รีวิว Panda: สรุปย่อโดยผู้เชี่ยวชาญ
Panda มีฟีเจอร์ความปลอดภัยเยอะแยะมากมายซึ่งรวมถึงการตั้งค่าการเข้ารหัสไฟล์ VPN เครื่องมือป้องกันขโมย แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง ผู้จัดการรหัสผ่าน… รายการฟีเจอร์นั้นเกือบจะไร้ที่สิ้นสุด! มันยังมีฟีเจอร์ที่ฉันไม่เห็นในแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ส่วนใหญ่ซึ่งรวมถึง “คีย์บอร์ดเสมือน” ที่ป้องกันไม่ให้แฮ็กเกอร์ติดตามการกดแป้นคีย์บอร์ดของคุณ
ฉันเกรงว่า Panda นั้นพยายามจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ “ทำได้หลายอย่าง” — ที่มีฟีเจอร์เสริมมากมายเพื่อพยายามดึงดูดทุกคน แต่ไม่มุ่งเน้นในด้านประสิทธิภาพหรือฟังก์ชันการทำงานของฟีเจอร์ใดเลย
ฉันผิดหวังกับฟีเจอร์เสริมบางฟีเจอร์ แต่แม้ว่าฉันจะมีเรื่องให้พูดมากมายเกี่ยวกับพวกเขา แต่สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดก็คือวัตถุประสงค์พื้นฐานของแอนตี้ไวรัส — ในการป้องกันอุปกรณ์ของฉันจากไวรัสและมัลแวร์ ฉันพบว่าการทดสอบของฉันทำให้ฉันประหลาดใจ
ฉันทดสอบโปรแกรมแอนตี้ไวรัสต่าง ๆ ทั้งสำหรับ PC และ Mac 30 โปรแกรมและฉันพบว่า Panda ทำงานได้ค่อนข้างดีในทุกด้านส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามฉันคิดว่ายังมีอีกหลายส่วนที่พวกเขาอาจพัฒนามันให้ดีกว่านี้ได้ หลังการทดสอบแอนตี้ไวรัสและฟีเจอร์เสริมทั้งหมดของพวกเขา นี่คือสิ่งที่ฉันค้นพบ
ฟีเจอร์ของ Panda Security
Panda อ้างว่าซอฟต์แวร์ความปลอดภัยของพวกเขานั้นตรวจจับภัยคุกคามได้ 100% แม้ว่ามันจะทำงานได้ดีในการทดสอบของฉัน แต่ผลลัพธ์บางอย่างของฉันที่ออกมานั้นก็เป็นสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด
ทั้งแฟนสาวและฉันต่างชอบหน้าจอหลักของ Panda (รูปภาพข้างต้น) มันสะอาดตาและได้รับการจัดระเบียบมาอย่างดี — ทำให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีสามารถใช้งานมันได้อย่างง่ายดาย
มีฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมายซึ่งรวมถึง VPN เครื่องมือเข้ารหัสไฟล์ เครื่องมือช่วยเหลือและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ แต่ Panda ติดกับดักของการพยายามรวมฟีเจอร์มากมายที่ใช้งานไม่ได้จริงหรือเปล่า?
สแกนเนอร์แอนตี้ไวรัส
ฉันประทับใจกับอัตราการตรวจจับของสแกนเนอร์แอนตี้ไวรัส มันตรวจพบไฟล์มัลแวร์ ‘.exe’ มากถึง 95% ของ PC ในระหว่างการสแกนครั้งแรกของฉัน
มีตัวเลือกในการสแกน 3 ตัวเลือก:
- พื้นที่สำคัญ สแกนความจำ PC การดำเนินการปัจจุบันและพื้นที่อื่น ๆ ที่ไวรัสมักไปซ่อนตัวอยู่
- การสแกนแบบเต็มรูปแบบ สแกน PC ทั้งหมด
- การสแกนแบบกำหนดเอง สแกนไฟล์และโฟลเดอร์ที่เฉพาะเจาะจง
Panda บอกว่าพวกเขาใช้ข้อมูลขนาดใหญ่และกลไกการเรียนรู้เพื่อตรวจจับภัยคุกคามในเชิงรุกก่อนที่พวกมันจะโจมตี แต่เมื่อฉันทดสอบฟีเจอร์การป้องกันตามเวลาจริง มันกลับไม่พบโฟลเดอร์ของไฟล์มัลแวร์ตัวอย่างอื่น ๆ เลยแม้ว่าฉันจะเปิดใช้งานมันเป็นเวลาประมาณ 20 นาทีแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตามมันสามารถปิดกั้นได้ทั้งหมด ยกเว้นหนึ่งในไฟล์ตัวอย่างมัลแวร์ที่ฉันเปิดใช้มัน นอกจากนี้มันยังสามารถปิดกั้นไฟล์แรนซัมแวร์ที่ฉันเปิดใช้งานได้ถึง 100%
สแกนเนอร์ PC ไม่มีความเสถียรอย่างมากในแง่ของความเร็ว — ฉันเปิดการสแกนแบบเต็มรูปแบบหนึ่งครั้งซึ่งมันใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงและมันสแกนเสร็จเพียง 60% เท่านั้น — มันสแกนเสร็จในอีก 5 ชั่วโมงให้หลัง การสแกนแบบเต็มรูปแบบครั้งที่สองใช้เวลามากกว่า 60 นาที ฉันสังเกตเห็นความคืบหน้าในการสแกนที่ค่อนข้างแปลกเช่นกัน — สแกนเนอร์ทำงานเสร็จเพียง 4% แต่แล้วก็กลับมาเป็น 2% บางทีนี่อาจเป็นบัคที่ Panda ต้องแก้ไข
