รีวิว Avira: สรุปย่อโดยผู้เชี่ยวชาญ
Avira เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสขนาดเล็กและน่าเชื่อถือ ดังนั้นฉันต้องการดูว่าการป้องกันระดับพรีเมี่ยมของพวกเขานั้นคุ้มค่าเงินจริงหรือไม่ (และยังมีส่วนลดล่าสุดของพวกเขาอีกด้วย) และมันมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะปกป้องอุปกรณ์และข้อมูลทั้งหมดของฉันจากภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตทุกชนิดหรือไม่
ฉันทดสอบ Avira Prime — แพคเกจ Avira ที่ทันสมัยที่สุด — ซึ่งมีฟีเจอร์มากมาย รวมถึงเครื่องมือสำหรับความเป็นส่วนตัวและฟีเจอร์การเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ เช่นเกมบูสเตอร์ ส่วนขยายเบราว์เซอร์ขั้นสูงและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการเริ่มต้น ฉันสงสัยเกี่ยวกับฟีเจอร์เหล่านี้เป็นพิเศษ – ฉันได้ทดสอบผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัสและผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก แบรนด์ส่วนใหญ่มีฟีเจอร์หลากหลาย แต่ใช้งานได้ยากและทำงานได้ไม่ดี แต่ Avira ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง — พวกเขานำเสนอบริการที่ใช้งานง่ายและความคุ้มค่ากับความปลอดภัยโดยรวมของผลิตภัณฑ์
ฉันยังต้องการดูว่าความสามารถในการสแกนมัลแวร์ของ Avira จะปกป้องคอมพิวเตอร์ของฉันได้จริง ๆ หรือไม่ หรือจะเป็นการเสียเวลาและเงิน โดยรวมแล้วโปรแกรมแอนตี้มัลแวร์ของ Avira นั้นทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม มันสามารถบล็อกและกำจัดมัลแวร์ในทดสอบของฉันได้ 100% รวมถึงไวรัส สปายแวร์และแรนซัมแวร์ทั้งหมด
นี่คือสิ่งที่ฉันพบ
🏅 อันดับโดยรวม | แอนตี้ไวรัสอันดับที่ 6 จาก 71 |
🔥 ไฟวอล | ❌ |
🎁 แผนฟรี | ❌ |
💸 ราคาเริ่มต้น | US$26.99 / ปี |
💰 การการันตีคืนเงิน | 60 วัน |
📀 ระบบปฏิบัติการ |
รีวิวตัวเต็ม Avira
Avira นำเสนอการป้องกันมัลแวร์ที่ยอดเยี่ยม ฟีเจอร์เสริมที่มีประโยชน์มากมายและแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย ทั้งหมดนี้ในราคาที่ไม่แพง
เครื่องสแกนมัลแวร์ของ Avira มีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่สมบูรณ์แบบ 100% การป้องกันเว็บนั้นยอดเยี่ยมในการตรวจจับและปิดกั้นภัยคุกคามออนไลน์และเครื่องมือจัดการรหัสผ่านนั้นดีพอ ๆ กับเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแบบสแตนด์อโลนส่วนใหญ่
Avira ยังมีแผนบริการฟรีที่ดีที่สุดในอุตสากหรรมและยังมีแผนระดับพรีเมียมที่มีราคาไม่แพงซึ่งให้ความคุ้มค่ามากกว่าแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ส่วนใหญ่
ฟีเจอร์ความปลอดภัยของ Avira
Avira เป็นแอพลิเคชั่นแอนตี้ไวรัส ที่มีขนาดเล็ก
ที่นำเสนอเครื่องมือมากมายที่ใช้งานได้ง่ายสำหรับอุปกรณ์หลักทั้งหมด รวมถึงพีซี, Mac, Android และอุปกรณ์ iOS
Avira มีเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นทั้งหมดที่ฉันคาดหวังจากโปรแกรมป้องกันไวรัสใน 2024 รวมถึง การสแกนแบบเรียลไทม์ การป้องกันการโจมตี จากแรนซัมแร์และการป้องกันเว็บ
ฉันเริ่มการทดสอบ Avira ด้วยการเรียกใช้ “Smart scan” ซึ่งสแกนพีซีในบ้านของฉันอย่างรวดเร็วเพื่อหาไวรัส ปัญหาด้านความปลอดภัย การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ไฟล์ขยะและอื่น ๆ
ฉันประทับใจมากกับ Smart scan ซึ่งมันทำงานได้ภายในไม่กี่นาทีก็พบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว 17 รายการที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของข้อมูลของฉัน รวมถึงการแชร์ตำแหน่งและการอนุญาตแอพพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดของฉันโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังพบข้อมูลเกือบ 1 GB ที่ต้องการล้างข้อมูล แอพพลิเคชั่นที่ล้าสมัย 4 แอพพลิเคชั่นที่ต้องการการอัปเดตและ 3 แอพพลิเคชั่นที่ทำให้การเริ่มต้นคอมพิวเตอร์ของฉันช้าลง
ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว Avira จะเปลี่ยนการตั้งค่าทั้งหมดเหล่านี้ใหม่ แก้ไขปัญหาความเป็นส่วนตัว ล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น อัปเดตแอพพลิเคชั่นที่ล้าสมัยและเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นที่เปิดเมื่อเริ่มต้น
