันยังสามารถเฝ้าสังเกตได้ด้วยว่าพวกเขาดูอะไรบน YouTube ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่มันก็ขาดความสะดวกเล็กน้อย ตรงที่ฟีเจอร์ติดตามดูการค้นหาและวิดีโอนี้จะใช้งานได้เฉพาะถ้าลูกของคุณใช้งานเบราว์เซอร์ Norton Family เท่านั้น และคุณก็ต้องปิดกั้นไม่ให้ลูกใช้เบราว์เซอร์อื่น ๆ — Qustodio และ Net Nanny ต่างก็สามารถติดตามกิจกรรมได้คล้ายคลึงกัน แต่มันสามารถใช้งานได้บนเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ (และ Qustodio ยังสามารถติดตามกิจกรรมบนแอป YouTube ของลูกคุณได้ด้วย)
Norton Family ยังช่วยให้คุณสามารถติดตามแอปที่ลูกของคุณติดตั้งและถอนการติดตั้งจากอุปกรณ์ได้ด้วย และสามารถดูได้ว่าพวกเขาใช้แอปไหนบ่อยที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น มันยังช่วยคุณติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ของเด็ก พร้อมสถานที่ที่พวกเขาไปมา — และก็ยังมีตัวเลือกให้คุณรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานที่ปัจจุบันของเด็กตามการตั้งเวลาได้ด้วย
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าถึงตัวกรองเว็บที่ดีมาก และก็สามารถบล็อกแอปที่เด็ก ๆ ชอบใช้ได้ เช่น YouTube, Instagram และ Twitter. และก็ยังมีฟีเจอร์การตั้งเวลาและการจำกัดเวลาที่ใช้งานง่าย และมีเวลาสำหรับโรงเรียนซึ่งจะเป็นการแยกตัวกรองเว็บสำหรับใช้ระหว่างเรียนที่โรงเรียน
Norton Family นั้นจะถูกบันเดิลมากับการสมัครสมาชิก Norton 360 Deluxe (US$49.99 / ปี*) และ Norton 360 Advanced (US$54.99 / ปี*)ซึ่งจะรวม Norton 360 ที่เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดมาให้ด้วย หรือคุณอาจจะอยากเลือกใช้ Norton Familyแบบเดี่ยวก็ได้เช่นกัน ในราคาเพียง US$54.99 / ปี* การสั่งซื้อทั้งหมดนั้นมีการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน
สรุป:
Norton Family ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถติดตามอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดจำนวนเครื่อง และมันยังมีข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการท่องเว็บของเด็ก เนื้อหาที่พวกเขาค้นหาและเปิดดูบนเว็บไซต์ YouTube, การใช้งานแอปต่าง ๆ และตำแหน่งแบบเรียลไทม์ของพวกเขา นอกจากนี้คุณยังจะได้รับตัวกรองเว็บและแอปที่ใช้งานได้ดีเยี่ยม การจำกัดและการตั้งเวลา แอปสำหรับผู้ปกครองนั้นถูกบันเดิลมากับการสมัครสมาชิก Norton 360 Deluxe และ Norton 360 Advanced หรือคุณอยากจะเลือกซื้อเดี่ยวก็ได้เช่นกัน และก็มีการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วันให้ด้วย
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Norton Family ของพวกเรา
4. Bark — เหมาะสำหรับการติดตามที่ไม่ก่อการรบกวน
Bark นั้นเป็นแอปสำหรับผู้ปกครองที่ก่อการรบกวนน้อยที่สุดในรายการนี้ — มันไม่ได้เปิดให้คุณดูได้ทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกทำบนโลกออนไลน์ แต่มันจะแจ้งเตือนคุณเฉพาะตอนที่มันตรวจพบเนื้อหาที่เป็นปัญหาหรือน่าเป็นห่วง เพราะแบบนั้นเราจึงคิดว่ามันจะเหมาะที่สุดสำหรับผู้ปกครองเด็กโตที่มีความเชื่อใจพวกเขามากพอแล้ว