สำหรับการสแกนไวรัสขั้นสูงกว่านี้ Panda มีสแกนเนอร์บนคลาวด์ที่มีชื่อว่า “Panda Cloud Cleaner” ที่คุณสามารถเข้าถึงผ่านส่วน Rescue Kit ได้ นี่เป็นกลไกการสแกนแอนตี้ไวรัสแยกต่างหากที่ใช้เทคโนโลยีบนคลาวด์ในการสแกนเพื่อมองหาภัยคุกคามขั้นสูงกว่าที่แอนตี้ไวรัสทั่วไปอาจตกหล่น
การสแกนบนคลาวด์นี้ทำงานได้รวดเร็วมาก — เร็วกว่าการสแกนแอนตี้ไวรัสปกติมาก มันตรวจพบไฟล์ที่น่าสงสัย 4 ไฟล์ที่อาจเป็นมัลแวร์ ฉันพยายามค้นคว้าชื่อของไฟล์นั้น ๆ และพบว่าพวกมันไม่จำเป็นต้องมีอยู่บน PC ของฉัน ดังนั้นฉันจึงลบมันทิ้งไป
ฉันประทับใจกับความเร็วและผลลัพธ์ของ Panda Cloud Cleaner แต่ฉันไม่แน่ใจว่าทำไม Panda ถึงไม่รวมการสแกนบนคลาวด์เป็นส่วนหนึ่งของการสแกนแอนตี้ไวรัสปกติของพวกเขา เช่นเดียวกันกับที่ Avira ทำ แอนตี้ไวรัสอื่น ๆ อย่าง Avira และ Bitdefender ผสานรวมการสแกนบนคลาวด์เข้ากับกลไกการสแกนของพวกเขา — หมายความว่าฉันไม่ต้องเสียเวลาเพื่อเปิดการสแกนทั้งสองอย่างแยกกัน
ฉันทดสอบสแกนเนอร์แอนตี้ไวรัส macOS ของ Panda บน Macbook ของฉันและมันทำงานได้แย่มาก — เกือบ 6 ชั่วโมงให้หลัง การสแกนแบบเต็มรูปแบบยังสแกนได้ไม่ถึงครึ่ง โดยรวมแล้ว Panda ไม่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ Mac หากคุณกำลังมองหาแอนตี้ไวรัสสำหรับ Mac ให้ข้าม Panda ไปและลองดูแอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Mac
เครื่องมือเข้ารหัสไฟล์และเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร
สามารถใช้งานเครื่องมือเข้ารหัสไฟล์ได้อย่างง่ายดาย
Panda ใช้ Password Depot — ผู้จัดการรหัสผ่านที่มีเครื่องมือเข้ารหัสไฟล์ เมื่อติดตั้งเสร็จ ฉันก็แค่คลิกขวาที่ไฟล์ที่ฉันต้องการเข้ารหัส เลือก Password Depot 12 > เข้ารหัสและเลือกรหัสผ่านเข้ารหัสเพื่อป้องกันไฟล์
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการ:
- ลบไฟล์ต้นทิ้งหลังจากที่มันถูกเข้ารหัสแล้ว
- สร้างไฟล์เก็บถาวรที่จะแตกไฟล์ออกด้วยตัวเอง ดังนั้นผู้คนที่ไม่มี Password Depot จะไม่สามารถถอดรหัสไฟล์ได้
- เก็บรหัสผ่านที่ใช้ถอดรหัสผ่านไฟล์เฉพาะไว้ในผู้จัดการรหัสผ่าน Password Depot
นอกจากนี้ฉันยังสามารถลบไฟล์จาก PC ของฉันได้โดยสมบูรณ์โดยใช้เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร — หมายความว่าแฮ็กเกอร์ที่ใช้วิธีการแฮ็กขั้นสูงจะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ที่ถูกลบได้ นี่เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์เพราะฉันมีเอกสาร Doc ของ Microsoft Word สองสามไฟล์ที่มีรหัสผ่านบัญชีของฉัน การลบไฟล์เหล่านั้นง่ายพอ ๆ กับการถอดรหัสมัน — ฉันต้องคลิกขวาที่ไฟล์ Word doc เลือก Password Depot 12 > ลบและจากนั้นก็คลิกลบในหน้าต่างป๊อปอัพ
Rescue Kit
น้องชายของฉันบังเอิญดาวน์โหลดไฟล์ที่เป็นอันตรายบางอย่างที่ติดตั้งมัลแวร์มากมายใน PC สำหรับเล่นเกมของเขา — รวมถึงสปายแวร์ โทรจัน วอร์ม อะไรก็ตามที่คุณนึกออก เป็นต้น บางทีเขาอาจจะมีมันอยู่บน PC ของเขาอยู่แล้ว นี่หมายความว่าเขาแทบไม่ได้บูสต์ PC ของเขาเลย ปล่อยมันทิ้งไว้เพื่อเล่นเกมหรือท่องเว็บออนไลน์เพียงอย่างเดียว
ดังนั้นฉันจึงใช้ Rescue Kit เพื่อสร้าง “ไดร์ฟ USB ช่วยเหลือ” ขึ้น — หมายความว่าฉันจะสามารถเสียบ USB เข้ากับ PC สำหรับเล่นเกมที่ติดไวรัสของน้องชายฉัน เปิดใช้งาน PC และกำจัดไวรัสหรือมัลแวร์ใด ๆ ออกไปได้
สามารถติดตั้งมันได้ง่าย ๆ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการติดตั้ง Rescue Kit บนไดร์ฟ USB ของฉัน มันใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการให้ Rescue Kit กอบกู้ PC ของน้องชายฉัน มันสามารถตรวจจับและลบมัลแวร์ทั้งหมดได้ — ซึ่งทำให้ฉันโล่งใจอย่างมาก!
ฉันค่อนข้างประหลาดใจว่าบางสิ่งที่มีประสิทธิภาพอย่างมากสามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่ายขนาดนี้ได้อย่างไร — ทำได้เยี่ยมมากเลย Panda!
แอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ส่วนใหญ่ เช่น Norton และ Avira ไม่มีฟีเจอร์แบบนี้ ดังนั้นนี่จึงถือเป็นจุดขายอย่างยิ่งสำหรับฉัน
PC Cleanup
ฉันทดสอบเครื่องมือทำความสะอาดอุปกรณ์มามากมายและแม้ว่าฉันจะไม่คิดว่าเครื่องมือของ Panda เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด แต่มันก็ยังมีประโยชน์
ฉันมี 4 ตัวเลือก:
- ทำความสะอาดพื้นที่บนฮาร์ดไดร์ฟของ PC ของฉัน
- จัดเรียงโปรแกรมที่ฉันเปิดตอนเปิดเครื่องโดยใช้ Boot Manager
- จัดเรียงชิ้นส่วน (จัดเรียงอีกครั้ง) ฮาร์ดไดร์ฟ (ที่ยังไม่ได้รับการจัดเรียง)
- ตั้งเวลาการทำความสะอาดระบบเป็นประจำ
การทำความสะอาดฮาร์ดไดร์ฟนั้นค่อนข้างรวดเร็ว
มันพบไฟล์ขยะมากกว่า 1.2 GB ภายในเวลาน้อยกว่า 60 วินาที
Boot Manager เองก็ใช้งานได้ง่าย เนื่องจากฉันไม่ได้ใช้ Microsoft OneDrive ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจปิดใช้งานมันจากการเปิดใช้งานตอนเปิดเครื่อง ฉันใช้มันบนแล็ปท็อปของแฟนสาว — เธอมีโปรแกรม 18 โปรแกรมเปิดใช้งานตอนเปิดเครื่อง โปรแกรมส่วนใหญ่แล้วเป็นโปรแกรมที่เธอไม่ได้ใช้เลย! ดังนั้นเราจึงเลือกและปิดใช้งานโปรแกรมที่ไม่จำเป็นทั้งหมดซึ่งช่วยลดระยะเวลาการเปิดเครื่องแล็ปท็อปของเธอ (ประมาณ 6 นาที) เป็นประมาณ 60 วินาที — สิ่งนี้ทำให้เธอมีความสุขมาก
Defragmenter ถูกใช้เพื่อพัฒนาการจัดระเบียบและความเร็วของฮาร์ดดิสก์ ดังนั้นมันจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของ PC มัน “จัดเรียง” SSD ฮาร์ดไดร์ฟขนาด 128 GB ของฉันภายในระยะเวลาประมาณ 20 วินาที แต่ฉันไม่เห็นการบูสต์ที่มีนัยสำคัญใด ๆ ในประสิทธิภาพ PC ของฉันเลย — มันทำงานได้ค่อนข้างเร็วอยู่แล้ว
VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน)
VPN มีประโยชน์เพราะพวกมันป้องกันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ — ป้องกันหมายเลข IP ที่แท้จริงของคุณจากการถูกติดตามโดยเว็บไซต์หรือแฮ็กเกอร์
VPN ของ Panda ขับเคลื่อนโดย Hotspot Shield — ผู้ให้บริการ VPN ที่น่าเชื่อถือ
อินเตอร์เฟซผู้ใช้งานนั้นเรียบง่าย แต่ฟังก์ชันการทำงานนั้นค่อนข้างน่ารำคาญใจอยู่สักหน่อย — ฉันต้องยกเลิกการเชื่อมต่อด้วยตัวเองก่อนเลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ใหม่ VPN ที่มาพร้อมกับแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ อย่าง Secure VPN ของ Norton ให้คุณคลิกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่คุณต้องการย้ายการเชื่อมต่อได้เลย
นอกจากนี้มันยังขาดฟีเจอร์ที่สำคัญอย่าง Kill Switch — ซึ่งช่วยป้องกันความเป็นส่วนตัวแม้ว่าการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ VPN จะขาดไป
ผลการทดสอบของฉันนั้นมีทั้งดีและไม่ดี การทดสอบแรกของฉันแสดงให้เห็นถึงความเร็วโดยเฉลี่ยน้อยกว่า 4 Mbps และยังมีระยะเวลา ping ที่สูงอย่างน่าเหลือเชื่อ (เวลาที่เซิร์ฟเวอร์ใช้เพื่อตอบกลับคำขอการเชื่อมต่อ)
แต่การทดสอบครั้งที่สองของฉันแสดงให้เห็นความเร็ว VPN สูงสุดคือความเร็วในการดาวน์โหลดประมาณ 13 Mbps:
นี่ถือว่าพอใช้ได้ แต่มันไม่เร็วเท่า VPN แยกต่างหากอย่าง NordVPN หรือ ExpressVPN
นอกจากนี้ฉันยังทดสอบ VPN นี้สำหรับการรั่วไหล DNS และแม้ว่าการทดสอบของฉันจะแสดงให้เห็นว่าเซิร์ฟเวอร์มากมายสามารถดูหมายเลข IP ที่แท้จริงของฉันได้ แต่เว็บไซต์ของ Hotspot Shield ระบุว่าการทดสอบการรั่วไหล DNS นั้นล้มเหลวในการตรวจสอบข้อมูลที่ส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ของ Hotspot Shield ถูกเข้ารหัสด้วยการเข้ารหัส AES 256-บิต — หมายความว่าไม่สามารถติดตามหมายเลข IP ได้
ฉันตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัว VPN ของ Panda และมันบอกว่ามันไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานใด ๆ เช่น หมายเลข IP หรือประวัติการท่องเว็บ — ทั้งสำหรับ VPN ฟรีและพรีเมียม
โดยรวมแล้ว VPN ของ Panda ทำงานได้พอใช้ แต่ก็ไม่ได้ดี มันยังขาดฟีเจอร์เสริมที่ฉันพิจารณาว่าสำคัญ เช่น Kill Switch ไป แอนตี้ไวรัสอื่น ๆ มี VPN และทั้งหมดทำงานได้ดีกว่ามากในการทดสอบของฉันทั้งในแง่ความเร็ว ความปลอดภัยและฟังก์ชันการทำงานโดยรวม
ฟีเจอร์เสริม
Panda Dome มาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมมากมายซึ่งรวมถึง:
- แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง ตัวเลือกการปิดกั้นเว็บไซต์พื้นฐาน ติดตามตำแหน่งของลูกคุณผ่านอุปกรณ์ Android หรือ iOS
- การป้องกันข้อมูล หยุดแอปไม่ให้เข้าถึงไฟล์บางอย่าง — ถูกใช้เพื่อป้องกันแรนซัมแวร์