นี่เป็นวิธีในการปรับแต่งการกำหนดค่าระบบและความเป็นส่วนตัวของฉันที่ครอบคลุมและรวดเร็ว
สแกนแอนตี้ไวรัส
สแกนแอนตี้ไวรัสของ Avira บอกว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในโปรแกรมป้องกันไวรัสที่น่าเชื่อถือที่สุด ดังนั้นฉันจึงพยายามหาข้อบกพร่องของพวกเขาอย่างหนัก แต่การทดสอบของฉันพิสูจน์แล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง— เป็นหนึ่งในเครื่องมือการสแกนไวรัสที่ทันสมัยที่สุดและเร็วที่สุดเหนือบริการอื่น ๆ
มันสามารถตรวจพบตัวอย่างมัลแวร์ได้ 100% บนอุปกรณ์ของฉันเมื่อฉันทำการสแกนเต็มรูปแบบ ฉันยังอัปโหลดโฟลเดอร์ตัวอย่างมัลแวร์บนพีซีของฉันอีกครั้งและเปิดแต่ละโปรแกรมเพื่อทดสอบการป้องกันแบบเรียลไทม์ — และมันสามารถบล็อกมัลแวร์ทั้งหมดได้ แม้แต่ตัวอย่างแรนซัมแวร์ขั้นสูง
นอกจากการสแกนเต็มรูปแบบและการสแกนอย่างรวดเร็วนั้นสามารถทำได้ค่อนข้างเร็วแล้ว มันยังมีตัวเลือกการสแกนที่หลากหลาย – ให้เลือกในส่วน จัดการการสแกน ซึ่งทำให้ฉันประทับใจมาก
ฉันสามารถทำการแสกนและกำหนดเวลา:
- สแกน Rootkit
- สแกนไดรฟ์ในระบบ
- สแกนอุปกรณ์ภายนอก
- การสแกนกระบวนการที่ใช้งานอยู่
- และอีกมากมาย …
เครื่องมือสแกนป้องกันไวรัสยังใช้ Protection Cloud ของ Avira – เป็นค่าเริ่มต้นที่ใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อสแกนไฟล์ที่น่าสงสัยโดยอัตโนมัติ นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เครื่องมือการสแกนของ Avira มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ Cloud Protection ที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง แอนติไวรัสอื่น ๆ อย่างเช่นPanda Dome ยังมีเครื่องมือสแกนที่เป็นระบบคลาวด์ เหมือนกัน แต่ไม่รวมเข้ากับเครื่องสแกนแบบเรียลไทม์ – หมายความว่า Panda ต้องการการสแกนแบบคลาวด์แยกต่างหาก การที่ Avira ได้รวมการสแกนคลาวด์เข้ากับการป้องกันแบบเรียลไทม์นั้นถือว่าเป็นข้อดีอย่างยิ่ง – และนั่นคือเหตุผลที่ฉันคิดว่ามันเป็นหนึ่งในเครื่องมือสแกนป้องกันไวรัสที่ดีที่สุด
โดยรวมแล้วเครื่องมือสแกนป้องกันไวรัสของ Avira เป็นหนึ่งในเครื่องมือดีที่สุดในอุตสาหกรรม มันตรวจพบตัวอย่างมัลแวร์ทั้งหมดที่ฉันใช้ในการทดสอบ – รวมถึงไวรัส แรนซัมแวร์และสปายแวร์ทั้งหมด
การป้องกันเว็บ
ฉันผิดหวังเล็กน้อยกับฟีเจอร์การป้องกันเว็บของ Avira ฉันปิดใช้งานการตั้งค่าการป้องกันเว็บของ Microsoft Edge และ Google Chrome เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงการป้องกันเว็บของ Avira เท่านั้นที่ใช้งานอยู่
มันไม่ตรวจพบเว็บไซต์ฟิชชิ่งใด ๆ ที่ฉันเข้าใช้ มันน่าผิดหวังมาก แม้แต่เว็บไซต์ฟิชชิ่งที่แอบอ้างเป็นเว็บไซต์ที่รู้จักกันดีเช่น Facebook, LinkedIn และ Amazon ก็ไม่ได้ถูกบล็อก
อย่างไรก็ตามเมื่อฉันติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ Safe Shopping ของ Avira บน Chrome ฉันทำการทดสอบใหม่ด้วยลิงก์ฟิชชิ่งก่อนหน้านี้และพวกเขาก็สามารถบล็อกมันได้ทั้งหมด ในขณะที่ฉันชอบส่วนขยายเบราว์เซอร์ Safe Shopping มาก แต่ฉันจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าการป้องกันเว็บแบบบูรณาการของ Avira ปกป้องฉันจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายเช่น วิธี Norton’sที่เครื่องมือปกป้องเว็บไซต์ทำ — โดยที่ไม่ต้องติดตั้งส่วนขยาย
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์หลักของ Avira ประกอบด้วย:
- โปรแกรมทำความสะอาดไฟล์ขยะของพีซี
- เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการเริ่มต้น
- เครื่องมืออัปเดตไดรเวอร์
- เครื่องมือจัดการการใช้งานแบตเตอรี่
การสแกนทำความสะอาดเครื่อง PC นั้นทำได้เร็วมาก มันเร็วกว่าเครื่องสแกนไฟล์ขยะของ Norton เป็นสองเท่า! Avira พบไฟล์ขยะมากกว่า 1.3 GB ในฮาร์ดไดรฟ์ของฉัน นอกจากนี้ยังตั้งค่าสถานะไฟล์และโฟลเดอร์บางอย่างที่ฉันอาจต้องการเก็บไว้ ให้ฉันสามารถเลือกได้ว่าฉันต้องการลบหรือไม่