แอปสำหรับผู้ปกครอง จะติดตามข้อความ รูปถ่าย วิดีโอ อีเมล การท่องเว็บ และแอปยอดนิยม 30+ แอป รวมถึง Reddit, Discord, Instagram และ TikTok มันจะใช้ machine learning เพื่อสแกนเนื้อหาที่น่าเป็นห่วง (เช่นคำหยาบ, ความรุนแรง, การบูลลี่, ภาวะซึมเศร้า, ประทุษวาจา และอื่น ๆ) และมันจะแจ้งเตือนคุณถ้ามันตรวจเจอเนื้อหาที่น่าเป็นห่วง
Bark ยังเปิดให้คุณดูตำแหน่งของลูกคุณได้ด้วย แต่ไม่ใช่แบบเรียลไทม์ — แต่คุณจะต้องทำการขอให้เช็คอิน ซึ่งลูกของคุณจะต้องเป็นผู้กดตอบเพื่อแบ่งปันตำแหน่งของพวกเขากับคุณ เราคิดว่า Qustodio, Net Nanny และ Norton Family มีการติดตามตำแหน่งที่ดีกว่า เนื่องจากมันสามารถติดตามได้แบบเรียลไทม์ และคุณไม่ต้องขอการเข้าถึงจากเด็ก
คุณยังสามารถเข้าถึงตัวกรองเว็บและแอปและตัวจัดการระยะเวลาใช้หน้าจอได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถตั้งกฎการกรองเว็บและแอปสำหรับช่วงเวลาในแต่ละวัน แต่เราคิดว่าการกรองแอปนี้ยังต้องปรับปรุงอยู่ เพราะมันแค่ทำให้แอปไม่สามารถเชื่อมต่อไปยังเว็บได้ แปลว่าลูกของคุณยังใช้แอปที่ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตได้อยู่ — Qustodio, Net Nanny และ Norton Family สามารถบล็อกการเข้าถึงแอปได้ทั้งหมด
Bark เปิดให้คุณสามารถติดตามอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดจำนวนด้วยแพลนจ่ายเงิน 2 แบบ Bark Jr. (US$49.00 / ปี) และ Bark Premium (US$14.00 / เดือน) เราแนะนำให้เลือกใช้ Bark Premium เพราะมันมาพร้อมกับฟีเจอร์ทั้งหมด ในขณะที่ Bark Jr. จะมีเฉพาะการติดตามตำแหน่ง ตัวจัดการระยะเวลาใช้หน้าจอ และการกรองเว็บและแอป น่าเสียดายที่ไม่มีการรับประกันคืนเงิน
สรุป:
Bark นั้นเหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการติดตามโดยไม่ก่อการรบกวน มันจะไม่แสดงข้อมูลทั้งหมดที่ลูกคุณทำบนโลกออนไลน์ แต่มันจะแจ้งเตือนคุณเฉพาะกรณีที่ตรวจพบเนื้อหาที่เป็นปัญหาหรือน่าเป็นห่วง มันจะสแกนข้อความ อีเมล วิดีโอ รูปถ่าย และ 30+ แอปยอดนิยมสำหรับเด็ก และก็ยังมีการติดตามตำแหน่ง การกรองเว็บและแอป พร้อมตัวจัดการระยะเวลาใช้หน้าจอ มีการสมัครสมาชิกให้เลือก 2 ระดับ แต่ไม่มีการรับประกันคืนเงิน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ Bark ของพวกเรา
5. FamiSafe — เหมาะสำหรับใช้ติดตามพฤติกรรมขับรถของลูกคุณ
FamiSafe นั้นเหมาะสำหรับผู้ปกครองของเด็กที่พึ่งจะหัดขับรถ เนื่องจากมันจะสามารถเฝ้าสังเกตพฤติกรรมขับรถของพวกเขาได้ ตราบใดก็ตามที่พวกเขามีมือถือติดไปด้วย มันจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงรายงานอย่างละเอียดซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลอย่างเช่นระยะเวลาในการขับรถ ความเร็วเฉลี่ยและสูงสุด จำนวนการเบรกกะทันหัน และจำนวนครั้งที่เร่งความเร็วสูง นอกจากนี้ คุณยังสามารถกำหนดค่า FamiSafe ให้แจ้งเตือนคุณถ้าลูกของคุณขับรถอย่างประมาทได้ด้วย — เช่นในกรณีอย่างที่เขาขับรถเกินความเร็วที่คุณกำหนดเอาไว้เป็นต้น
เนื่องจากบุคคลต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปถึงจะขับขี่รถได้อย่างถูกกฎหมายใน ประเทศไทย คุณจะต้องได้รับอนุญาตจากลูกของคุณก่อนจึงจะสามารถติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของพวกเขาผ่าน FamiSafe ได้
และคุณยังสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับเว็บและแอปที่ลูกคุณใช้งานได้ด้วย คุณสามารถดูได้ว่าเว็บไซต์ไหนที่ลูกของคุณเปิดดู และแอปไหนที่พวกเขาใช้งาน และ URL ไหนที่พวกเขาเข้าบ่อยที่สุด และก็ยังมีการติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์อันแม่นยำ
ฟีเจอร์อื่น ๆ ประกอบไปด้วยการจำกัดเวลาและตัวกรองแอปที่ใช้งานแสนจะง่าย ตัวกรองเว็บก็มี แต่มันทำงานได้ดีไม่เท่า Qustodio, Net Nanny หรือ Norton Family FamiSafe ยังอ้างด้วยว่าพวกเขาสามารถเฝ้าติดตามแอป TikTok และ YouTube สดได้ แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์นี้ใช้งานไม่ได้จริง — Qustodio และ Bark สามารถติดตามทั้งสองแอปได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึงแอปอื่น ๆ อีกมากมาย
แพลนจ่ายเงินของ FamiSafe ราคาเริ่มต้นที่ US$9.99 / เดือน และสามารถติดตามอุปกรณ์ได้ 5—10 เครื่อง มีแพลนระดับฟรีให้ใช้งานซึ่งก็สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ได้ทั้งหมด แต่คุณจะติดตามอุปกรณ์ได้เพียง 1 เครื่องและมันจะไม่เก็บการตั้งค่าของผู้ใช้งานเอาไว้ แพลนจ่ายเงินนั้นจะมีการรับประกันคืนเงินภายใน 7 วัน
สรุป:
FamiSafe สามารถติดตามพฤติกรรมขับรถของเด็กโตพร้อมแจ้งเตือนให้ผู้ปกครองทราบได้ถ้าลูกของพวกเขากำลังขับรถโดยประมาท มันยังสามารถติดตามการเข้าชมเว็บไซต์และแอปของลูกคุณได้ด้วย และมันก็มีการติดตามตำแหน่งที่แม่นยำมาก ๆ ผู้บริการนี้มีแพลนระดับฟรีให้ใช้งาน มีแพลนจ่ายเงินที่ราคาไม่แพงพร้อมการรับประกันคืนเงินภายใน 7 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับ FamiSafe ของพวกเรา
เปรียบเทียบแอปสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดเพื่อใช้ติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณจากระยะไกลปี 2024
วิธีการเลือกแอปสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดเพื่อใช้ติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณจากระยะไกลปี 2024
- แอปมือถือสำหรับเด็ก แอปสำหรับผู้ปกครองนั้นต้องมาพร้อมกับแอปสำหรับเด็กบน iOS และ Android — ไม่อย่างนั้น คุณก็จะไม่สามารถติดตามอุปกรณ์เคลื่อนที่ของลูกจากระยะไกลได้
- ฟีเจอร์การติดตามที่จำเป็น แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองนั้นควรจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการใช้งานเว็บและแอปของเด็ก เช่นพวกเขาพยายามเข้าถึงเว็บที่ถูกบล็อกเว็บไหนบ้าง และพวกเขาเข้าถึงแอปไหนบ่อยที่สุด ตัวเลือกชั้นนำทั้งหมดของเรานี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของเด็ก หรือระยะเวลาการใช้งานหน้าจอด้วย
- ฟีเจอร์พิเศษ เราแนะนำให้เลือกแอปสำหรับผู้ปกครองที่มีฟีเจอร์พิเศษซึ่งจะช่วยให้คุณติดตามการใช้งานดิจิทัลของลูกหรือช่วยดูให้เขาปลอดภัยได้ — ยกตัวอย่างเช่น Qustodio สามารถติดตามการโทรศัพท์และข้อความที่ส่งได้ และ FamiSafe มีฟีเจอร์ที่สามารถติดตามพฤติกรรมการขับรถได้
- ใช้งานง่าย คุณควรจะเลือกใช้งานเฉพาะผู้ให้บริการที่มีแอปสำหรับเด็กและผู้ปกครองซึ่งติดตั้งง่าย — โดยเฉลี่ยแล้วคุณไม่ควรจะต้องเสียเวลาเกิน 5 นาทีเพื่อติดตั้งแอปของคุณและของเด็กในเครื่อง และแอปก็ยังต้องมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายอีกด้วย