- ผู้จัดการรหัสผ่าน ผู้จัดการรหัสผ่านพื้นฐาน ไม่บันทึกข้อมูลความลับโดยอัตโนมัติและจำเป็นต้องมีการกรอกข้อมูลความลับด้วยตัวเองซึ่งใช้เวลานานมาก
- คีย์บอร์ดเสมือน คีย์บอร์ดป๊อปอัพบนหน้าจอซึ่งป้องกันการกดคีย์บอร์ดจากคีย์ล็อกเกอร์ที่อาจเกิดขึ้น
- การป้องกันเว็บไซต์ การตรวจจับเว็บไซต์ฟิชชิ่งและลิงก์ที่เป็นอันตรายและปิดกั้น
- เครื่องมือป้องกันขโมย ติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์ Windows, Android และ iOS ผู้ใช้ Android จะได้รับฟีเจอร์ในการปิดล็อกและล้างเครื่องด้วย
น่าเสียดายที่ฟีเจอร์เสริมบางอย่าง (รวมถึง VPN) ไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ฉันอยากให้มันทำได้ ฟังก์ชันการทำงานส่วนใหญ่ไม่ดีและอินเตอร์เฟซที่ใช้ก็ล้าหลัง
ฉันชอบแนวคิดของคีย์บอร์ดเสมือนเพื่อป้องกันการกดคีย์บอร์ดของฉันจากคีย์ล็อกเกอร์ที่อาจเกิดขึ้น แต่คีย์บอร์ดที่ให้มานั้นต้องมีขนาดใหญ่มากกว่านี้ — ปัจจุบันพวกมันมีขนาดเล็กมากซึ่งทำให้การใช้งานเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ผู้จัดการรหัสผ่านก็ทำงานได้พื้นฐานมากและแม้ว่าฉันจะชอบเครื่องมือเข้ารหัสไฟล์ที่มีมาให้ แต่ฉันก็ต้องกรอกรหัสผ่านและข้อมูลความลับทั้งหมดด้วยตัวเองซึ่งมันใช้เวลานานมาก
นอกจากนี้ Panda ยังจำเป็นต้องพัฒนาการป้องกันฟิชชิ่งของพวกเขาอย่างจริงจัง มันตรวจจับเว็บไซต์ฟิชชิ่งและลิงก์ที่เป็นอันตรายในการทดสอบของฉันได้น้อยกว่า 50% — แม้ว่าจะเป็นหน้าเข้าสู่ระบบ PayPal และ Amazon ปลอมที่เห็นได้ชัดก็ยังหลีกเลี่ยงฟีเจอร์ Safe Browsing ไปได้
อย่างไรก็ตามเครื่องมือป้องกันขโมยของ Panda ทำงานได้ค่อนข้างดี พวกเขามีความเข้ากันได้กับนาฬิกาสมาร์ทวอชสำหรับ Android ดังนั้นแฟนสาวของฉันจึงสามารถหาตำแหน่ง Galaxy S10 ของเธอจากนาฬิกา Wear OS และปิดล็อกมันจากระยะไกลได้ นอกจากนี้มันยังมีเซ็นเซอร์การเคลื่อนไหวป้องกันขโมยและการถ่ายรูปขโมยมาให้ด้วย — คล้ายกันกับฟีเจอร์ CaptureCam ของ McAfeeฟีเจอร์ป้องกันขโมยที่มีการติดตามตำแหน่งมีให้บริการเฉพาะ iOS และ PC เท่านั้น — ถึงอย่างนั้นมันก็แม่นยำมากตอนที่ฉันทดสอบมันบน iPhone ของฉัน
โดยรวมแล้วฉันมีความสุขกับการป้องกันไวรัสและมัลแวร์ของ Panda ฉันชอบเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรและเครื่องมือเข้ารหัสไฟล์มาก ๆ เพราะมันใช้งานง่าย Rescue Kit เป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของชุด Panda Dome — มันมีประโยชน์ตอนที่ PC ของน้องชายฉันต้องการกำจัดโทรจันและมัลแวร์ต่าง ๆ มากมาย
แต่ฉันไม่ประทับใจกับฟีเจอร์เสริมบางอย่างซึ่งแน่นอนว่ามันต้องได้รับการอัปเดตเพื่อพัฒนาฟังก์ชันการทำงานมากกว่านี้
แผนให้บริการของ Panda Security และราคา
Panda มีราคาแพงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ แม้ว่าแพ็กเกจพื้นฐานที่สุดจะมีราคาที่น่าคบหา แต่พวกมันก็ยังขาดฟีเจอร์ที่ฉันพิจารณาว่าสำคัญไปซึ่งรวมถึงการป้องกันแรนซัมแวร์และบริการลูกค้าทางออนไลน์ — ซึ่งแบรนด์อื่น ๆ ส่วนใหญ่ เช่น Norton และ McAfee มีมาให้ฟรี
คุณสามารถเลือกเพื่อป้องกันอุปกรณ์จำนวน 1, 3, 5, 10 หรือไม่จำกัดอุปกรณ์ก็ได้ Panda มีส่วนลดส่วนลดที่ค่อนข้างมากสำหรับการป้องกันในปีแรก นอกจากนี้พวกเขายังมีนโยบายคืนเงินภายใน 30 วันมาให้ด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้แพ็กเกจใด ๆ ของ Panda เป็นระยะเวลา 30 ได้โดยไม่มีความเสี่ยง
แอนตี้ไวรัสฟรีของ Panda
บางทีแอนตี้ไวรัสฟรีของ Panda อาจเป็นหนึ่งในแอนตี้ไวรัสสำหรับ PC ที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทดสอบ
มันมี:
- การสแกนแอนตี้ไวรัสและการป้องกันตามเวลาจริง ใช้กลไกแอนตี้ไวรัสเดียวกันกับ Panda เวอร์ชั่นพรีเมียม แต่การป้องกันตามเวลาจริงมีให้บริการเฉพาะอุปกรณ์ Windows เท่านั้น
- การป้องกันมัลแวร์ USB หยุดมัลแวร์จากการทำงานผ่านอุปกรณ์ USB
- โหมดสำหรับเล่นเกม ช่วยไม่ให้ประสิทธิภาพของ PC ทำงานช้าลงขณะเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์
- Rescue Kit เครื่องมือช่วยเหลือที่มาพร้อมกับ Panda เวอร์ชั่นพรีเมียม — ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ของ Panda ลงในไดร์ฟ USB และเสียบมันเข้ากับ PC ที่ติดไวรัส
การหาการสแกนตามเวลาจริงที่เป็นฟีเจอร์ฟรีนั้นเป็นเรื่องที่ยาก — ปกติแล้วมันจะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสเวอร์ชั่นพรีเมียมเท่านั้น และในการทดสอบของฉันกลไกการสแกนของเวอร์ชั่นฟรียังทำงานได้ดีพอ ๆ กับเวอร์ชั่นพรีเมียม
ฉันมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้พบว่า Panda มี Rescue Kit มาให้ในเวอร์ชั่นฟรีด้วย ขอย้ำอีกครั้งว่ามันทำงานได้เหมือนกับเวอร์ชั่นพรีเมียมและไม่มีข้อจำกัดเลย
นอกจากนี้ Panda ยังมี VPN ในเวอร์ชั่นฟรีที่จำกัดการใช้ข้อมูลในการท่องเว็บรายวัน 150 MB มาให้ด้วย
อย่างที่กล่าวข้างต้นว่ามันยังขาดฟีเจอร์ที่สำคัญมากมายไปซึ่งรวมถึงเครื่องมือเข้ารหัสไฟล์และ USB และการสแกนอุปกรณ์ภายนอก การป้องกันแรนซัมแวร์ การป้องกันข้อมูลและแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง
แผนให้บริการพรีเมียมพื้นฐานที่สุด — Panda Dome Essential
แพ็กเกจ Dome Essential ของ Panda จริง ๆ แล้วเป็นแอนตี้ไวรัสฟรีที่กล่าวถึงข้างต้นที่มีส่วนเสริมเพิ่มมานิดหน่อย
นอกจากสแกนเนอร์แอนตี้ไวรัส การป้องกันตามเวลาจริงและ Rescue Kit แล้ว แพ็กเกจนี้ยังมี:
- การป้องกันแอนตี้ไวรัสตามเวลาจริง ใช้งานได้บนอุปกรณ์ Windows, Mac และ Android
- การสแกนอุปกรณ์ภายนอกและ USB สแกนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเมื่อเสียบพวกมันเข้ากับ PC
- การป้องกันเครือข่าย Wi-Fi หยุดอาชญากรทางไซเบอร์จากการแฮ็กการเชื่อมต่อ Wi-Fi
Dome Essential
ยังมี VPN ของ Panda ในเวอร์ชั่นฟรีที่มีการจำกัดข้อมูลรายวัน 150 MB มาให้ด้วย
ราคาของ Dome Essential สำหรับอุปกรณ์เดียวนั้นค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับแพ็กเกจพื้นฐานของแบรนด์อื่น ๆ อย่างไรก็ตามแพ็กเกจพื้นฐานจากคู่แข่งอย่าง Norton และ McAfee มีฟีเจอร์ที่มากกว่าในราคาที่พอ ๆ กัน
แผนให้บริการที่มอบความคุ้มค่ามากที่สุด — Panda Dome Advanced
Panda Dome Advanced มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีให้ในแพ็กเกจ Dome Essential และยังมี:
- การป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงและแรนซัมแวร์
- การป้องกันการโจรกรรมตัวตน
- แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง
แม้ว่าแพ็กเกจนี้จะมีเครื่องมือเพิ่มเติมมาให้ซึ่งรวมถึงการป้องแรนซัมแวร์ แต่มันก็มีราคาถูกกว่าแพ็กเกจ 360 Standard ของ Norton อยู่เล็กน้อย — ซึ่งมี
ฟีเจอร์มากกว่าอย่างการตรวจสอบเว็บมืด ผู้จัดการรหัสผ่านและ VPN ที่ไม่จำกัดข้อมูลการท่องเว็บ
อย่างไรก็ตามแพ็กเกจ Norton 360 Standard ไม่มีแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครองมาให้ ดังนั้นหากคุณมีครอบครัว งั้น Panda Dome Advanced อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ
ไม่คุ้มค่ามากพอ — Panda Dome Complete
แพ็กเกจนี้มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีในแพ็กเกจ Dome Advanced และยังมี:
- การป้องกันข้อมูล
- เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ PC
- ผู้จัดการรหัสผ่าน
- เครื่องมือเข้ารหัสไฟล์
- เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร
แม้ว่าแพ็กเกจนี้จะมีฟีเจอร์มากกว่า แต่ฉันไม่คิดว่าผู้จัดการรหัสผ่านนั้นคุ้มค่าพอสำหรับการจ่ายเงินเพิ่ม
นอกจากนี้การป้องกันสำหรับ 1 อุปกรณ์ยังมีราคาแพงกว่าแพ็กเกจ 360 Deluxe ของ Norton — ซึ่งมีการป้องกันครบวงจรและข้อมูล VPN ไม่จำกัดสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ สูงสุด 5 อุปกรณ์
แผนให้บริการขั้นสูงสุด — Panda Dome Premium
นี่เป็นแพ็กเกจที่ฉันทดสอบใน PC ที่ทำงานที่บ้าน และมันมีฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวถึงข้างต้น นอกจากนี้ Panda Dome Premium ยังมี:
- VPN ที่ไม่จำกัดข้อมูลการท่องเว็บ
- บริการลูกค้าแบบพรีเมียมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการลูกค้าผ่านทางแชทออนไลน์และโทรศัพท์
การใช้การป้องกันเป็นระยะเวลาหนึ่งปีสำหรับหนึ่งอุปกรณ์นั้นมีราคาที่แพงมากกว่าแบรนด์คู่แข่งอื่น ๆ ส่วนใหญ่
มันมีข้อมูล VPN ไม่จำกัด แต่ตามที่ฉันบอกในรีวิวนี้ VPN นั้นทำงานได้ไม่ดีนัก แม้ว่าโดยปกติแล้วบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงจะมีประโยชน์ก็ตาม แต่ประสบการณ์การใช้งานมันของฉันก็ไม่ได้ดีและฉันคิดว่าบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงควรเป็นสิ่งที่มีให้ในทุกแผนให้บริการโดยอัตโนมัติเหมือนกับที่ Norton มี
แต่หากฉันต้องเลือกหนึ่งในแพ็กเกจของ Panda สำหรับการป้องกันที่ครบวงจร ฉันคงจะเลือก Panda Dome Premium
ความง่ายในการใช้งานและการติดตั้ง Panda
Panda เป็นหนึ่งในแอนตี้ไวรัสที่ใช้งานง่ายที่สุด คนที่ไม่มีประสบการณ์ทางด้านเทคนิคมากนักจะสามารถใช้งานฟีเจอร์เสริมทั้งหมดได้อย่างเต็มรูปแบบ