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการเริ่มต้น แสดงให้ฉันเห็นว่าโปรแกรมใดที่ทำให้พีซีของฉันทำงานช้าลง ฉันสามารถหยุดการบู๊ตเมื่อเริ่มต้นระบบหรือลบออกอย่างสมบูรณ์
หลังจากการสแกนฉันสามารถเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพแบบ Standard หรือ Hyper boost ได้ ตัวเลือก Standard ทำให้ความเร็วในการเริ่มต้นของฉันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้หลายวินาที แต่ตัวเลือก Hyper boostนั้นเป็นการทำงานขั้นสูงที่ทำให้ฉันสามารถเพิ่มความเร็วในการบูตได้หลายนาที กระบวนการนี้ใช้เวลาสักครู่ เนื่องจากพีซีของฉันต้องรีสตาร์ท 5 ครั้ง นี่คือเหตุผลที่ฉันแนะนำให้คุณใช้ตัวเลือก Hyper boost ทุก ๆ 3 เดือนหรือมากกว่านั้น
ฉันยังชอบวิธีที่เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการเริ่มต้นติดตามเวลาการโหลดพีซีของฉันและแสดงข้อมูลแบบกราฟ (ภาพหน้าจอด้านล่าง) – ดังนั้นเมื่อฉันรู้ว่าเวลาเริ่มต้นนั้นเพิ่มขึ้นแล้ว ฉันสามารถปรับให้เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย
โดยรวมแล้วฉันมีความสุขมากกับฟีเจอร์การปรับแต่งบนอุปกรณ์ของ Avira – พวกเขาเป็นหนึ่งในเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันไวรัสขั้นสูงที่สุดที่ฉันได้ทำการทดสอบมา ฟีเจอร์ทั้งหมดนั้นใช้งานง่ายและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพีซีของฉันดีกว่าแอนติไวรัสอื่น ๆ เช่น PC Protect และ Panda
VPN
Phantom VPN ของ Avira นั้นไม่ใช่บริการที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทดสอบ แอนติไวรัสอื่น ๆ ที่รวม VPN มีความเร็ว การทำงานและความน่าเชื่อถือที่มากกว่า แต่ VPN ของ Avira นั้นมีฟีเจอร์ที่ดีพอสมควรและช่วยทำให้การเชื่อมต่อของฉันเป็นแบบส่วนตัวเสมอ
Phantom VPN มี
- นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด Avira ไม่ได้ติดตามหรือขายข้อมูลการใช้งานของคุณไปยังบุคคลที่สาม รวมถึงรัฐบาลหรือผู้บังคับใช้กฎหมาย
- ข้อมูลการใช้งานไม่จำกัด ข้อมูลไม่จำกัดสำหรับ ผู้ใช้งาน Prime
- ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์หลายแห่ง สถานที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 40 แห่ง รวมถึงในสหรัฐอเมริกา
มันค่อนข้างช้าเมื่อฉันทำการทดสอบ แม้ว่าจะใช้เซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดก็ตาม ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 10 MB ซึ่งดีสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ แต่อาจไม่ดีพอที่จะสตรีมเนื้อหา HD โดยไม่หยุดชะงัก
สามารถติดตั้ง VPN บนอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดจำนวน – ไม่เหมือนผู้ให้บริการ VPN บางรายที่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการติดตั้งบนอุปกรณ์เพิ่มเติม มันมีตัวเลือกให้ ใช้งาน VPN บน 5 อุปกรณ์พร้อมกัน นั่นหมายความว่าแฟนของฉันและฉันสามารถใช้กับสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป พีซีและ MacBook ของฉันได้ในเวลาเดียวกันแต่มัน ไม่สามารถติดตั้งบนเราท์เตอร์ คอนโซลเกมหรือสมาร์ททีวีได้ ซึ่งหมายความว่าฉันไม่สามารถใช้กับ Xbox One ใหม่ของฉันได้
แต่มันทำงานได้ดีในการทดสอบความเป็นส่วนตัวของฉัน ไม่มีร่องรอยการรั่วไหลของข้อมูล ตำแหน่งของฉันถูกซ่อนอยู่และนโยบายความเป็นส่วนตัว VPN ของ Avira ระบุว่าพวกเขารวบรวมเฉพาะข้อมูลพื้นฐานเช่น ชื่อผู้ใช้และที่อยู่อีเมล ไม่ใช่ประวัติการเข้าชม
Phantom VPN นั้นใช้งานง่าย แต่ไม่ใช่บริการโปรดของฉัน แม้ว่าจะคุ้มค่ามากกว่าเมื่อขายเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจ Avira Prime (ซึ่งต่างจากการซื้อในรูปแบบ VPN แบบเดี่ยว ๆ อโลน) ฉันรู้ว่าฉันจะได้รับ VPN ที่ดีพร้อมฟีเจอร์และข้อมูลที่ไม่จำกัดในราคาถูกกว่าจาก VPN เดี่ยว ๆ เช่น ExpressVPN มันส่วนเสริมที่ดีมากสำหรับแพ็คเกจ Prime
เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
ซึ่งแตกต่างจากตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ เช่น Dashlane และ LastPass,เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Avira นั้นเป็นแบบเว็บทั้งหมด สำหรับฉันแล้วนี่ไม่ใช่ทางที่ดีซักเท่าไหร่ แต่ฉันยินดีที่จะเปิดใจให้กว้างเมื่อทำการทดสอบ เพราะพวกเขามั่นใจว่ารหัสผ่านทั้งหมดจะได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัสระดับธนาคาร
แผงควบคุมนั้นใช้งานง่ายมาก ฉันสามารถป้อนข้อมูลบัตรเครดิต บันทึกโน้ตและดูว่าบัญชีของฉันปลอดภัยแค่ไหนได้ Avira ใช้เครื่องมือละเมิดข้อมูล “Have I Been Pwned” เพื่อตรวจสอบว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลบัญชีออนไลน์หรือไม่ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแบบสแตนด์อโลน ฉันไม่สามารถอัปโหลดภาพได้ — มันเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับฉันมาก เนื่องจากฉันชอบเก็บภาพของเอกสารสำคัญ ๆ เช่นนโยบายการประกันและข้อมูลหนังสือเดินทาง
ส่วนขยายของเครื่องมือจัดการรหัสผ่านนั้นใช้งานง่ายมากและนำเสนอการ บันทึกข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัสผ่านอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ฉันไม่ต้องป้อนรายละเอียดการเข้าสู่ระบบทั้งหมดด้วยตนเองในเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน อย่างไรก็ตามมันมีข้อจำกัดในแง่ของฟังก์ชั่น เนื่องจากฉันไม่สามารถแก้ไขรหัสผ่านของฉันหรือเพิ่มบันทึกผ่านทางส่วนขยายได้ – ฉันต้องใช้แดชบอร์ดออนไลน์เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้
ในขณะที่ฉันชอบแอพพลิเคชั่นเครื่องมือจัดการรหัสผ่านแบบสแตนด์อโลนเช่น Dashlaneฉันคิดว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Avira มีประโยชน์และคุ้มค่าที่จะลอง ถ้าคุณยังไม่มีเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
Avira Safe Shopping
ปุ่ม “ความปลอดภัยของเบราว์เซอร์” ในแท็บ ความเป็นส่วนตัวจะนำฉันไปที่ Chrome Web Store ซึ่งฉันสามารถติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ Safe Shopping ของ Avira ได้
ส่วนขยายนั้น ยอดเยี่ยมสำหรับการบล็อกโฆษณาและลิงค์ติดตามนับร้อยและมันยังช่วยค้นหาราคาที่ถูกกว่าเมื่อช้อปปิ้งออนไลน์ – เช่นเดียวกับส่วนขยายของ Honey แต่ดีกว่า!
ฉันกำลังมองหา Xbox One ใน Amazon และ ส่วนขยาย Safe Shopping ที่ปลอดภัยที่แสดงให้ฉันเห็นเมื่อมีราคาที่ถูกกว่า ในเว็บไซต์อื่น ๆ
ส่วนขยายนั้นติดตั้งง่าย ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในการปิดกั้นเว็บไซต์ไม่ให้ติดตามกิจกรรมออนไลน์ของฉัน ฉันมีความสุขสุด ๆ ที่มันช่วยฉันประหยัดเงินในขณะช็อปปิ้งออนไลน์!
ฟีเจอร์เพิ่มเติม
Avira มีฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย รวมถึงเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ การเข้ารหัสไฟล์และเครื่องมือจัดเรียงข้อมูลบนดิสก์ มี:
- การเข้ารหัสไฟล์ ปกป้องไฟล์และโฟลเดอร์ด้วยรหัสผ่าน
- การทำลายไฟล์ ลบไฟล์ทั้งหมดเพื่อไม่ให้แฮกเกอร์กู้คืนได้
- เกมบู้สเตอร์ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน CPU และประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกม
- เครื่องมือจัดการเครือข่าย แสดงแอพพลิเคชั่นพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและให้ตัวเลือกในการหยุดการเชื่อมต่อบางอย่างหากจำเป็น
- เครื่องมือจัดการกระบวนการ ตรวจสอบกระบวนการทำงานทั้งหมดและหยุดกระบวนการที่ไม่จำเป็น
- เครื่องมือจัดเรียงข้อมูลบนดิสก์ ปรับปรุงการจัดระเบียบและความเร็วของฮาร์ดไดรฟ์
- การกู้คืนไฟล์ กู้คืนไฟล์ที่ถูกลบโดยไม่ได้ตั้งใจ
- และอื่น ๆ อีกมากมาย …
ฉันชอบเกมบูสเตอร์ของ Avira มาก แต่ฉันคิดว่าเกมบูสเตอร์ของ Norton นั้นมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า เพราะการมีวิธีการจัดสรรระบบใหม่เพื่อให้เกมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เกมบูสเตอร์ของ Norton เป็นเครื่องมือเดียวที่อนุญาตให้ฉันเพิ่มการตั้งค่ากราฟิกและเฟรมเรทในขณะเล่นเกมได้
ฟีเจอร์เพิ่มเติมทั้งหมดเหล่านี้ทำงานได้ดีจริง ๆ แต่ฉันไม่ค่อยชอบอินเทอร์เฟซบางส่วนของพวกเขาซักเท่าไหร่ – มันค่อนข้างล้าสมัยเมื่อเทียบกับฟีเจอร์อื่น ๆ ของ Avira อย่างไรก็ตามมันใช้งานได้ดีมาก ๆ และใช้งานง่าย
แผนและราคาของ Avira
Avira นั้นคุ้มค่าอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการใช้งานบนอุปกรณ์หลายชิ้น