- คุ้มค่า แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองทั้งหมดในรายการนี้ จะทำให้คุณสามารถติดตามหลายอุปกรณ์ได้พร้อม ๆ กัน (Qustodio ติดตามได้ 5–15 อุปกรณ์ และ Norton Family ติดตามได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์) มีราคาไม่แพง และส่วนใหญ่ก็จะมีแพลนระดับฟรีให้เลือกใช้ ไม่ก็มีให้ทดลองใช้ฟรี หรือมีการรับประกันคืนเงิน
แบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ที่ไม่ติดอันดับ
- Google Family Link แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองนี้ใช้ได้ฟรีอย่างเต็มรูปแบบ และก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้บางส่วน เช่น ระยะเวลาการใช้หน้าจอและตำแหน่งที่ตั้ง แต่ Google Family Link จะติดตามได้เฉพาะอุปกรณ์ Android เท่านั้น, มันไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และเด็กสามารถปิดการติดตามและข้อจำกัดส่วนใหญ่ได้เองเมื่อพวกเขาอายุ 13 ปี
- Apple’s Screen Time แอปสำหรับผู้ปกครองนี้นั้นดีใช้ได้ แต่มันมาพร้อมกับข้อเสียที่ชัดเจน — มันจะติดตามได้เฉพาะอุปกรณ์ iOS และเด็กก็สามารถหลบหลีกบางฟีเจอร์ของมันได้อย่างง่ายดาย เช่นการติดตามแอปหรือการจำกัดเวลาใช้หน้าจอ
- mSpy มันสามารถติดตามได้ทั้งอุปกรณ์ iOS และ Android และยังรวมถึงแอปโซเชียลมีเดีย สามารถติดตามข้อความและอีเมลได้ — แต่เราคิดว่าแอปสำหรับผู้ปกครองนี้มันเป็นการล่วงล้ำเกินไป และมันจะทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกของคุณเอง ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังต้อง root หรือ jailbreak อุปกรณ์ของลูกเพื่อที่จะใช้ฟีเจอร์ติดตามส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องยากและก็จะทำให้เกิดช่องโหว่กับความปลอดภัยของอุปกรณ์ด้วย
มีวิธีการอื่นสำหรับใช้ติดตามโทรศัพท์ของลูกจากระยะไกลหรือไม่?
ไม่เชิง — ซอฟต์แวร์อื่นที่คุณสามารถใช้ติดตามได้ก็คือตัวดักจับคีย์บอร์ด แต่เราไม่แนะนำให้ใช้ มันสามารถดักจับคีย์ที่ลูกคุณพิมพ์ได้ และตัวดักจับคีย์บอร์ดบางรายนั้นสามารถถ่ายภาพหน้าจอได้ด้วย แต่การติดตามแบบนี้จะเป็นการล่วงล้ำมากเกินไปอย่างยิ่ง หากลูกของคุณมาเจอเข้าว่าคุณใช้ตัวดักจับคีย์บอร์ดบนอุปกรณ์ของเขา มันอาจจะทำลายความเชื่อใจที่เขามีให้คุณเป็นอย่างสูง
เราไปเห็นมาด้วยว่ามีบางคนคิดจะใช้ สปายแวร์ แต่เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการติดตามแบบนั้น— มันเป็นการใช้ซอฟต์แวร์อันตราย ที่อาจทำให้เกิดช่องโหว่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของเด็กและความปลอดภัยของอุปกรณ์
ในภาพรวมแล้ว วิธีการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดในการติดตามโทรศัพท์ของเด็กจากระยะไกลคือการใช้ แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครอง เช่น Qustodio, Net Nanny หรือ Norton Family — มันไม่ล่วงล้ำเกินไปเหมือนตัวดักจับคีย์บอร์ด และปลอดภัยกว่าสปายแวร์มาก
คำถามพบบ่อยเกี่ยว
ฉันสามารถติดตามโทรศัพท์ของลูกโดยที่ไม่ให้เขารู้ตัวได้หรือไม่?