Panda ใช้เวลาในการติดตั้งไม่นาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ฉันใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ฉันชอบหน้าจอหลักมาก ๆ มันได้รับการจัดระเบียบมาอย่างดีพร้อมปุ่มขนาดใหญ่สำหรับแต่ละฟีเจอร์ — บางสิ่งที่ทำให้มันง่ายสำหรับผู้ใช้มือใหม่ ฉันให้แฟนสาวของฉันที่มีไม่ความรู้ทางด้านเทคนิคทดสอบมันและเธอพบว่ามันใช้งานง่ายมาก ๆ นอกจากนี้เธอยังชอบรูปพื้นหลังของหน้าจอด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอยังพบว่าการเปิดใช้งานการสแกนระบบแบบเต็มนั้นยังง่ายด้วยซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าการป้องกันตามเวลาจริงถูกเปิดใช้งานอยู่และสามารถใช้งานเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ได้
สิ่งหนึ่งที่ฉันและน้องชายของฉันต่างชอบเกี่ยวกับ Panda คือโหมดสำหรับเล่นเกม โหมดสำหรับเล่นเกมจะถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่ฉันเปิดใช้งานบางอย่างเต็มหน้าจอไม่ว่าจะเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์ เนื่องจากน้องชายของฉันเป็นเกมเมอร์ตัวยง ดังนั้นฉันจึงให้เขาทดสอบโหมดสำหรับเล่นเกมโดยใช้ Panda เวอร์ชั่นฟรีและเขาบอกว่าระบบแอนตี้ไวรัสไม่ได้ทำให้ PC สำหรับเล่นเกมของเขาทำงานช้าลงในขณะที่เล่น Fornite หรือ Counter Strike
Rescue Kit เองก็ติดตั้งและใช้งานได้ง่ายมาก — ฉันเสียบไดร์ฟ USB ของฉัน ปฏิบัติตามคำแนะนำและมันก็เสร็จสิ้นภายในเวลาน้อยกว่า 60 วินาที น้องชายของฉันบอกว่า “Rescue Kit นั่นช่วยชีวิตเขาเอาไว้จริง ๆ” ตอนที่ฉันใช้ไดร์ฟ USB Rescue Kit ในการกอบกู้ PC ของเขาจากการโจมตีมัลแวร์
อย่างที่ฉันได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ฉันไม่ประทับใจกับฟีเจอร์เสริมบางอย่างซึ่งรวมถึง VPN ผู้จัดการรหัสผ่าน การป้องกันเว็บไซต์และอื่น ๆ หาก Panda สามารถพัฒนาฟังก์ชันการทำงาน ความเร็วและความปลอดภัยของ VPN และทำให้มั่นใจได้ว่าการป้องกันเว็บไซต์จะช่วยป้องกันฉันจากลิงก์อันตรายต่าง ๆ ได้จริง งั้นฉันก็จะจัดอันดับให้ Panda เป็นหนึ่งในแอนตี้ไวรัสที่ฉันชื่นชอบเท่าที่ฉันเคยใช้มา — เพราะกลไกการสแกนและ Rescue Kit เท่านั้น
แอปมือถือ Panda Security
แฟนสาวของฉันและฉันแบ่งหน้าที่ในการทดสอบแอป Panda — ฉันทดสอบเวอร์ชั่น iOS และเธอทดสอบเวอร์ชั่น Android บน Galaxy S10 ของเธอ
แอป Panda เวอร์ชั่น iOS นั้นพื้นฐานมากและไม่มีอะไรที่เหมือนกับเวอร์ชั่นอื่น ๆ ที่ฉันทดสอบ มันมี:
- VPN
- เครื่องมือติดตามอุปกรณ์
มีตัวเลือกในการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าและดูบัญชีของคุณ แต่ทั้งสองตัวเลือกจะนำคุณไปยังเว็บไซต์ของ Panda การติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์นั้นแม่นยำและแอปก็มีการออกแบบที่ดี แต่ฉันรู้สึกว่ามันมีสไตล์มากกว่าสาระ ฉันชอบใช้แอปของ McAfee หรือ Avira เวอร์ชั่น iOS มากกว่า
อย่างไรก็ตามแฟนสาวของฉันค่อนข้างชอบแอปสำหรับ Android ของ Panda ตอนที่เธอทดสอบมัน สแกนเนอร์แอนตี้ไวรัสตามเวลาจริงตรวจพบมัลแวร์ทั้งหมดที่เธอตั้งใจดาวน์โหลดลงบนอุปกรณ์ของเธอ
นอกจากนี้แอปสำหรับ Android ยังมี:
- เครื่องมือป้องกันขโมย ค้นหาตำแหน่ง ปิดล็อกและล้างเครื่องจากระยะไกล คุณยังสามารถเปิดเสียงแจ้งเตือนเพื่อค้นหาอุปกรณ์และถ่ายรูปคนที่อาจเป็นขโมยได้
- เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ เพิ่มความเร็วประสิทธิภาพของอุปกรณ์โดยการกำจัดการดำเนินการที่ไม่จำเป็นออก
- การประเมินความเป็นส่วนตัว ประเมินคำอนุญาตแอป เช่น การเข้าถึงรูปภาพ ข้อมูลติดต่อและข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง
แอปยังมีการเชื่อมต่อสมาร์ทวอชสำหรับนาฬิกา Wear OS ด้วย
ซึ่งพบได้ในแอปแอนตี้ไวรัสอื่น ๆ อย่าง แอปมือถือของ Bitdefender มันให้คุณเปิดเสียงแจ้งเตือนจาก Android ของคุณจากระยะไกลได้และนาฬิกาของคุณจะสั่นเมื่อคุณออกห่างจากอุปกรณ์ของคุณ นอกจากนี้มันยังให้คุณถ่ายรูปบน Android ของคุณโดยใช้สมาร์ทวอชได้ — บางสิ่งที่แอปของ Bitdefender ไม่มีให้
โดยรวมแล้วแอปของ Panda ทำงานได้พอใช้ แม้ว่าฉันจะเลือกไม่ใช้แอป Panda สำหรับ iOS แต่แอปสำหรับ Android ทำงานได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามแฟนสาวของฉันชอบแอปแอนตี้ไวรัสสำหรับ Android อื่น ๆ ที่เธอทดสอบมากกว่า
บริการลูกค้าของ Panda Security