Avira Free Security Suite – หนึ่งในแพ็คเกจป้องกันไวรัสฟรีที่ดีที่สุด
แผนฟรีของ Avira ประกอบด้วย:
- เครื่องมือสแกนป้องกันไวรัส
- การป้องกันแบบเรียลไทม์
- Phantom VPN (พร้อมข้อมูลฟรี 500 MB ต่อเดือน)
- การรักษาความปลอดภัยบนเบราเซอร์
- การเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์
- เบราว์เซอร์ Safe Shopping
แผนฟรีของ Avira มีโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ทรงพลังเหมือนกับรุ่นพรีเมี่ยม – มันมีฟีเจอร์คลาวด์สแกน Protection Cloud มันสามารถป้องกันมัลแวร์ทั้งหมดรวมถึง แรนซัมแวร์ ซึ่งแตกต่างจากโปรแกรมป้องกันไวรัสฟรีอื่น ๆ ที่คุณต้องจ่ายสำหรับเวอร์ชั่นพรีเมียมเพื่อรับการป้องกันแรนซัมแวร์
VPN มีข้อจำกัดด้านข้อมูลมาก – ข้อมูลฟรี 500 MB ต่อเดือนนั้นแทบจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้งาน Google ทุกวัน มันอนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุดเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถเลือกตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ได้
ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดสำหรับฉันคือ คุณไม่ได้รับการสนับสนุนทางอีเมลหรือทางโทรศัพท์ คุณจะมีเพียงแค่หน้าคำถามที่พบบ่อย แต่ว่า Free Antivirus Suite ของ Avira นั้นเป็นหนึ่งในแพ็คเกจแอนตี้ไวรัสฟรีที่ดีที่สุด เนื่องจากมีเครื่องมือการตรวจจับมัลแวร์ที่ทรงพลังเหมือนกับในเวอร์ชั่นพรีเมี่ยม
Avira Antivirus Pro – ดี แต่ไม่คุ้มค่า
แพ็คเกจ Antivirus Pro มีเครื่องมือทั้งหมดของเวอร์ชั่นฟรี แต่ยังมี:
- การป้องกันเว็บ
- การป้องกันอีเมล
ฟีเจอร์พิเศษทั้งสองนี้มีไว้เพื่อบล็อกมัลแวร์ ลิงก์ที่เป็นอันตรายและเว็บไซต์ฟิชชิ่ง แต่เนื่องจากการป้องกันเว็บมีประสิทธิภาพต่ำมากในการทดสอบของฉัน ฉันไม่คิดว่าแพคเกจคุ้มค่ากัยค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม – ฉันควรอัปเกรดเป็นแพ็คเกจอื่นเพื่อไม่ให้เสียเงินโดยเปล่า
แพคเกจนี้ครอบคลุม 1, 3, หรือ 5 อุปกรณ์
แพคเกจนี้มีการสนับสนุนลูกค้า ดังนั้นหากคุณประสบปัญหาใด ๆ คุณสามารถติดต่อได้ทางอีเมลหรือโทรศัพท์
Avira Internet Security — ฟีเจอร์เพิ่มเติมในราคาที่ดี
The แพ็คเกจ Internet Security ประกอบด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดในแพ็คเกจก่อนหน้ารวมถึง:
- เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน
- เครื่องมืออัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ
- เครื่องมือแก้ไขไดร์เวอร์ที่ใช้งานไม่ได้
แม้ว่าเครื่องมือจัดการรหัสผ่านจะใช้งานผ่านเว็บเท่านั้น แต่ฉันคิดว่ามันเป็นส่วนเสริมที่คุ้มค่า เครื่องืออัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติและเครื่องมือแก้ไขไดรเวอร์นั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยประหยัดเวลาและความพยายามได้มาก
แพ็คเกจนี้ ครอบคลุมอุปกรณ์แค่ 1, 3 หรือ 5 เครื่อง
ฉันคิดว่าฉันควรจะเลือกซื้อแพ็จเกจนี้มากกว่าแพ็คเกจ Antivirus Pro เพราะมันคุ้มค่ามากกว่า
Avira Prime – แพ็คเกจ Avira ที่ดีที่สุด
Avira Prime ของ Avira มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ แต่ยังรวมถึง:
- Phantom VPN (มีข้อมูลไม่จำกัดและที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 40 ตำแหน่ง)
- การเพิ่มประสิทธิภาพพีซีขั้นสูง
- ฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่น ๆ ทั้งหมดที่กล่าวถึงที่นี่
แพคเกจนี้คุ้มค่าอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันมีฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย ฉันจะเปรียบเทียบกับฟีเจอร์ที่เสนอโดย Norton แพ็คเกจ 360 ที่นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกมากมายรวมถึงเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์
แพ็คเกจ Prime ครอบคลุมอุปกรณ์ขั้นต่ำ 5 อุปกรณ์ และคุณสามารถเลือกที่จะครอบคลุม “จำนวนอุปกรณ์ไม่จำกัด” ได้ แต่ “ไม่จำกัด” นั้นหมายถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือนเดียวเท่านั้น