ทำได้ เนื่องจากแอปสำหรับผู้ปกครองบางรายนั้นมีฟีเจอร์ที่ป้องกันการตรวจจับ— ยกตัวอย่างเช่น มันสามารถซ่อนไอคอนแอปสำหรับผู้ปกครองและตั้งค่าไม่ให้แสดงผลการแจ้งเตือนบนเครื่องของลูกได้
แต่เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้หลีกเลี่ยงการติดตามแบบนี้ — ถึงแม้ว่าแอปสำหรับผู้ปกครองจะถูกซ่อน แต่ท้ายที่สุด สักวันลูกของคุณก็จะรู้อยู่ดีว่าคุณติดตั้งซอฟต์แวร์แบบนี้บนเครื่องของพวกเขา เพราะพวกเขาจะเข้าถึงเว็บและแอปได้อย่างจำกัด และพวกเขาอาจจะได้ยินคุณพูดถึงเกี่ยวกับเว็บที่เขาเข้าถึง (ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เล่าให้คุณฟัง) และเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มันจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพวกเขา
ฉันควรจะพูดคุยกับลูกไหมเรื่องที่จะทำการติดตามโทรศัพท์ของเขา?
ควร เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะดีกว่าที่คุณจะเปิดเผยกับลูกว่าคุณ ใช้แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครอง บนอุปกรณ์ของพวกเขาเพื่อติดตามการเข้าเว็บและการใช้แอปของพวกเขา อธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่าทำไมคุณถึงคิดว่าเรื่องนี้นั้นมีความสำคัญ ว่ามันจะช่วยให้พวกเขาปลอดภัย และมันจะทำให้คุณรู้ว่าเขากำลังปลอดภัยดี ถ้าคุณติดตามอุปกรณ์ของลูกโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว มันจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณอย่างรุนแรง และอาจจะทำให้พวกเขาไม่เชื่อใจคุณอีกถ้าพวกเขารู้ความจริง
แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองจากระยะไกลแอปไหนที่ติดตามมือถือของลูกได้ดีที่สุด?
Qustodio นั้นเป็นแอปสำหรับผู้ปกครองที่ดีที่สุดในการใช้ติดตามมือถือของลูกในปี 2024 — มันจะช่วยให้คุณสามารถดูได้ว่าลูกของคุณเข้าเว็บอะไรบ้าง, ค้นหาอะไรบน Google บ้าง, ใช้แอปไหนบ่อยที่สุด, พวกเขาดูและค้นหาอะไรบนเว็บและแอปของ YouTube, พวกเขาคุยโทรศัพท์กับใครและส่งข้อความหาใคร พร้อมข้อมูลตำแหน่งแบบเรียลไทม์ของพวกเขา
แต่แอปสำหรับผู้ปกครองอื่น ๆ ในรายการนี้ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน Net Nanny นั้นเหมาะมากสำหรับใช้ติดตามการค้นหาบนเว็บของลูก และ Norton Family นั้นเหมาะสำหรับใช้ติดตามระยะไกลได้ไม่จำกัดจำนวนเครื่อง นอกจากนี้ Bark ก็ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะถ้าคุณไม่อยากติดตามแบบล่วงล้ำเกินไป และ FamiSafe ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใช้ติดตามพฤติกรรมการขับรถ
การติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณจากระยะไกลนั้นถูกกฎหมายหรือไม่?