ประสบการณ์ของฉันที่มีต่อบริการลูกค้านั้นไม่ดีนัก ปัจจุบันพวกเขามีเฉพาะแชทออนไลน์และโทรศัพท์สำหรับผู้ใช้ Panda Dome Premium เท่านั้น — ซึ่งถือว่าน่าผิดหวังสำหรับคนที่จ่ายเงินซื้อแพ็กเกจอื่น ๆ ผู้ใช้อื่น ๆ มีตัวเลือกเฉพาะแบบฟอร์มช่วยเหลือผ่านทางอีเมลที่แสนล่าช้าที่จำเป็นต้องเข้าถึงผ่านเว็บไซต์ของ Panda
อย่างที่กล่าวบริการลูกค้าพรีเมียมตลอด 24 ชั่วโมง — หมายความว่ามันรับประกันการตอบกลับไม่ว่าจะช่วงไหนของวันก็ตาม
การตอบกลับที่ฉันได้รับตอนที่ฉันทดสอบบริการความช่วยเหลือทั้งทางอีเมลและแชทออนไลน์โดยรวมแล้วค่อนข้างแย่และพวกเขายังใช้เวลาในการตอบกลับนาน ฉันเข้าใจว่าการตอบกลับทางอีเมลนั้นอาจมีการล่าช้า แต่บริการแชทออนไลน์ใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาทีเพื่อตอบกลับข้อความของฉัน
ในกรณีส่วนใหญ่ มันดูเหมือนว่าตัวแทนจะไม่ค่อยเข้าใจว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรหรือไม่งั้นพวกเขาก็ไม่รู้จักวิธีตอบคำถามของฉันอย่างเหมาะสม — พวกเขาแค่ตอบกลับฉันด้วยลิงก์หน้าคำถามพบบ่อยที่ไม่ตอบคำถามของฉันสักเท่าไหร่แทน
มีตัวแทนทางแชทออนไลน์เพียงคนเดียวที่มีประโยชน์และให้คำตอบกับฉันเกี่ยวกับโหมดสำหรับเล่นเกมได้อย่างชัดเจน คนอื่น ๆ ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรฉันเลยและเลือกที่จะไม่ตอบคำถาม (พื้นฐาน) ที่เฉพาะเจาะจงของฉันและให้ข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์ของ Panda ที่ไม่ถูกต้อง — ซึ่งฉันต้องมานั่งแก้ไขด้วยตัวฉันเอง!
โดยรวมแล้วฉันผิดหวังกับประสบการณ์บริการลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันต้องจ่ายเงินซื้อแพ็กเกจที่มีราคาแพงที่สุดเพื่อเข้าถึงบริการแชทออนไลน์ นอกจากนี้มันยังน่าผิดหวังที่ Panda ไม่มีบริการลูกค้าสำหรับผู้ใช้ที่จ่ายเงินทุกคน — แอนตี้ไวรัสอื่น ๆ ส่วนใหญ่อย่าง Norton มีบริการทั้งแชทออนไลน์และโทรศัพท์สำหรับผู้ใช้ทุกคน
Panda Security คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปในปี 2024 ไหม?
ฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของ Panda รวมถึง:
- การป้องกันแอนตี้ไวรัสและการกำจัดแรนซัมแวร์
- Rescue Kit
- เครื่องมือเข้ารหัสไฟล์และเครื่องมือกำจัดไฟล์
- แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง
กลไกการสแกนแอนตี้ไวรัสของ Panda ทำงานได้เกือบจะสมบูรณ์แบบในการทดสอบของฉันโดยปิดกั้นตัวอย่างแรนซัมแวร์ได้ 100% และตัวอย่างมัลแวร์ได้ประมาณ 95% บนอุปกรณ์ของฉัน
ฉันชอบเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์มาก ๆ — มันทำงานได้รวดเร็วและใช้งานง่าย หน้าจอก็ได้รับการออกแบบมาอย่างดีและใช้งานง่ายซึ่งหมายความว่าแฟนสาวที่ไม่มีความรู้ทางด้านเทคนิคของฉันสามารถเข้าถึงแต่ละฟีเจอร์ตอนที่เธอทดสอบมันได้อย่างง่ายดาย
ฟีเจอร์ที่ฉันชื่นชอบ (และน้องชายของฉันก็ด้วยเช่นกัน) คือ Rescue Kit — บางสิ่งที่ฉันคิดว่าผู้ใช้ PC ทุกคนควรพิจารณาเมื่อมองหาแอนตี้ไวรัส นอกจากนี้ฉันยังชอบที่ Panda ทำให้การเข้ารหัสและถอดรหัสไฟล์ความลับของฉันเป็นเรื่องง่ายและสามารถลบไฟล์ที่ไม่ต้องการที่ประกอบด้วยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยใช้เครื่องมือลบไฟล์ถาวรได้โดยสมบูรณ์ — หมายความว่าแฮ็กเกอร์ไม่สามารถใช้วิธีขั้นสูงเพื่อกู้ไฟล์เหล่านี้ได้
อย่างไรก็ตามฉันรู้สึกแย่กับฟังก์ชันการทำงานของฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ มากมายซึ่งรวมถึงผู้จัดการรหัสผ่านและ VPN — VPN ทำงานได้ช้ามากและยังไม่ปลอดภัยโดยสมบูรณ์เมื่อฉันทดสอบมัน การป้องกันเว็บไซต์ล้มเหลวในการปิดกั้นลิงก์ฟิชชิ่งส่วนใหญ่ที่ฉันใช้ทดสอบ — แม้แต่เว็บไซต์ฟิชชิ่งที่เห็นได้ชัดที่ลอกเลียนแบบหน้าเข้าสู่ระบบของ Amazon และ PayPal
เหตุผลที่ฉันจะไม่ใช้ Panda นั้นรวมถึง:
- ผลลัพธ์การตรวจจับลิงก์ที่น่าสงสัยและฟิชชิ่งที่ไม่ดี
- VPN ทำงานช้าพร้อมข้อบกพร่องในการป้องกันหมายเลข IP
- ประสบการณ์บริการลูกค้าที่ไม่ดี
- ฟีเจอร์เสริมที่ใช้งานยากซึ่งรวมถึงผู้จัดการรหัสผ่าน
แม้ว่า Panda เวอร์ชั่นฟรีจะทำงานได้พอใช้ แต่ฉันคิดว่าแพ็กเกจพรีเมียมมากมายมีราคาแพงเกินไป แบรนด์อื่น ๆ อย่าง Norton และ McAfee มีการป้องกันที่คล้ายกันสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายพร้อมด้วยฟีเจอร์จำนวนมากกว่าในราคาที่ถูกกว่า
อย่างไรก็ตามด้วยรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วันในทุกแผนให้บริการ มันคุ้มค่า 100% ที่จะทดลองใช้แพ็กเกจ Panda Dome ใด ๆ โดยไม่มีความเสี่ยงเพื่อดูว่าพวกเขาเป็นแอนตี้ไวรัวที่ดีที่สุดสำหรับคุณหรือเปล่า
คำถามที่พบบ่อย
Panda Dome ปลอดภัยหรือเปล่า?