โดยรวมแล้ว Avira Prime เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่มีอุปกรณ์มากกว่า 5 เครื่องและผู้ที่ต้องการโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มีขนาดเล็กพร้อมเครื่องมือเพิ่มเติมมากมาย
ความง่ายในการใช้งานและตั้งค่าของ Avira
จากโปรแกรมป้องกันไวรัสทั้งหมดที่ฉันทดสอบ Avira เป็นหนึ่งในโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดทั้งในการตั้งค่าและใช้งาน
การติดตั้งใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 15 นาทีซึ่ง รวมถึงตอนที่ฉันต้องรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ ในขณะที่โปรแกรมป้องกันไวรัสอื่น ๆ ที่ฉันทดสอบได้ทำการติดตั้งเร็วกว่า Avira เล็กน้อย อย่างเช่นTotalAVกระบวนการติดตั้งทั้งหมดของ Avira นั้นง่ายมาก — เพียงแค่คลิกไม่กี่ครั้งก็เสร็จสมบูรณ์
ปัญหาเดียวที่ฉันมีคือการเปิดใช้งานการป้องกันแบบเรียลไทม์บนพีซีของฉัน ฉันต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ซึ่งอนุญาตให้ฉันเปิดใช้งานการสแกนแบบเรียลไทม์ ฉันไม่ได้มีปัญหานี้กับ Mac ของฉัน ดังนั้นมันอาจเป็นข้อผิดพลาดแบบครั้งเดียว
ฟีเจอร์ของ Avira นั้นใช้งานง่ายมาก ๆ การใช้การสแกนไวรัสและการใช้ฟีเจอร์การเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์นั้นสามารถทำได้ ง่ายสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย ผู้ใช้ระดับเริ่มต้นอาจจะรู้สึกว่ามันมากเกินไป ในกรณีส่วนใหญ่ ฟีเจอร์สำคัญที่ผู้ใช้มือใหม่ต้องการใช้เช่นเครื่องมือสแกนป้องกันไวรัสและโปรแกรมกำจัดไฟล์ขยะนั้นสามารถใช้งานได้ง่าย
การสแกนตัวเต็มของ Avira นั้นแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อซีพียูของฉันเลย เมื่อเทียบกับโปรแกรมป้องกันไวรัสอื่น ๆ มันใช้พลังงานซีพียูของฉันประมาณ 20-25% เท่านั้นซึ่งไม่มีอะไรที่ฉันทดสอบ Panda และ McAfee บนพีซีของฉันสามารถทำได้เลย ซึ่งทั้งคู่ใช้ CPU ของฉันมากกว่า 50% เมื่อเรียกใช้การสแกนไวรัส ด้วย Avira ฉันสามารถใช้พีซีได้ตามปกติเมื่อทำการสแกนไปด้วย ดังนั้นฉันจึงสามารถแก้ไขวิดีโอและเรียกดู YouTube ได้โดยไม่ทำให้ระบบช้าลง
โดยรวมแล้ว Avira นั้นติดตั้งง่ายและใช้งานง่าย แม้แต่ผู้ใช้มือใหม่ก็สามารถใช้ฟีเจอร์ป้องกันไวรัสและอุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กและเครื่องมือการสแกนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของพีซีในขณะที่ใช้โปรแกรมที่ใช้งาน CPU มาก
แอพพลิเคชั่นแอนตี้ไวรัส Avira สำหรับมือถือ
Avira มีแอพพลิเคชั่นแอนตี้ไสรัสสำหรับทั้ง Android และ iOS
แฟนของฉันและฉันทดสอบทั้งสองเวอร์ชัน – เธอทดสอบเวอร์ชัน Android บน Galaxy S10 ของเธอและฉันทดสอบเวอร์ชัน iOS บน iPhone X ของฉัน
แอพพลิเคชั่น Android ของ Avira ประกอบด้วย:
- การป้องกันมัลแวร์แบบเรียลไทม์บล็อกแอพพลิเคชั่นพลิเคชันมัลแวร์ทั้งหมดไม่ให้ทำงาน
- การสแกนไวรัส ตรวจจับและลบไวรัสที่ติดตั้งอยู่ในระบบปัจจุบัน
- การปกป้องกล้องและไมโครโฟน หยุดแอพพลิเคชั่นจากการเข้าถึงไมโครโฟนและกล้องของ Android โดยไม่ได้รับอนุญาต
- การล็อกแอพพลิเคชั่นปกป้องแอพพลิเคชั่นที่มีข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยรหัสผ่าน
ในขณะที่แฟนของฉันชอบแอพพลิเคชั่น Android ของ Norton เพราะความสะดวกในการใช้งานและการป้องกันการอนุญาตแอพพลิเคชั่นและเธอยังชอบแอพพลิเคชั่น Avira เพราะฟีเจอร์การปกป้องกล้องและไมโครโฟนอีกด้วย
ฉันชอบ Avira เวอร์ชัน iOS มาก โดยเฉพาะเลย์เอาท์ของแอพพลิเคชั่นที่สามารถนำทางในแอพลิเคชั่นได้ง่ายสุด ๆ
แอพพลิเคชั่น iOS ยังมี:
- การป้องกัน Siri บล็อกคำสั่ง Siri จากการเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์ของ Apple
- การแจ้งเตือนการละเมิดข้อมูลประจำตัว ส่งการแจ้งเตือนหากข้อมูลประจำตัวของบัญชีออนไลน์รั่วไหลออกมาเมื่อมีการละเมิดข้อมูล
- การป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิง บล็อกเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายจากการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล
- การสแกนเครือข่าย Wi-Fi ทำให้มั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อ Wi-Fi นั้นปลอดภัยสำหรับการใช้งาน