ถูกกฎหมายในหลายประเทศ ตราบใดก็ตามที่คุณใช้ซอฟต์แวร์ถูกกฎหมาย (อย่างเช่น แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครอง) และใช้มันติดตามอุปกรณ์ของลูกคุณเท่านั้น ซึ่งคุณเป็นเจ้าของถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกของคุณบรรลุนิติภาวะตามกฎหมายในประเทศและพวกเขาซื้อโทรศัพท์เป็นของตัวเองได้ คุณจะไม่สามารถใช้แอปสำหรับผู้ปกครองติดตามอุปกรณ์เขาจากระยะไกลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขาก่อนไม่ได้
เนื่องจากแต่ละประเทศนั้นก็มีกฎหมายที่แตกต่างกันออกไป เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณค้นดูข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายในประเทศของคุณก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าการติดตามโทรศัพท์ของลูกคุณจากระยะไกลด้วยแอปสำหรับผู้ปกครองนั้นเป็นเรื่องถูกกฎหมายที่สามารถกระทำได้ คุณควรจะตรวจสอบดูว่ามีข้อจำกัดด้านใดเกี่ยวกับการติดตามของคุณหรือไม่
ฉันสามารถติดตามโทรศัพท์ของลูกฟรีได้หรือไม่?
มีอุปกรณ์ติดตามฟรีให้ใช้งานได้ แต่เราไม่แนะนำให้ใช้เนื่องจากมันมีความเสี่ยงสูง — เพราะคุณต้องให้อนุญาตมากมายเพื่อให้พวกเขาเข้าถึงข้อมูลของลูกคุณ ซึ่งพวกเขาอาจนำไปส่งต่อให้ผู้โฆษณาเพื่อใช้ทำกำไร
หากคุณต้องการเครื่องมือติดตามฟรีจริง ๆ เราขอแนะนำให้ลองใช้แพลนระดับฟรีของ Qustodio ซึ่งเป็นแพลนระดับฟรีที่ดีที่สุด และก็ดีมาก ๆ สำหรับใช้ติดตามระยะไกลเพราะว่ามันมาพร้อมกับการติดตามเว็บและระยะเวลาการใช้หน้าจอ แต่ท้ายสุดแล้วเราก็ยังแนะนำให้เลือกอัปเกรดไปใช้ หนึ่งในแพลนจ่ายเงินของผู้ให้บริการ เพื่อที่จะเข้าถึงฟีเจอร์การติดตามที่เพิ่มขึ้น เช่นการติดตามการใช้งานแอป, ติดตามการใช้งาน YouTube (เว็บและแอป) และการเฝ้าติดตามการโทรศัพท์และการส่งข้อความ
ฉันสามารถปิดโทรศัพท์ของลูกในตอนกลางคืนจากระยะไกลได้หรือไม่?
ได้ แต่เฉพาะถ้าคุณใช้แอปควบคุมสำหรับผู้ปกครองซึ่งเปิดให้คุณสามารถติดตามและควบคุมอุปกรณ์ของลูกคุณได้ แอปสำหรับผู้ปกครองชั้นนำส่วนใหญ่จะมีฟีเจอร์จำกัดเวลาและตั้งเวลา ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้ลูกคุณใช้งานอุปกรณ์ได้ตอนไหนบ้างและใช้ไม่ได้ตอนไหนบ้าง — ตัวอย่างเช่นตอนเวลานอน
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกแอปสำหรับผู้ปกครองแอปไหน เราแนะนำ Qustodio — มันเปิดให้คุณสามารถจำกัดเวลาการใช้หน้าจอในแต่ละวันโดยเพิ่มลดได้ทีละ 15 นาที และมันยังช่วยให้คุณสามารถจำกัดช่วงเวลาการใช้งานในแต่ละวันหรือสัปดาห์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ มันยังมีการติดตามเว็บและแอปที่ดีเยี่ยม, การติดตามตำแหน่งที่แม่นยำ, การติดตามการโทรศัพท์และข้อความ และอื่น ๆ