Panda Dome ปลอดภัยในการใช้งาน 100% มันเป็นซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ถูกกฎหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการปิดกั้นมัลแวร์และการโจมตีทางไซเบอร์ล่าสุด
Panda ได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันภัยคุกคามล่าสุดซึ่งรวมถึง:
- แรนซัมแวร์
- สปายแวร์
- URL ที่เป็นอันตราย
- โทรจัน
- และอื่น ๆ…
มันใช้งานง่ายและประกอบไปด้วยฟีเจอร์เสริมมากมายซึ่งรวมถึงแผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ VPN ผู้จัดการรหัสผ่าน เครื่องมือเข้ารหัสไฟล์และเครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวร
แต่มีสองสามอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Panda Dome ก่อนที่คุณจะพิจารณาทดลองใช้มัน
Panda Dome ใช้งานกับ Mac ได้ไหม?
ได้ Panda มีซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นสำหรับ macOS
มันมี:
- การสแกนแอนตี้ไวรัส
- การป้องกันเว็บไซต์
- VPN แบบผสานรวม
แต่มันไม่ดีพอที่จะได้รับการจัดอันดับในรายการ 5 แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Mac ของเรา การสแกนแอนตี้ไวรัสทำงานได้ช้ามากและซอฟต์แวร์ยังขาดฟีเจอร์เสริมมากมายที่ทำให้ Panda เวอร์ชั่น PC เป็นตัวเลือกที่ดี — รวมถึง Rescue Kit แผงควบคุมสำหรับผู้ปกครอง เครื่องมือกำจัดไฟล์ถาวรและเครื่องมือการเข้ารหัสและอื่น ๆ
หากคุณกำลังมองหาการป้องกัน Mac ที่สมบูรณ์ คุณควรดทดลองใช้ Intego
Panda Dome มีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ 100% จริงหรือเปล่า?
แม้ว่ากลไกการสแกนแอนตี้ไวรัสของ Panda จะทำงานได้ดีในการทดสอบมัลแวร์ของฉัน แต่มันก็ไม่สามารถทำคะแนนอัตราการตรวจจับได้ 100% ในทุกกรณี
มันสามารถ:
- ตรวจจับไฟล์ตัวอย่างมัลแวร์ที่ยังไม่เปิดใช้งานได้ถึง 95% ในระหว่างการสแกนแบบเต็มรูปแบบ
- ปิดกั้นตัวอย่างมัลแวร์ที่ถูกเปิดใช้งานได้ถึง 100% (รวมถึงแรนซัมแวร์ WannaCry)
- กำจัดสปายแวร์ก่อนติดตั้งได้ถึง 100%
เครื่องมือการสแกนบนคลาด์แยกต่างหากของ Panda ที่มีชื่อว่า “Panda Cloud Cleaner” มอบการสแกนระบบขั้นสูงกว่า — โดยตรวจจับไฟล์ที่น่าสงสัยที่หยั่งรากลึก แต่แม้ว่าฉันจะทดสอบมันกับโฟลเดอร์ตัวอย่างมัลแวร์เดิมที่ใช้ในการทดสอบแอนตี้ไวรัสดั้งเดิม มันก็ยังตรวจจับบางไฟล์ไม่พบมัลแวร์
ดังนั้นแม้ว่า Panda Dome จะไม่มีอัตราการตรวจจับ 100% ต่อมัลแวร์ทุกประเภท แต่ไฟล์ที่มีการรุกรานสูงสุดซึ่งรวมถึงแรนซัมแวร์ถูกปิดกั้นและกำจัดอย่างปลอดภัย แต่มีเหตุผลสองสามอย่างว่าทำไมกลไกการสแกนของ Panda ถึงมีประสิทธิภาพอย่างมาก
VPN ฟรีของ Panda ปลอดภัยสำหรับการใช้งานหรือเปล่า?
VPN ของ Panda ปลอดภัยสำหรับการใช้งาน มันขับเคลื่อนโดยผู้ให้บริการ VPN ที่เป็นที่รู้จักกันดี Hotspot Shield มันป้องกันการเชื่อมต่อของคุณและป้องกันหมายเลข IP ของคุณจากการถูกติดตาม
VPN ของ Panda ยังมี:
- นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานเคร่งครัด หมายความว่าพวกเขาไม่บันทึกกิจกรรมการท่องเว็บหรือหมายเลข IP ของคุณ
- การเข้ารหัสแบบ AES 256-บิต ซึ่งเข้ารหัสเส้นทางการเข้าชมทั้งหมดที่ดำเนินการผ่าน VPN
- รองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ป้องกันการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ต่างๆ ในเวลาเดียวกันได้ถึง 5 อุปกรณ์
แม้ว่าเครื่องมือทดสอบการรั่วไหล DNS บางเครื่องมือจะแนะนำว่ามีมันมองเห็นหมายเลข IP ของฉัน แต่ Hotspot Shield ระบุว่าเครื่องมือเหล่านั้นล้มเหลวในการตรวจจับซึ่งเส้นทางเข้าชมทั้งหมดดำเนินการผ่าน VPN นั้นได้รับการป้องกันโดยสมบูรณ์โดยใช้การเข้ารหัส AES 256-บิต
อย่างไรก็ตามเมื่อฉันทดสอบความเร็วโดยเฉลี่ยของ VPN มันก็ไม่เป็นไปอย่างที่ฉันคาดหวังเอาไว้เมื่อเทียบกับ VPN อื่น ๆ ที่ฉันทดสอบ มันยังมีข้อจำกัดในแง่ของตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์และฟังก์ชันการทำงาน ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า VPN ของ Panda เหมาะสำหรับคุณหรือไม่ก่อนตัดสินใจซื้อ