ในขณะที่ฉันชอบแอพพลิเคชั่น iPhone ของ McAfee สำหรับเครื่องมือกันขโมย แฟนของฉันและฉันทั้งคู่ชอบแอพพลิเคชั่นของ Avira แอพพลิเคชั่นทั้งสองเวอร์ชันมีขนาดเล็กและใช้งานง่าย
การสนับสนุนลูกค้าของ Avira
ตัวเลือกการสนับสนุนลูกค้าของ Avira ประกอบด้วย:
- การสนับสนุนทางอีเมล
- การสนับสนุนทางโทรศัพท์
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฐานความรู้
น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกไลฟ์แชท
ซึ่งเป็นตัวเลือกการสนับสนุนลูกค้าที่ฉันต้องการ
ตัวเลือกการสนับสนุนลูกค้าสำหรับผู้ใช้ฟรีคือส่วน ฐานความรู้ (คำถามที่พบบ่อย) บนเว็บไซต์ของ Avira .ฉันใช้งานทดสอบและแก้ไขปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับการตั้งค่าป้องกันไวรัส จริง ๆ แล้วฉันก็พอใจกับมัน เพราะมันให้คำตอบอย่างละเอียดเพื่อแก้ไขปัญหาของฉันได้
มีหมายเลขโทรฟรีสำหรับผู้ใช้พรีเมียม ซึ่งให้การสนับสนุนลูกค้าระหว่าง 9.00 น. – 23.00 น. เวลายุโรปกลาง สำหรับกว่า 30 ประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกา ประเทศในยุโรปและเอเชียหลายแห่ง ประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงหมายเลขโทรฟรีมีตัวเลือกในการโทรไปยังหมายเลขอื่น แต่จะถูกคิดค่าบริการโทรศัพท์ในพื้นที่
ฉันทดสอบการสนับสนุนทางโทรศัพท์ของพวกเขาและ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการเข้าถึงตัวแทน คนที่ฉันพูดด้วยนั้นเป็นมิตรและตอบคำถามด้วยคำตอบที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์
ผู้ใช้ระดับพรีเมียมจะมีตัวเลือกในการติดต่อฝ่ายสนับสนุนทางอีเมล ฉันทดสอบการสนับสนุนทางอีเมลโดยส่งคำถามสองสามข้อเกี่ยวกับวิธีแก้ไขเมื่อฉันไม่สามารถเปิดการป้องกันแบบเรียลไทม์ได้
มันใช้เวลา 3 วันในการตอบกลับคำขออีเมลของฉัน ซึ่งมันไม่ดีพอ – แม้ว่าฉันคาดหวังว่าการตอบอีเมลจะใช้เวลานานกว่าไลฟ์แชทเล็กน้อย แต่ก็ไม่ควรนานหลายวันแบบนี้ ไม่เพียงแค่นั้น การตอบสนองที่ฉันได้รับก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย พวกเขาบอกว่าฉันใช้ผลิตภัณฑ์ฟรีและพวกเขาไม่สามารถช่วยฉันได้ แต่จริง ๆ แล้วฉันใช้แพ็คเกจที่แพงที่สุดของ Avira นั่นคือPrime
ฉันตอบว่าฉันกำลังใช้แพ็คเกจ Prime และฉันได้รับการตอบกลับ 6 วันต่อมา คำตอบนั้นบอกให้ฉันถอนการติดตั้งและติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ซึ่งฉันได้ลองไปแล้ว (ฉันแก้ไขปัญหาของฉันได้แล้ว) ถ้าฉันเป็นผู้เริ่มต้นที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ฉันคงจะโมโหมากที่ Avira ใช้เวลานานในการตอบคำถามของฉัน (มันนานมากจริง ๆ !) – และคำตอบก็คือการแก้ไขที่ง่ายซึ่งไม่ควรใช้เวลานานในการคิดและเขียนในอีเมล
แต่ว่า ทีมสนับสนุนของ Avira นั้นเป็นประโยชน์อย่างมาก เมื่อฉันขอเงินคืนเต็มจำนวน ตัวแทนลูกค้าตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมงและเริ่มประมวลผลคำขอคืนเงินของฉันทันที ซึ่งฉันก็ได้รับเงินคืนในอีกฉันอีกสองวันต่อมา
โดยรวมฝ่ายบริการลูกค้าของ Avira นั้นถือว่าพอใช้ได้ ในขณะที่ประสบการณ์ของฉันกับการสนับสนุนทางอีเมลค่อนข้างแย่ แต่ฐานความรู้นั้นละเอียดมากและฉันสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ฉันมีจากสิ่งนั้นได้ – มันเป็นหนึ่งในส่วนคำถามที่พบบ่อยที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเห็นจากแบรนด์แอนตี้ไวรัสใด ๆ
Avira เป็น Antivirus ที่ดีเชื่อถือได้และปลอดภัยสำหรับ 2024
Avira เป็นหนึ่งในแอนติไวรัสที่ดีที่สุดที่ฉันเคยใช้มา – พวกเขาสามารถตรวจจับมัลแวร์ได้อย่างเที่ยงตรงและมีซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายและยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ตมากมายให้ใช้งาน
โดยรวมแล้ว Avira ใช้งานได้ง่ายมากทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี สำหรับเครื่องมือสแกนป้องกันไวรัสขั้นสูงแล้ว Avira นั้นมีขนาดเล็กมาก – ใช้พลังงาน CPU น้อยกว่าแอนติไวรัสอื่น ๆ ที่ฉันทดสอบ
ฉันประทับใจกับฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย รวมถึงเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ เครื่องมือจัดการรหัสผ่านและเครื่องมืออัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ VPN นั้นถือว่าใช้ได้ แต่ฉันได้ทดสอบ VPN ที่ดีกว่าที่มาพร้อมกับแพ็คเกจป้องกันไวรัส
Avira นั้นคุ้มค่ากับเงินอย่างมาก แต่ถ้าคุณต้องการแพ็คเกจขั้นสูง(Avira Internet Security หรือ Avira Prime) — นั้นนำเสนอฟีเจอร์ขั้นสูงมากมาย ในราคาที่น่าสนใจ
โดยรวมแล้ว Avira เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ยอดเยี่ยม และมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินเต็มจำนวน 30 วัน ดังนั้นคุณสามารถลองใช้งานและดูว่าเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับคุณหรือไม่
คำถามที่พบบ่อย
การป้องกันไวรัสของ Avira นั้นดีจริงหรือไม่
Avira ได้คะแนนที่สมบูรณ์แบบ ด้วยอัตราการตรวจจับมัลแวร์ 100% ในการทดสอบของฉัน ทั้งเครื่องมือสแกนป้องกันไวรัสและแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจจับและบล็อกไวรัส แรนซัมแวร์ สปายแวร์ มือสร้างโอกาสในการจัดการเพื่อตรวจจับและบล็อกไวรัส แรนซัมแว ร์สปายแวร์ มัลแวร์รูทคิทและอื่น ๆ อีกมากมายได้
Avira ได้รวมเครื่องมือการสแกนเข้ากับเทคโนโลยีคลาวด์เพื่อให้ได้เครื่องมือตรวจจับมัลแวร์ที่รวดเร็ว ขนาดเล็กเบาและครอบคลุม
นอกเหนือจากความแข็งแกร่งแล้ว Avira ยังใช้งานง่าย – ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ต้องการปกป้องอุปกรณ์ของพวกเขา
Avira มีแอนตี้ไวรัสฟรีหรือไม่
Avira นำเสนอโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรี ที่มีเครื่องมือการสแกนที่ทรงพลังเหมือนในเวอร์ชั่นพรีเมี่ยม
มันสามารถสแกนและป้องกันมัลแวร์หลากหลายชนิดได้ และมีการป้องกันแบบเรียลไทม์ (ฟีเจอร์ที่หายากสำหรับแอนตี้ไวรัสฟรี)
แต่เวอร์ชั่นฟรีมีข้อจำกัดในแง่ของฟีเจอร์เพิ่มเติม
ตัวอย่างเช่นคุณสามารถติดตั้ง Phantom VPN ได้ฟรี แต่ขีดจำกัดของข้อมูลของคุณจะต่ำมากและคุณไม่มีตัวเลือกตำแหน่งที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์อื่นให้เลือก ในการเข้าถึงฟีเจอร์ความปลอดภัยทั้งหมดของ Avira คุณสามารถทดลองใช้แพ็คเกจพรีเมียมฟรีเป็นเวลา 30 วันรวมถึง แพ็คเกจ Avira Prime
ของ Avira จะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงไหม
Avira จะไม่ทำให้อุปกรณ์ส่วนใหญ่ช้าลง
มันเป็นซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่มีขนาดเล็กมากและดังที่ปรากฏในผลการทดสอบของฉันมันใช้เพียงเศษเสี้ยวของกำลังการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ของฉัน เมื่อเทียบกับแอนติไวรัสอื่น ๆ
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Avira มีขนาดเล๋กมากก็เพราะว่ามันใช้เทคโนโลยีคลาวด์เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือการสแกน – หมายความว่าไฟล์จะถูกสแกนอย่างปลอดภัยในคลาวด์ของ Avira
VPN ของ Avira ปลอดภัยหรือไม่
ใช่ VPN ของ Avira นั้นสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทราบเกี่ยวกับ Avira Phantom VPN คือ:
- มันมีนโยบายที่ไม่บันทึกที่เข้มงวด หมายความว่าพวกเขาจะไม่ติดตามหรือขายข้อมูลการใช้อินเตอร์เน็ตของคุณ
- ปกป้องหมายเลข IP ของคุณอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเว็บไซต์หรือแฮ็กเกอร์จึงไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แท้จริงของคุณได้
- มันนำเสนอข้อมูลการใช้งานไม่จำกัด แต่สำหรับผู้ใช้ระดับพรีเมียมเท่านั้น
ในขณะที่ Avira มีความสามารถในด้านความเป็นส่วนตัวที่ดีเยี่ยม แต่ในด้านความเร็วยังไม่มากเท่าไหร่ – มันค่อนข้างช้า เมื่อฉันทดสอบกับเซิร์ฟเวอร์หลายตำแหน่ง ทั้งความเร็วการดาวน์โหลดและอัปโหลด
แต่ VPN ของ Avira นั้นขาดฟีเจอร์ที่จำเป็นบางอย่างเช่น kill switch — ซึ่งจะตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งหมดหากการเชื่อมต่อ VPN ถูกขัดจังหวะ ดังนั้นเว็บไซต์หรือแฮ็กเกอร์จึงไม่สามารถดูตำแหน่งของคุณได้ แม้ว่า VPN จะถูกตัดออกไป สำหรับฟีเจอร์เช่น kill switch คุณจะต้องใช้ VPN แบบสแตนด์อโลนอย่างเช่น ExpressVPN แต่สำหรับ VPN พื้นฐานที่ปลอดภัยและไม่มีการบันทึกการใช้งาน Avira นั้นถือว่าค่อนข้างดี